ลำปาง…ไม่ได้เป็นเพียงแค่เมืองผ่าน
|
| หากพูดถึงเมืองลำปาง เปรียบเสมือนเส้นทางผ่านที่ใช้เดินทาง สู่เมืองเชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวยอดฮิต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ แวะลำปางเพื่อไปวัดพระธาตุลำปางหลวงวัดคู่บ้านคู่เมือง ประจำจังหวัด แล้วมุ่งหน้าเดินทางไปเชียงใหม่ต่อ น้อยคนนักที่ ตั้งใจเข้าไปสัมผัสเมืองนี้อย่างจริงจัง สำหรับฉันเองรู้จักลำปาง แค่เพียงผิวเผินจนเมื่อเวลาผ่านไป มีโอกาสรู้จักสถานที่ท่องเที่ยว ของลำปางมากขึ้นจึงได้รู้ว่าที่นี้มีอะไรที่น่าสนใจมากมาย การเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดที่แสนยาวนาน ในขณะที่ทุกคน กำลังมุ่งหน้าสู่เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตแต่ฉันกับเพื่อนขอไปเปิด มุมมองในการท่องเที่ยวใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ณ เมืองลำปาง |
|
เช้าตรู่ของวันใหม่ จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวของเรา เริ่มต้นที่ ชุมชนกาดกองต้า ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองลำปาง สำหรับการเดินทางมาที่นี่ ได้รับการอำนวยความสะดวกจากเจ้าของ บ้านสบายดี เกสต์เฮาส์ ที่ได้จองไว้แต่เนื่องจากเปลี่ยนแผนการเดินทางกะทันหัน จากที่จะค้าง กาดกองต้า 1 คืน เป็นไปค้างที่บ้านป่าเมี้ยงเพื่อไปชมเทศกาลดอกเสี้ยวบาน จึงไมไ่ด้พักที่นี่ แต่เจ้าของที่พักก็ยัง ดูแลพวกเราดีมาก เริ่มตั้งแต่ มารับที่สถานีขนส่งหลังจากนั้นก็ให้มาอาบน้ำล้างหน้าล้างตาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว บ้านสบายดี เกสต์เฮาส์ เป็นที่พักที่ตั้ง อยู่ในย่านกาดกองต้า ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่แอบมีมุมกิ๊บเก๋ เจ้าของใจดีและน่ารักมาก ช่วยเหลือในการเดินทางทุกอย่าง ที่นี่มี บริการเครื่องดื่มเบเกอรี่ด้วย รสชาติอร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะเค้กช้อคโกเลต ผ่านมาแถวกาดกองต้าก็อย่าลืมแวะมาใช้บริการได้ค่ะ
|
|
|
ชุมชนกาดกองต้า มีสิ่งน่าสนใจ คือ สถาปัตยกรรมบ้านเรือนโบราณหลากสไตล์ ทั้งแบบเรือนแบบไทยภาคกลาง เรือนล้านนา เรือนพม่า เรือนแบบจีน และเรือนขนมปังขิงแบบฝรั่งตะวันตก สร้างขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ในยุคที่กาดกองต้าเป็นตลาดที่เจริญรุ่งเรืองหากต้องการ เดินชมบ้านเรือนในย่านและต้องการสัมผัสชีวิตของคนในชุมชนนี้อย่างแท้จริง แนะนำให้ในช่วงเช้าถึงสายเพราะเป็นเวลาที่ผู้คนยังไม่ พลุกพล่านมากนัก พวกเราเดินไปเรื่อยข้ามสะพานรัษฎาภิเษก สะพานเก่าแก่ของเมืองลำปาง ไปยังตลาด เพื่อหาอะไรทานในมื้อเช้าี้ ที่ตลาดเช้า หรือ ตลาดรัษฎา มีของกินมากมาย ทั้งกาแฟ โอวัลติน หมูปิ้ง ข้าวเหนียว โจ๊ก น้ำเต้าหู้ ราคาของอาหารแต่ละอย่างถูกมาก เป็นราคาที่หาทานไม่ได้ในเมืองใหญ่ มีเงิน 30 บาท กินกันจนท้องอิ่มไปเลย
|
|
บรรยากาศของชุมชนกาดกองต้าอันสงบในยามเช้า
|
|
|
|
กาดกองต้าในช่วงเย็นจะถูกเนรมิตกลายเป็นถนนคนเดิน เริ่มตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็น – 5 ทุ่ม เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ มีพ่อค้าแม่ค้า มาวางของขายทั้งของกินพื้นเมืองให้เลือก ชิมมากมาย นอกจากนี้ยังมีสินค้าของที่ระลึก น่ารักในแบบต่างวางขายด้วย
|
ถนนคนเดินกาดกองต้ายามเย็น
|
|
|
