11/01/2011

Health Benefits of Coconut Oil น้ำมันมะพร้าวเพื่อสุขภาพ


น้ำมันมะพร้าวเพื่อสุขภาพ

Health Benefits of Coconut Oil
น้ำมันมะพร้าวเพื่อสุขภาพ

The health benefits of coconut oil include hair care, skin care, stress relief, maintaining cholesterol levels, weight loss, increased immunity, proper digestion and metabolism, relief from kidney problems, heart diseases, high blood pressure, diabetes, HIV and cancer, dental care, and bone strength. These benefits of coconut oil can be attributed to the presence of lauric acid, capric acid and caprylic acid, and its properties such as antimicrobial, antioxidant, antifungal, antibacterial, soothing, etc.


ยังแรงไม่มีหยุดเลยจริงๆ สำหรับน้ำมันที่แสนจะถูกขนานนามว่า วิเศษนักวิเศษหนาอย่าง โดย  "น้ำมันมะพร้าว" ที่วันนี้เราจะพาคุณมาล้วงลึกให้รู้ไปเลยว่า ดีจริง หรือแค่ มั่วนิ่มขึ้นชื่อว่าน้ำมันย่อมมีประโยชน์แก่ร่างกายทั้งสิ้นย เพราะคุณสมบัติหรือหน้าที่ที่สำคัญของ
-ไขมันเป็นตัวที่ให้พลังงานกับร่างกาย

-ช่วยในการดูดซึมวิตามิน เอ ดี อี เค

-ป้องกันการกระทบกระเทือนของอวัยวะภายใน

-ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

How is Lauric Acid Used by our body?


The human body converts lauric acid into monolaurin which is claimed to help in dealing with viruses and bacteria causing diseases such as herpes, influenza, cytomegalovirus, and even HIV. It helps in fighting harmful bacteria such as listeria monocytogenes and heliobacter pylori, and harmful protozoa such as giardia lamblia. As a result of these various health benefits of coconut oil, though its exact mechanism of action was unknown, it has been extensively used in Ayurveda, the traditional Indian medicinal system. The Coconut Research Center has compiled various references on scientific research done on coconut oil

ชนิดของน้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวที่อุปโภค บริโภคกันมีอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะ อย่างแรกเป็นน้ำมันมะพร้าวที่เกิดจากการกลั่น ซึ่งผลิตด้วยการกลั่นมีการใช้ความร้อน และสารเคมีในการผลิต ใช้ในการทอด ปรุงอาหาร ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมสี และอื่นๆ อีกมาก

สำหรับน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Virgin coconut oil) เป็นน้ำมันที่ผลิตโดยไม่ผ่านความร้อน หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า สกัดเย็น (Cold pressed)


ประเภทของน้ำมันมะพร้าว

1. น้ำมันมะพร้าว RBD สกัดได้จากเนื้อมะพร้าวห้าวโดยการบีบ หรือใช้ตัวทำละลาย ผ่านความร้อนสูง และขบวนการทางเคมี RBD คือการทำให้บริสุทธิ์ (refining) ฟอกสี (bleaching) และกำจัดกลิ่น (deodorization) หลังจากที่สกัดได้ เพื่อให้เหมาะสำหรับการบริโภค ได้น้ำมันสีเหลืองอ่อนไม่มีกลิ่นและรส ปราศจากวิตามินอี (เพราะถูกขจัดออกไปโดยขบวนการทางเคมี)



2. น้ำมันมะพร้าวบีบเย็น (cold-pressed coconut oil) โดยขบวนการบีบไม่ผ่านความร้อนสูง ผลิตจากเนื้อมะพร้าวสดเป็นน้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์ที่สุด สีใสเหมือนน้ำ มีวิตามินอี และไม่ผ่านขบวนการเติมออกซิเจน (oxidation) มีค่า peroxide และกรดไขมันอิสระต่ำมีกลิ่นมะพร้าวอย่างอ่อน ๆ ถึงแรง (ขึ้นอยู่กับขบวนการการผลิต) มีความชื้นไม่เกิน 0.1 % เรียก น้ำมันมะพร้าวชนิดนี้ว่าน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Virgin Coconut Oil) ที่ผลิตโดยอุตสาหกรรมขนาดเล็ก หรือในครัวเรือน

Hair Care:


Coconut oil is one of the best natural nutrition for hair. It helps in healthy growth of hair providing them a shiny complexion. Regular massage of the head with coconut oil ensures that your scalp is free of dandruff, lice, and lice eggs, even if your scalp is dry. Coconut oil is extensively used in the Indian sub-continent for hair care. It is an excellent conditioner and helps in the re-growth of damaged hair. It also provides the essential proteins required for nourishing damaged hair. It is therefore used as hair care oil and used in manufacturing various conditioners, and dandruff relief creams. Coconut oil is normally applied topically for hair care.

