วันที่ 1 : กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง-วัดพระหินอ่อน-ช้างเผือก (-/-/D) |
13.00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสายขาออก ชั้น4 ประตู 6 เคาน์เตอร์ N สายการบิน เมียนม่าร์ แอร์เวย์ (8M) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่าน
15.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงย่างกุ้ง โดยเที่ยวบินที่ 8M 336 (เวลาที่พม่าช้ากว่าเมืองไทยครึ่งชั่วโมง)
16.15 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ เมงกาลาดง เมืองย่างกุ้ง หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
นำท่านเดินทางเข้าในตัวเมืองย่างกุ้ง นำท่านนมัสการ วัดพระหินอ่อน (MARBLE BUDDHA) ซึ่งเป็นวัดที่มี
พระพุทธรูปทำจากหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำท่านชมความน่ารัก แสนรู้ของ ช้างเผือก ที่มีลักษณะทั้ง 9 ประการ
ตรงตามตำราโบราณ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ SEDONA HOTEL หรือ PARK ROYAL HOTEL ระดับ 5 ดาว |
|
|
วันที่ 2 : หงสาวดี-วัดไจ๊คะวาย-พระธาตุมุเตา-วังบุเรงนอง-พระธาตุอินทร์แขวน (รวมเสลี่ยงขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน) (B/L/D) |
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองหงสาวดี (บะโค) ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองมอญ
โบราณที่ยิ่งใหญ่และอายุมากกว่า 400 ปี อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้ง (ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร) ใช้เวลาเดิน
ทางประมาณ 1.45 ชม.นำท่านตักบาตรพระสงฆ์กว่า 1,000 รูป ที่ วัดไจ้คะวาย สถานที่ที่มีพระภิกษุและสามเณรไป
ศึกษาพระไตรปิฎกเป็นจำนวนมาก ท่านสามารถนำสมุด ปากกา ดินสอไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้ จากนั้นนำชม เจดีย์ ชเวมอดอร์ หรือพระธาตุมุเตา ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในหงสาวดีสัญลักษณ์ยืนยันความเจริญรุ่งเรือง
อีกทั้งยังเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของกรุงหงสามาช้านาน นำเชิญท่านนมัสการ ยอดเจดีย์หักซึ่งชาวมอญและชาว
พม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก จากนั้นนำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง และ บัลลังก์ผึ้ง ซึ่งเพิ่ง
เริ่มขุดค้นและบูรณปฏิสังขรณ์เมื่อปี พ.ศ.2533 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณ
สถานแห่งนี้เป็นพระราชวังของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองปัจจุบันการขุดค้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็พอจะมองเห็นได้
ว่าบริเวณของพระราชวังแห่งนี้กว้างใหญ่เพียงใด
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่พระธาตุอินทร์แขวน ระหว่างทาง ผ่านชม แม่น้ำสะโตง สถานที่สำคัญ
ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งในอดีตขณะที่ 2 สมเด็จพระนเรศวรกำลังรวบรวมคนไทยกลับอโยธยา ได้ถูกทหารพม่าไล่ตาม
ซึ่งนำทัพโดย สุรกรรมาเป็นกองหน้าพระมหาอุปราชาเป็นกองหลวง ยกติดตามกองทัพไทยมา กองหน้าของพม่าตาม
มาทันที่ริมฝั่งแม่น้ำสะโตง ในขณะ ที่ฝ่ายไทยได้ข้ามแม่น้ำไปแล้ว พระองค์ได้คอยป้องกันมิให้ข้าศึกข้ามตามมาได้
ได้มีการปะทะกันที่ริมฝั่งแม่น้ำสะโตง สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนคาบชุดยาวเก้าคืบยิงถูกสุรกรรมาแม่ทัพ
หน้าพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง กองทัพของพม่าเห็นขวัญเสีย จึงถอยทัพ กลับกรุงหงสาวดี พระแสงปืนที่ใช้ยิงสุรกรร
มาตายบนคอช้างนี้ได้นามปรากฏต่อมาว่า "พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง"นับเป็นพระแสง อัษฎาวุธ อันเป็นเครื่อง
ราชูปโภค ยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระธาตุอินทร์แขวน ใช้เวลาเดินทางประมาณ
45 นาที(ต้องเปลี่ยนเป็นรถท้องถิ่น) เมื่อถึงยอดดอยแล้วพาท่านเดินต่อไปยังองค์พระธาตุอินทร์แขวนชมทัศนียภาพ
อันสวยงามของสองข้างทางพร้อมสัมผัสความเย็นซึ่งจะค่อยๆ เย็นขึ้นเรื่อยๆ เดินทางจนถึงที่พัก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารในโรงแรม
หลังอาหารค่ำเชิญท่าน นมัสการพระธาตุตามอัธยาศัย บริเวณพระธาตุอินทร์แขวน หรือก้อนหินทอง ซึ่งเป็นเจดีย์
ขนาดเล็กสูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ปิดทอง ที่วางหมิ่นเหม่ อยู่บนหน้าผ้า ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์โดย
เชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญพร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะ
ได้สมดั่งปรารถนาทุกประการ สามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน สำหรับท่านที่ต้องการนมัสการกลางแจ้ง
เป็นเวลานาน ที่บริเวณระเบียงที่ยื่นสู่พระเจดีย์ไจ้เที่ยว พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับสุ
ภาพบุรุษ จะเปิดถึงเวลา 22.00 น. พักที่ MOUNTAIN TOP HOTEL หรือ KYAITHOO HOTEL |
|
|
วันที่ 3 : พระธาตุอินทร์แขวน-พระชเวตาเลียง-วัดไจ๊ปุ่น-เจดีย์กาบาเอ-ตลาดสก็อต-เจดีย์ชเวดากอง-ชมโชว์พื้นเมือง (B/L/D) |
05.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม และจัดเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางกลับ
06.00 น. ออกเดินทางกลับ (เปลี่ยนนั่งเสลี่ยง) ถึงคิมปุนแค้มป์ เปลี่ยนเป็นรถปรับอากาศ พร้อมนำท่านเดินทางสู่
กรุงหงสาวดี จากนั้นนำท่านเที่ยว เมืองบะโค หรือหงสาวดี เมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรมอญ
โบราณที่มีอายุมากกว่า 400 ปีและสัมผัสชีวิตชาวเมืองหงสาวดี นมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียง
กราบนมัสการพระพุทธรูปนอนที่ที่มีพุทธลักษณะที่สวยงามในแบบของมอญ ในปี พ.ศ.2524 ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือ
ของชาวพม่าทั่วประเทศและเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของพม่า อีกทั้งท่านสมารถที่จะเลือกหา เครื่องไม้แกะสลักที่
มีให้เลือกมากมายตลอดสองข้างทาง จากนั้นนำชม วัดไจ๊ปุ่น ซึ่งบูรณะเมือง พ.ศ.2019 มีพระพุทธรูปปางประทับนั่ง
โดยรอบทั้ง 4 ทิศ ประกอบด้วย องค์สมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า (ผินพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับพระ
พุทธเจ้าในอดีต สามพระองค์คือ พระพุทธเจ้ามหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) สร้างโดยสี่สาวพี่น้องที่อุทิศตนให้กับ
พระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตนไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ก่อนกลับย่างกุ้ง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม เจดีย์กาบาเอ สร้างครั้งเมื่อปี พ.ศ. 2493-2495 โดยนายอูนุนายกรัฐมนตรีคนแรกของพม่า
เพื่อใช้เป็นสถานที่ชำระพระไตรปิฎกครั้งที่ 6 ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2497 – พ.ศ.2499 และเพื่อให้บังเกิดสันติสุขแก่
โลก ล่าสุดใช้เป็นสถานที่ใช้ในการประชุมสงฆ์โลกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547 ที่ผ่านมา ที่สำคัญเป็นที่ประดิษ
ฐานพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทั้งพระธาตุของ พระสารีบุตรและพระโมคลานะ นอกจากนั้นยังมีพระมหามุนีจำลอง
(สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 5 ของพม่า องค์จริงอยู่ที่มัณฑะเลย์) นำท่านเลือกซื้อสินค้าที่ “สก๊อตมาร์เก็ต”
(SCOTT MARKET) ซึ่งสร้างโดยชาวสก๊อตสมัยเมื่อครั้งพม่ายังคงเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ ท่าน
จะสามารถซื้อหาของที่ระลึกพื้นเมืองได้มากมายในราคาถูก เช่น ไม้ และงาช้างแกะสลัก พระพุทธรูปไม้หอมแกะสลัก
แป้งทานาคา ผ้าปักพื้นเมืองและเครื่องเงิน นำท่านผ่านชม เจดีย์ซูเลย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมกลาง
เมืองย่างกุ้ง สร้างในสมัยที่อังกฤษยังปกครอง 3 พม่าอยู่นำท่านสักการะ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระมหา
เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่าและชาวต่างชาติมากมายพากันเที่ยวชมและนมัสการทั้งกลางวันและ
กลางคืนอย่างไม่ขาดสายว่ากันว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีกปัจจุบันรัฐบาลพม่าได้บูรณะพระ
มหาเจดีย์ชเวดากองเสร็จสิ้นแล้วให้ความงดงามยิ่งใหญ่สมเป็นมหาเจดีย์ที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
19.00 น. บริการอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์นานาชนิด ให้ท่านได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองแบบพม่า
พร้อมชมการแสดงนาฏศิลป์ของพม่า อันงดงามอ่อนช้อย ณ ภัตตาคาร
พักที่ SEDONA HOTEL หรือ PARK ROYAL HOTEL ระดับ 5 ดาว |
|
|