เที่ยวชมวิถีชีวิตแล้ว มาลำปางขาดไมไ่ด้ คือ เที่ยววัดที่มีชื่อเสียงของลำปางนอกจาก วัดพระธาตุลำปางหลวง แล้ว ยังมีวัดที่มีเสียง ีอีกหลายวัด ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองอย่างเช่น วัดพระแก้วดอนเต้า ห่างจากเมืองลำปางเพียง 4 กิโลเมตร วัดนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานของ พระแก้วมรกตเป็นวัดเก่าแก่และสวยงาม มีอายุนับพันปี เหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าวัดพระแก้วดอนเต้ามีตำนานกล่าวว่า พระมหาเถระแห่งวัดนี้ ีได้พบแก้วมรกตในแตงโมและนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปแต่ต่อมาถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน ปูชนียสถานที่สำคัญในวัดพระแก้วดอนเต้า ได้แก่ พระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า มณฑปศิลปะพม่ามี ีลักษณะงดงามและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่วิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่มีอายุเก่าพอๆกับวัดนี้
|
|
|
| จากวัดพระแก้วดอนเต้า ไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึง วัดพระเจดีย์ซาวหลัง วัดนี้มีสิ่งน่าสนใจ คือองค์พระธาตุเจดีย์ซาว จำนวน 20 หลังสร้างด้วยศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่าซึ่งตรงกับชื่อ วัด ซาว แปลว่า 20 หลังแปลว่าองค์ ว่ากันว่าหากใครนับพระเจดีย์ ์ได้ครบ 20 หลัง เป็นผู้ที่มีบุญมาก ข้างหมู่พระเจดีย์มีวิหารหลังเล็ก ประดิษฐาน พระพุทธรูปสำริดปางสมาธิศิลปะเชียงแสน ชาวบ้าน เรียกว่า "พระพุทธรูปทันใจ"พระอุโบสถ หลังใหญ่ ซึ่งประดิษฐาน พระประธานเป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย มีพุทธลักษณะงดงาม |
|
|
อิ่มบุญอิ่มใจกันแล้ว พวกเราแวะไปชมอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลำปาง นั่นคือ รถม้าลำปาง มาเมืองลำปางหากไม่ได้มาชมรถม้า ก็เหมือนมาไม่ถึง รถม้าจะตั้งเรียงรายกันอยู่หน้าศาลากลางจังหวัด คอยให้บริการนักท่องเที่ยวที่สนใจชมเมืองลำปางแบบให้ได้อรรถรส ้ยิ่งขึ้น เพราะมีเพียงเมืองลำปางเท่านั้นที่ยังคงใช้รถม้าอยู่ตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ สำหรับราคามีให้เลือกหลายรูปแบบชมเมือง มีรอบเมืองเล็ก 150 บาท รอบเมืองใหญ่ 200 บาท หรือหากเป็นรายชั่วโมงก็จะอยู่ที่ราคา 250 บาท ก่อนสิ้นแสงสุดท้ายพวกเราเตรียม เดินทาง มุ่งหน้าสู่บ้านป่าเมี้ยง เพื่อไปเที่ยวเทศกาลดอกเสี้ยวบาน ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนก.พ.หากเอ่ยชื่อบ้านป่าเหมี้ยงและ ดอกเสี้ยวบาน คงเป็นชื่อสถานที่ท่องเที่ยว ที่อาจไม่คุ้นหูนักจะมีซักกี่คนที่รู้ว่าที่เมืองลำปางมี เทศกาลดอกเสี้ยวบาน 16.00 น. คือเวลานัดหมายของพวกเราและคุณป้าอุบล เจ้าของบ้านพญาวังโฮมสเตย์ บ้านป่าเมี้ยง ซึ่งได้ติดต่อไว้ให้เราติดรถทั้งขาขึ้นและขากลับ แถมพาเที่ยวตามจุดต่างๆ ซึ่งปกติแล้วก็คงจะไม่ได้รวมอยู่ในค่าที่พัก แต่ด้วยความใจดีของคุณป้าจึงยินดีที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่
|
|
|