ข้อดีและข้อเสียของการกินน้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์มีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหาร ได้ดีกว่าไขมันชนิดอื่น ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย กระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ และสร้างความร้อนได้เร็วจึงไม่สะสมในร่างกาย ทฤษฎีแอ็ตกินแนะนำให้กินน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ควบคู่กับอาหารแบบโลว์คาร์บ คืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ โดยอาจนำมาผสมกับสมูตตี้ น้ำสลัด หรือซอส วันละ 2-3 ช้อนโต๊ะ สามารถทำได้จริงและเห็นผลดี แต่ควรอยู่ภายใต้การแนะนำของนักโภชนาการ หากกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกิน 2 เดือนขึ้นไป ควรกินแคลเซียมเสริมเนื่องจากการกินอาหารมัน ๆ จะมีผลต่อการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย

Skin Care:


Coconut oil is excellent massage oil for the skin as well. It acts as an effective moisturizer on all types of skins including dry skin. The benefit of coconut oil on the skin is comparable to that of mineral oil. Further, unlike mineral oil, there is no chance of having any adverse side effects on the skin with the application of coconut oil. Coconut oil therefore is a safe solution for preventing dryness and flaking of skin. It also delays wrinkles, and sagging of skin which normally become prominent with age. Coconut oil also helps in treating various skin problems including psoriasis, dermatitis, eczema and other skin infections. Therefore coconut oil forms the basic ingredient of various body care products such as soaps, lotions, creams, etc., used for skin care. Coconut oil also helps in preventing premature aging and degenerative diseases due to its antioxidant properties...Read More!



น้ำมัน 1 กรัมให้จำนวนแคลอรีเป็น 2 เท่ากว่าของแป้งและโปรตีน พูดง่ายๆคือน้ำมัน 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรีย ขณะที่แป้งหรือโปรตีน 1 กรัมให้พลังงาน 4 แคลอรีย เราจึงสามารถกินแป้งหรือโปรตีนได้มากกว่ากินน้ำมันถึง 2 เท่ากว่า แต่น้ำมันมะพร้าวได้ชื่อว่าเป็น น้ำมันแคลอรีต่ำ และมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้



แม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะได้ชื่อว่า แคลอรี่ต่ำแต่ก็ยังอยู่ที่ 8.6ย แคลอรี ซึ่งสูงกว่าแป้งและโปรตีนอยู่ดีย ซึ่งสาเหตุที่น้ำมันมะพร้าวช่วยลดน้ำหนักได้ก็เพราะ เมื่อกินน้ำมันมะพร้าวร่วมกับอาหารอย่างเหมาะสมย จะทำให้รู้สึกอิ่มท้อง ไม่ต้องกระวนกระวายอยากกินของจุบจิบเหตุผลเพราะ



1.น้ำมันมะพร้าวทำให้เราอิ่มเร็วและอิ่มนานกว่าการกินน้ำมันประเภทอื่นแต่มีนัยสำคัญอยู่ที่การกินน้ำมันมะพร้าว จะได้ผลต่อการผลน้ำหนักก็ต่อเมื่อคนคนนั้นกินแคลอรีรวมน้อยลงด้วย



2.น้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารของร่างกายย หมายความว่าย ร่างกายเกิดการเผาผลาญอาหารเร็วขึ้นก็เลยไม่เหลือน้ำมันตกค้างให้สะสมเป้นความอ้วน แต่นั้นหมายความว่าคุณต้องออกกำลังกายร่วมด้วยจึงจะได้ผลกว่าการกินน้ำมันมะพร้าวแล้วนั่งอยู่เฉยๆ



3.พบว่าในคนรูปร่างปกติเมื่อกินน้ำมันมะพร้าวแล้วย อัตราการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น 48% ในขณะที่ในคนอ้วนพบว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยให้อัตราเผาผลาญเพิ่มขึ้นถึง 65% เลยทีเดียวย ย นั้นแปลว่าคนอ้วนจะถูกกระตุ้นให้เผาผลาญอาหารได้เร็วขึ้นด้วยน้ำมันมะพร้าวมากกว่าคนผอม



4.ผลการเร่งอัตราเผาผลาญไม่ใช่เกิดขึ้นเพียง 1-2 ชั่วโมงหลังอาหารเท่านั้นย หากแต่มันมีผลเพิ่มอัตราเผาผลาญได้นานถึง 24 ชั่วโมงด้วยผลก็คือ แม้จะกินน้ำมันมะพร้าวเข้าไปเพียงมื้อเดียวย เราก็จะรู้สึกว่าร่างกายมีการเผาผลาญที่ให้พลังงานดีขึ้นตลอดวันย มีเรี่ยวแรงในการทำงานมากขึ้น



5.คุณจะต้องไม่ดื่มนมย ไม่กินผลิตภัณฑ์จากนมวัวย เพราะนั่นเป็นแหล่งไขมันจากสัตว์ย ต้องไม่กินเฟรนซ์ฟรายด์ซึ่งเป็นน้ำมันปาล์มทอดซ้ำ ไม่กินขาหมู ข้าวมันไก่ ให้ตั้งหน้าตั้งตากินน้ำมันมะพร้าวอย่างเดียวย ซึ่งคงผิดธรรมชาติและกระทำได้ยาก การกินน้ำมันมะพร้าวจะช่วยลดน้ำหนักได้ก็ก็ต่อเมื่อคุณกินอาหารที่เหมาะสมและออกกำลังกายร่วมด้วยย น้ำมันมะพร้าวจะเข้ามาเป็นตัวเสริมและทำให้อิ่มและเร่งอัตราเผาผลาญนั่นเอง



เข้าใจเรื่องน้ำมันมะพร้าวกันมาพอควรแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเริ่มรับประทานก็คงต้องขอให้ทุกท่านศึกษาข้อมูลให้เพียงพอ อย่ารับประทานมากเกินความจำเป็น เพราะสุดท้ายการรับประทานที่มากหรือน้อยกว่าความต้องการของร่างกายก็ย่อมเกิดผลเสียต่อร่างกายอย่างแน่นอน



ที่มาข้อมูล : www.e-magazine.info


1 comment:

Stephina Suzzane said...

The use of travelling is to regulate imagination by reality, and instead of thinking how things may be to see them, as they are. Cheap Flights to Cairo