วันที่ 4 : สิเรียม-เจดีย์เยเลพญา-วัดบารมี-พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี-เจดีย์โบตาทาวน์-พระเทพทันใจ-เทพกระซิบ-ย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ (B/L/D) |
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากนั้นเดินทางสู่เมือง สิเรียม ชมความสวยงามแปลกตาของเมือง ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกส
ตั้งแต่ในสมัย นายพล ฟิลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต จนมาสิ้นสุดเมื่อปี พ.ศ. 2156 ร่วมสมัยพระเจ้าทรงธรรมกรุงศรีอยุธยา
ท่านจะเห็นเศษซากกำแพง สไตล์ ลูซิตา เนียนบาโรก ( Lusitanian Baroque ) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำย่างกุ้งที่
เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี นำท่านนั่งเรือแจว ชม พระเจดีย์เยเลพญา พระปางมารวิชัยอันงดงามบนเกาะกลาง
น้ำนับพันปีที่เป็นที่สักการะของชาวสิเรียม เกาะนี้ไม่ว่าน้ำจะขึ้นสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันน้ำท่วมได้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือ
บนเกาะ สามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกตัวใหญ่นับร้อย ๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ วัดบารมี ให้สักการะพระเกศาของพระพุทธเจ้า ที่เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่จริง ด้วยองค์
พระเกศาธาตุนี้เมื่อนำมาวางบนมือ จะสามารถเคลื่อนไหวได้อีกทั้งวัดนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นที่เก็บองค์พระบรมสารีริกธาตุ
ไว้มากที่สุดด้วยไม่ว่าจะเป็นของพระโมคาลา พระสารีบุตร และองค์พระอรหันต์ต่าง ๆ
นำท่านชม พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี นมัสการพระพุทธรูปนอนที่มีความยาว 55 ฟุต สูง 16 ฟุต
ซึ่งเป็นพระที่มีความสวยงามมาก โดยเฉพาะดวงตา และพระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ
เที่ยง บริการอาหารเที่ยว ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านชม เจดีย์โบตาทาวน์ ซึ่งโบตะทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหาร 1000 นาย ได้สร้างเจดีย์โบ
ตะทาวน์นี้และทรงนำพระเกศธาตุ ไว้ 1 เส้น ก่อนที่จะนำไปบรรจุที่เจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆ เมื่อเดินเข้า
ไปในเจดีย์สามารถมองเห็นพระเกศาธาตุได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมภายในบริเวณรอบๆเจดีย์ คือ
พระพุทธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวามือ เป็นพระพุธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามยิ่งนัก ตามประวัติ
ว่าเคยประดิษฐานอยู่ในพระราชวังมัณฑะเลย์ ครั้งเมื่อพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษในปี พ.ศ. 2428 ถูกเคลื่อนย้าย
ไปยังพิพิธภัณฑ์กัลป์กัตตาในอินเดีย ทำให้รอดพ้นจากระเบิดของฝ่ายพัธมิตรที่ถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ ต่อมาในปี
2488 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียและแอลเบร์ต นอกจากนั้น และด้านซ้ายมือจะเป็นรูปปั้น
นัตโบโบยี หรือ เทพทันใจ ซึ่งชาวชาวพม่า รวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชา ด้วยที่เชื่อว่าเมื่อ
อธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจ จากนั้นนำท่านสักการะ เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ” ซึ่งการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมากเช่นกัน
สมควรเวลาเดินสู่ สนามบินนานาชาติ เมงกาลาดง
16.30 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินเมียนม่าร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 8M 331
18.50 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
จองด่วน จำนวนจำกัด! |
3 comments:
interesting blog. It would be great if you can provide more details about it. Thanks you
Australiano de Inmigración
interesting blog. It would be great if you can provide more details about it. Thanks you
Australiano de Inmigración
You've recently been asked for a blood test, tuberculin skin test, urinalysis drug test, complete physical exam, background check, and you're at the end of the written portion of the Winter Psych Test when you come to the statement: 'In everything I do lately I feel that I am being tested. Flights to Singapore
Post a Comment