บ้านป่าเหมี้ยงเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่โอบล้อมด้วยหุบเขา มีอากาศเย็นสบายตลอดปีอยู่ีห่างจากอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนประมาณ 16 ก.ม. วิถีชีวิตของผู้คนในบ้านป่าเมี้ยงยังคงเป็นแบบสังคมแบบชนบทที่มีการพึ่งพาอาศัยกัน ชาวบ้านทั่วไป มีการปลูกเมี้ยงเก็บใบเมี้ยงใบชา เพื่อส่งขายไปยังที่ต่างๆ ที่นี่มีที่พักให้เราได้เลือกพักประมาณ 3 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบโฮมสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน โฮมสเตย์ ของคุณป้าอุบลเป็นบ้านไม้หลังใหญ่ ตกแต่งออกแนวคันทรี่เล็กน้อย ท่ามกลางแมกไม้และลำธาร ข้างในบ้านพักตกแต่งด้วย ของประดับสไตล์ล้านนา ที่พวกเราชอบมาก คือ เตาผิงไฟที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในฟาร์มสเตย์แถวเมืองนอกมาก และที่สำคัญให้ ้ความอบอุ่นช่วยบรรเทาความหนาวได้อย่างดีเยี่ยมในคืนนี้
|
|
|
บ้านป่าเหมี้ยง ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีก 1 จุด คือ จุดชมวิวดอยกิ่วฝิ่น ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านป่าเมี้ยงประมาณ 4 กิโล เป็นจุดชมวิว พระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามของบ้านป่าเมี้ยง พวกเรารีบลงจากหมู่บ้านแต่เช้าเพื่อมุ่งหน้าไปยัง เทศกาลดอกเสี้ยวบาน ปกติจะคุ้นเคย กับดอยสีชมพูของดอกพญาเสือโคร่ง แต่ที่นี่เราจะได้เห็นดอยสีขาว ที่ปกคลุมไปด้วยดอกเสี้ยวป่า ที่บานสะพรั่งสวยงามทั่วขุนเขามี เฉพาะที่จังหวัดลำปางเท่านั้น เดินเก็บภาพความงดงามของดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ไปตามท้องถนนเรื่อยๆแสงแดดอ่อนประกอบกับ ท้องฟ้า สวยใส ทำให้ดอกเสี้ยวสวยชวนมองยิ่งขึ้น
|
|
|
|
พอเริ่มสายนักท่องเที่ยวก็ค่อยทยอยขึ้นมาเที่ยวงานมากขึ้น ภายในงานเรายังได้ชิมอาหารพื้นเมืองสูตรเฉพาะ อาทิ ยำดอกเสี้ยว ยำใบเหมี้ยง และดื่มชาชั้นเยี่ยมพันธ์อัสสัม อีกด้วยก่่อนกลับเข้าตัวเมืองลำปาง คุณป้าอุบล พาเราแวะไป เที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เพื่อไปชมน้ำตกแจ้ซ้อน สำหรับเราถือซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามแปลกตาอีกแห่งหนึ่ง น้ำตกมีทั้งหมด 6 ชั้น การเดินชมน้ำตกแจ้ซ้อนจะมีทางเดินซึ่ง ทางอุทยานฯได้จัดทำไว้เป็นเส้นทางที่สะดวกสบายพอสมควร บางช่วงต้องขึ้นบันไดลาดชันเล็กน้อย
|
|
|
สัมผัสบรรยากาศของน้ำตกเย็นแล้ว ก็มาสัมผัสบรรยากาศแบบอุ่นๆที่บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน กันบ้าง มาเที่ยวน้ำพุร้อนแนะนำว่าให้มาใน ช่วงเช้าน่าจะสวยงามและดีที่สุด เพราะอากาศไม่ร้อนมาก และได้บรรยากาศของไอหมอกบางๆ ที่ลอยอยู่เหนือน้ำกระทบกับแสงแดด อ่อนสีทอง กิจกรรมยอดนิยมของการมาเที่ยวน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน นอกจากจะนอนแช่น้ำร้อนให้ผ่อนคลายแล้ว การต้มไข่ในบ่อน้ำร้อนเป็น กิจกรรมยอดฮิตอีกอย่างหนึ่ง เพราะการต้มไข่ที่นี่จะมีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใคร นั้นคือ หากต้มไข่ทิ้งไว้ประมาณ 23 นาที ไข่แดง จะสุกก่อนไข่ขาว หรือ ไข่แดงจะแข็งและไข่ขาวเหลว เดินชมน้ำพุร้อนแล้วเห็นไข่แช่อยู่ตรงบ่อน้ำมากมาย ็เป็นอันรู้กันค่ะ ว่าทุกคน อยากพิสูจน์ความอัศจรรย์ในครั้งนี้ ที่สำคัญการได้รับประทานไข่ที่ต้มในน้ำแร่จะได้ประโยชน์มากมายกว่าเลยทีเดียว
|
|
มาเที่ยวลำปางในครั้งนี้ทำให้ได้รับรู้ว่า ที่นี่มีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิดไว้เยอะ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและน้ำใจไมตรี ที่่ได้รับ อย่างน้อยทำให้รู้ว่า ลำปางในมุมมองของฉันจากนี้ไป คงไม่ใช่เพียงแค่เมืองผ่านอีกต่อไป
|
|
|
No comments:
Post a Comment