12/29/2012

เคล็ดลับเด็ด! ดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ


วิธีรักษาสุขภาพ

เคล็ดลับเด็ด! ดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ

วันนี้เรามีเคล็ดลับน่ารู้มาฝากคอกาแฟทั้งหลายกันกับการดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ จากที่เคยได้ยินกันทั่วไปว่าการดื่มการแฟนั้นให้โทษต่อร่างกาย เพราะเนื่องจากการดื่มกาแฟนั้นมีส่วนผสมของคาเฟอีน แต่ถ้าเรารู้จักดื่มรู้จักเลือกแล้วหล่ะก็การดื่มกาแฟก็สามารถกลายเป็นการดื่มเพื่อสุขภาพได้เช่นกันค่ะ วันนี้เราก็เลยนำเอา 6 ข้อน่ารู้ดีๆ เกี่ยวกับการ ดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ มาแนะนำให้รู้กันค่ะ ลองมาเปลี่ยนความเชื่อที่อคติกับการดื่มกาแฟของหลายๆ คนกันดีกว่านะค่ะ สำหรับ ดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ นี้นะค่ะ เน้นไปที่การเลือกกาแฟมากกว่าเพราะฉะนั้นแล้ววันนี้เราเข้าไปดู 6 ข้อน่ารู้ๆ ดีๆ เกี่ยวกับการ ดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ กันเลยดีกว่าค่ะ ก็อย่างที่เรารู้กันว่า อะไรที่เยอะไปก็ไม่ดี อะไรที่น้อยไปก็ไม่พอ เพราะฉะนั้นแล้วเราควรที่จะเลือกอะไรที่มันพอดีๆ กับตัวเองนะค่ะ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้อะไรดีๆ เพื่อสุขภาพแล้วหล่ะค่ะ

Tips to Slim : ดื่มกาแฟ 7 Days Slim วันละ 1-2 แก้ว เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว


  •   ดื่ม 7 Day slim Coffee ก่อนอาหาร 30 นาทีเพื่อช่วยยับยั้งการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลและดูดซึมน้ำตาลจากมื้ออาหาร
  •  ดื่ม 7 Day slim Coffee ยามบ่าย ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันร่างกาย      กล้ามเนื้อกระชับ  ปรับรูปร่างให้เพรียวสวย
กาแฟ 7 days slim ขนาดบรรจุ 14 ซอง/ กล่อง
ราคา 350 บาท  ราคาสมาชิก 280 บาท
กาแฟ 7 Days Slim อร่อยได้ แต่ไม่อ้วน
สวยสั่งได้ โทรเลย
สนใจติดต่อ คุณพิมพ์สิริ สุทธิวิวัฒน์ 083-018 9430


6 เคล็ดลับ ดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ

1. ไม่จริงว่าการดื่มกาแฟทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิต เป็นหมัน ทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์แท้งได้ ส่งผลให้ทารกแรกคลอดน้ำหนักน้อย เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ ซีสต์ในเต้านม และกระดูกพรุน ถ้าคุณดื่มเพียงวันละ 1-2 ถ้วย

2. ไม่รู้ใช่มั้ย...กาแฟช่วยลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคพาร์คินสัน ลดอันตรายจากตับในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคตับ ลดอาการหอบในผู้ที่มีโรคหอบหืด เพิ่มความจำ และสำหรับนักกีฬาจะช่วยเพิ่มความทนและความอึดในกีฬาที่ต้องใช้เวลานาน

3. ต้องดื่มบ่อยๆ...สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเพราะต้องการแก้ง่วงแนะนำให้ดื่มปริมาณน้อยๆ แต่กระจายการดื่มออกไปตลอดวัน เช่น แทนที่จะดื่มถ้วยใหญ่ 16 ออนซ์ (500 มล.) ในตอนเช้า ให้ดื่มเพียงครั้งละ 2-3 ออนซ์ (60-90 มล.) แต่บ่อยขึ้น กาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ใน 15 นาที และจะอยู่ในร่างกายนานหลายชั่วโมงและต้องใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงกว่าที่จะถูกขจัดออกจากร่างกาย


4. กาแฟดีกว่าไวน์และชาสมุนไพร...เมล็ดกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวถึง 4 เท่า และยังมากกว่าโกโก้ ชาสมุนไพร และไวน์แดง ที่มากกว่าเพราะผู้บริโภคดื่มกาแฟมากกว่าเครื่องดื่มอื่นๆ แต่สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟแต่ละถ้วยและแต่ละยี่ห้อนั้นก็ไม่เท่ากัน ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของกาแฟ

5. ระวังไว้นิดก็ดี...องค์ประกอบหลักของกาแฟคือ สารกาเฟอีนซึ่งเป็นสารกระตุ้นที่มีผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นหรือเต้นผิดปกติในบางครั้งและเพิ่มความดันโลหิต งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโทรอนโทเปิดเผยว่า การดื่มกาแฟมากอาจเพิ่มความเสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลันในผู้ที่มียีนขจัดกาเฟอีนช้าทำให้กาเฟอีนอยู่ในกระแสเลือดนานขึ้น แต่สำหรับคนที่มียีนปกติที่ขจัดกาเฟอีนได้เร็วกาแฟก็จะไม่มีผล

6. ดีแคฟ...ไม่ช่วยอะไร ผู้ที่ดื่มกาแฟสกัดกาเฟอีนอาจคิดว่าปลอดภัยแต่นักวิจัยเตือนว่า กาแฟสกัดกาเฟอีนอาจเพิ่มระดับกรดไขมันในเลือดให้สร้างแอลดีแอล ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลตัวร้ายได้เพราะในกระบวนการสกัดกาเฟอีนจะสกัดเอาสารเฟลโวนอยด์ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสารอื่นๆ ที่ให้รสชาติกาแฟแท้ๆ ออกไปด้วย ดังนั้น การดื่มดีแคฟนอกจากจะอร่อยน้อยลงแล้วยังมีผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย

อะไรที่มากหรือน้อยเกินพอดีล้วนมีโทษทั้งสิ้นเพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากดื่ม กาแฟให้ได้ประโยชน์ก็ต้องเลือกในปริมาณและรสชาติที่เกินพอดีแล้วจะมีความสุขกับกาแฟแก้วโปรดไปอีกนานๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
http://www.n3k.in.th

No comments: