ศูนย์ สิงห์ เซ็นเตอร์ อโศก ต้องการมากที่สุด อาสาสมัครจำนวนมาก

คอลัมน์: อาทิตย์เอกเขนก: สันติ ภิรมย์ภักดี หัวใจสิงห์เจ้าป่า

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2554 00:00:25 น.

จากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แม้ว่าจะนำมาซึ่งหยาดเหงื่อและหยาดน้ำตาของใครหลายคน แต่ขณะเดียวกัน ธารน้ำใจของพี่น้องชาวไทยก็เกิดขึ้น แถมยังยิ่งใหญ่มากกว่าปริมาณน้ำที่กำลังจ่อเข้าถล่มกรุงเสียอีก เพราะพี่น้องชาวไทยทั้งองค์กรเล็ก องค์กรใหญ่ รวมไปถึงกลุ่มคนเล็กๆ ต่างยื่นมือยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่นี้

บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ถือเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่หันมาให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว ด้วยการจัดตั้งหน่วยงาน "สิงห์ อาสา" ขึ้นมาเฉพาะกิจ เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

คุณสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด แม่ทัพใหญ่แห่งค่ายเครื่องดื่มสิงห์ เล่าว่า ตั้งแต่เกิดน้ำท่วมเรามองเห็นสภาพความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง จึงตัดสินใจที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัย ด้วยการตั้ง ทีมสิงห์ อาสา ขึ้นมา ให้พนักงานส่วนหนึ่งเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ

"เราคนเดียวคงไม่สามารถทำได้ จึงอยากขอความร่วมมือทุกคนให้ช่วยกระจายข่าว และเข้ามาร่วมให้ความช่วยเหลือ เพราะบริษัทของเราไม่ใช่องค์กรที่จะมาช่วยเหลือและดูแลผู้ประสบภัย แต่ถ้ามีอะไรที่เราพอจะช่วยเหลือได้ เราก็จะทำ"

หลังจากตั้งหน่วยงาน สิงห์ อาสา ล่าสุด คุณสันติก็มีนโยบายเปิดศูนย์บัญชาการช่วยเหลือ และดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมแบบครบวงจรภายใต้ชื่อ "สิงห์ เซ็นเตอร์ อโศก" เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงการฟื้นฟูสถานที่ บ้านเรือน ทรัพย์สิน และสร้างอาชีพให้กับผู้ประสบภัย

สำหรับสถานที่ตั้งของ ศูนย์ สิงห์ เซ็นเตอร์ อโศก นั้น คุณสันติได้ใช้สถานทูตญี่ปุ่นเก่า บริเวณแยกอโศก เป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการ โดยขณะนี้ได้เตรียมเปิดใช้ศูนย์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ภายหลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน คาดว่าหลังจากเปิดศูนย์ฯ จะสามารถรองรับผู้ประสบภัยได้จำนวน 500 คน

คุณสันติ เล่าต่อว่า ตอนนี้สิ่งที่ศูนย์ สิงห์ เซ็นเตอร์ อโศก ต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือ อาสาสมัครจำนวนมากใน 3 ด้าน คือ 1.อาสาทางการแพทย์ 2. อาสาจิตวิทยา และ 3.อาสากลุ่มซ่อมแซม เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัย เพื่อเข้ามาช่วยทำภารกิจดูแลผู้ประสบภัยในด้านการดูแลสุขภาพ ร่างกาย และจิตใจ ซ่อมแซมฟื้นฟู ทั้งเครื่องมือ เครื่องใช้ ตลอดจนอาคารบ้านเรือนของผู้ประสบภัย ซึ่งเบื้องต้นจะรับอาสาสมัครจากผู้ที่ตกงาน และผู้ประสบภัยน้ำท่วมก่อน เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้มีการจ้างงานและมีรายได้ เพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว

"เพื่อไม่ให้ศูนย์ฯ นี้เป็นศูนย์ฯ ของเรา แต่จะเป็นศูนย์ฯ ของทุกคน เราจึงต้องการอาสาสมัครที่มีความชำนาญในด้านดังกล่าวเข้ามาช่วยดูแลผู้ประสบภัย ซึ่งถ้าสิ้นปีนี้ถึงต้นปีหน้าน้ำยังไม่ลด ลองคิดดูว่าสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยจะเป็นอย่างไร ใครที่คิดว่าตัวเองยังพอมีกำลังก็น่าจะเข้ามาช่วยเหลือกันตรงนี้ เพราะถ้าไม่มีงานทำแล้วผู้ประสบภัยจะทำอะไรกิน ลำพังแค่เราหน่วยงานเดียวคงไม่สามารถดูแลผู้ที่ประสบภัยได้ทั้งหมด"

สำหรับผู้ที่เข้ามาดูแลศูนย์ สิงห์ เซ็นเตอร์ อโศก นั้น คุณสันติได้มอบหมายให้ รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ ดร.สุธาบดี สัตตบุศย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ทำหน้าที่เป็นประธานศูนย์ฯ

"สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนควรช่วยกันรับผิดชอบ ผู้ที่ไม่มีงานทำไม่มีที่อยู่ ตรงนี้คือจุดเปลี่ยนของชีวิต คนเราเวลาไม่มีอะไรสมองก็จะเบลอไปหมด ถ้าเรามีเราก็จะพยายามแบ่งปัน อย่างขวดน้ำสิงห์ของเราตอนนี้ก็ไม่มีการติดสลากแล้ว เพราะเราตั้งใจที่จะช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยจริงๆ ขณะที่การผลิตน้ำส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่การบริจาคมากกว่าการขาย"

ในส่วนของสิงห์ อาสา เอง คุณสันติบอกว่า ขณะนี้ยังคงให้ทีมสิงห์ อาสา เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ เหมือนเดิม ซึ่งบางครั้งความช่วยเหลืออาจมีความล่าช้าไปบ้าง เพราะบางพื้นที่เข้าไปลำบาก

"ทีมสิงห์ อาสา ตอนนี้มีหลายพันคนแล้ว ซึ่งเราพยายามจะไปทุกพื้นที่ เพราะบางคนบ้านอยู่กลางนา เข้าไปลำบาก เราก็มีทีมเข้าไปให้ความช่วยเหลือ บางครั้งทีมเราก็ถูกต่อว่า ว่าทำไมมาช้า แต่เราเองก็เข้าใจว่าผู้ที่ประสบภัยมีปัญหาและต้องมีอารมณ์"

นอกจากจะเข้าไปตั้งเต็นท์สิงห์ อาสา ในพื้นที่ประสบภัยต่างๆ มีทีมอาสาที่เข้าไปโดยรถสูง และเรือแล้ว บริษัท บุญรอด ยังมีทีมเจ็ตสกีอีกกว่า 100 ราย อาสาเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ อีกด้วย เพราะการใช้เจ็ตสกีจะมีความคล่องตัวในการเดินทาง

"พนักงานของเราส่วนหนึ่งตอนนี้เปลี่ยนจากการเซ็นเอกสาร เช็นเช็ค มากรอกกระสอบทรายแทน เพราะในส่วนของโรงงานที่สามเสนเองก็ต้องมีการป้องกันไม่ให้คันน้ำแตก ไม่อย่างนั้นถนนเส้นหน้าบริษัทจะลำบากมาก เพราะจะโดนน้ำท่วมทั้งเส้น เราจึงต้องมีการป้องกันอย่างเต็มที่ ซึ่ง ณ วันนี้โรงงานของเรายังอยู่ได้ ส่วนถ้าพนักงานคนไหนเดือดร้อน เราก็ให้มาอยู่ที่ศูนย์พักพิงของเรา"

จากปริมาณน้ำที่ขยายวงกว้างไปในหลายพื้นที่ตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคกลาง และตอนนี้กำลังจ่อเข้ามาถล่มใจกลางเมืองกรุง จึงได้ถามคุณสันติว่า เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนหรือไม่ ซึ่งคุณสันติบอกว่าตลอด 60 ปีของผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย

"บุญรอดเองปีนี้ก็ครบรอบ 78 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนหรือเปล่า แต่ผมเองก็อายุ 60 ปีแล้ว ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ ที่ผ่านมาปี 2538 เคยมีน้ำท่วมใหญ่ถึงลานพระบรมรูปทรงม้าก็คงไม่เสียหายมากเท่ากับปีนี้ เพราะตอนนั้นยังไม่มีอุตสาหกรรม เรื่องนี้ต้องถามรัฐบาลว่าจะป้องกันและแก้ไขอย่างไร คนเราเมื่อมีความทุกข์ก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน"

นอกจากนี้ คุณสันติยังบอกว่า หลังจากเกิดเหตุอุทกภัยในครั้งนี้ภาครัฐควรจะมีการบริหารน้ำที่ดี เพราะที่ผ่านมาสภาพคลองตื้นเขินมาก เนื่องจากไม่มีการขุดลอกคูคลอง เมื่อปริมาณน้ำมีมากก็ย่อมต้องท่วมเป็นธรรมดา

"เครื่องจักรที่จมน้ำในแต่ละอุตสาหกรรมคงต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุง ใครที่มีทุนทรัพย์มากหน่อยก็คงจะฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งในส่วนโรงงานของผมตอนนี้มี 3 ที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม คือ โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ, โรงงานที่บางเลน จ.นครปฐม และ โรงงานที่ปทุมธานี"

จากปัญหาโรงงานผลิตสินค้าที่จำเป็นหลายแห่งต้องจมอยู่ในน้ำ ซึ่งโรงงานในเครือของบุญรอด ก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ประสบภัย คุณสันติบอกว่า ตอนนี้พยายามผลิตน้ำดื่มสิงห์อย่างเต็มที่ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

"ปัญหาสินค้าไม่เพียงพอตอนนี้เป็นเพราะว่า คนซื้อเว่อร์ มันก็เลยไม่เพียงพอต่อความต้องการ สิ่งที่ทุกคนต้องมีตอนนี้คือ สติ ขณะเดียวกันตอนนี้เอง คำว่า ความเผื่อแผ่ของคนไทยมันก็หายไป คนที่มาซื้อน้ำจำนวนมากก็ไม่ใช่คนที่ประสบภัย ตอนนี้ไม่ใช่ภาวะสงครามถึงจะมากักตุนกันข้ามปี"

เมื่อถามถึงบ้านของคุณสันติ ว่าตอนนี้ท่วมหรือยัง ได้คำตอบว่า ยังไม่ท่วม แต่ตอนนี้ก็ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้วเช่นกัน

"บ้านผมเองที่อยู่แถวซอยสุขุมวิท 41 ตอนนี้ยังไม่ท่วม ก็เลยช่วยเหลือคนอื่นก่อน วันนี้เราได้บริจาคน้ำดื่มกับผู้ประสบภัยไปแล้วประมาณ 7.5 ล้านลิตร, ข้าวสารจำนวน 300 ตัน นอกจากนี้ยังมีอาหารชุดแจกอีกกว่า 1.5 แสนกล่อง ตอนนี้ในส่วนของบ้านผมก็เตรียมการป้องกันไว้เหมือนกัน ก็ถ้ากันไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ทุกคนท่วมเหมือนกันหมด"

นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของหน่วยงานเอกชนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัย นอกจากบริษัท บุญรอดแล้ว ก็ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่พร้อมจะยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ แต่สำหรับบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ต้องขอชื่นชมแม่ทัพใหญ่อย่าง คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ที่มีหัวใจสิงห์เจ้าป่าอย่างแท้จริง.