2/11/2013

ขึ้นบันได 306 ขั้น สู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วัดพระธาตุดอยสุเทพ

Taxi Chiangmai พงศ์ศักดิ์ 081 617 2116

 ขึ้นบันได 306 ขั้น สู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วัดพระธาตุดอยสุเทพ

เชียงใหม่ มหานครแห่งล้านนา งามล้ำค่าศรีนครพิงค์ เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต ที่ยังคงโดดเด่นไปด้วยเอกลักษณ์ความเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมล้านนา หากมาเชียงใหม่ แล้ว ไม่ ไปกินข้าวซอย ไม่ได้ขึ้นดอยสุเทพ ก็เหมือนดั่งมาไม่ถึงนครเชียงใหม่



     พระบรมธาตุดอยสุเทพ จึงเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ และในดินแดนล้านนาไทย ที่ใครมาแล้วก็ต้องเข้าไปมนัสการบูชาเพื่อเป็นมงคลให้กับชีวิต เป็นหนึ่งในเจ็ดของพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ในแถบภาคเหนือตอนบน และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีมะแม

     นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ของนครเชียงใหม่ทุกๆ พระองค์ ได้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยอย่างหนักแน่น ถึงแม้กาลเวลาจะล่วงเลยไปนานแสนนานสักเพียงใด

     ความมั่นคงในบวรพระพุทธศาสนายังคงฝังแน่นอยู่ในจิตใจของชาวล้านนาไทย และพุทธศาสนิกชนทั่วไป เฉกเช่นพระบรมธาตุดอยสุเทพที่คงประดิษฐานตระหง่านเป็นสง่าอยู่บนยอดดอยสุเทพ เป็นดังร่มโพธิ์ไทรต้นใหญ่ ซึ่งคอยบดบังแสงแห่งสิ่งชั่วร้ายและแผ่บารมีให้ความร่มเย็นแก่ชาวล้านนา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของเหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย



     วัดพระธาตุดอยสุเทพ ตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นอกจากจะมีพระบรมธาตุศักดิ์สิทธิ์แล้วอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมายซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วไป การเดินทางขึ้นไปยังดอยสุเทพเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ดีอีกแห่งหนึ่ง ไปได้ทั้งรถยนต์ ,จักรยานยนต์, จักรยาน หรือแม้แต่การเดินเท้าขึ้นไปก็สามารถทำได้ และเป็นสถานที่จัดกิจกรรมประเพณีต่าง ๆมากมาย บนอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ถือว่าเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ และตั้งอยู่ติดกับตัวเมือง การเดินทางสะดวกสบาย

     การเดินทางขึ้นไปยังพระบรมธาตุดอยสุเทพ ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งภายในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แต่จุดแรกก่อนการเดินทางขึ้น ต้องแวะเข้าไปก่อน ก็คือการเข้าไปนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่บุกเบิกสร้างถนนขึ้นไปถึงดอยสุเทพ

     อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ตั้งอยู่บนทางขึ้นดอยสุเทพ ก่อนถึงน้ำตกห้วยแก้ว ฉนั้น ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการดอยสุเทพ มักจะลงนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เพื่อความเป็นมงคลเสียก่อน ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ริเริ่มชักชวนให้ประชาชนชาวเหนือร่วมแรงร่วมใจกันสร้างถนนจากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยเริ่มลงมือเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 และแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมระยะทางจากเชิงดอยไปถึงวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ประมาณ 10 กม. บูชาเสร็จก็ขึ้นดอยกันเลย




     ตลอดเส้นทางขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพก็มีจุดแวะพักผ่อนเที่ยวชมหลายจุด อาทิ วังบัวบานเป็นสถานที่ที่กล่าวถึงตำนานรักอันอมตะที่ลือชื่อของสาวเหนือ มีความสวยงามมาก,ผาลาด,น้ำตกมณฑาธาร เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุด มีชั้นน้ำตกถึง 3 ชั้น น้ำไหลตกจากหน้าผาแต่ละชั้นเกิดขึ้นอยู่ตรงกลางของลำห้วยแก้ว,วัดผาลาด,จุดชมวิวเมืองชียงใหม่ ที่ศาลาชมเมืองช่วงระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตรและก่อนถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งชมวิวตัวเมืองเชียงได้แทบทั้งหมด

      ยิ่งถ้าในเวลาพระอาทิตย์ตกก็จะเห็นดาวบนดินเต็มเมืองเชียงใหม่เลยทีเดียว และยามเช้า ๆก็จะเห็นไอหมอกปกคลุมเชียงใหม่เอาไว้ ตลอดสองข้างทางก็เต็มไปด้วยต้นไม้ป่าสลับไปกับเนินเขาสวยงาม ดอยสุเทพไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่เท่านั้น แต่ดอยสูงแห่งนี้ยังคงสมบูรณ์ไปด้วยสภาพธรรมชาติทั้งพืชพรรณและสัตว์ป่าครับ

     ดอยสุเทพ เดิมชื่อว่า ดอยอ้อยช้าง ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ วันที่ 17 พฤษภาคม 2492 ต่อมาได้รับการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2507 ผืนป่าประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และป่าสนเขา มีพันธุ์ไม้นานาชนิด ได้แก่ ไม้เต็ง รัง เหียง พลวง ประดู่ เสลา เก็ตดำ เก็ตแดง ไม้ก่อกว่า 10 ชนิด ยางแดง ตาเสือ ดงดำ ตะเคียน กระบาก มะม่วงป่า และไม้สนเขาจะมีมากที่ยอดดอยปุยเป็นต้น สัตว์ป่าส่วนใหญ่ถูกรบกวนจากชาวเขาและชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง ที่พบอยู่ได้แก่ เก้ง กวาง หมี ชะนี ลิง ค่าง และนกนานาชนิดกว่า 200 ชนิด เช่นพวกเหยี่ยว ไก่ป่า ไก่ฟ้า นกขมิ้น นกหัวขวาน นกแก้วและนกพญาไฟ เป็นต้น




     เนื่องจากเป็นยอดเขาสูง อากาศจึงเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 16 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาวอากาศจะหนาวมาก ในเดือนกุมภาพันธ์ อากาศปลอดโปร่ง ท้องฟ้าแจ่มใส ทำให้มองเห็นภูมิประเทศได้โดยรอบอย่างชัดเจน

     ส่วนในฤดูฝน อากาศเย็นสบาย ฝนตกมากที่สุดในเดือนสิงหาคม-กันยายน ในฤดูร้อนอากาศไม่ค่อยร้อนอบอ้าวเท่าไหร่ สภาพโดยทั่วไปเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนกันหลายลูกเขาที่สำคัญได้แก่ ดอยสุเทพ ดอยบวกห้า และดอยปุย ซึ่งมีความสูงมากที่สุด ประมาณ 1,685 เมตร จากระดับน้ำทะเล

     วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์,โบราณสถาน,ขนบธรรมเนียมประเพณี,ความเชื่อ ของวัฒนธรรมล้านนาไทย เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่เชื่อกันว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ตามประวัติการสร้างวัด เมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 พระเจ้ากือนา ได้ทรงสร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารไว้บนยอด เขาดอยสุเทพ โดยได้นำเอาพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า ที่พระมหาสวามี นำมาจากเมืองปางจา จังหวัดสุโขทัย บรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์พระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร 

     นอกจากจะเป็นวัดที่มีความสำคัญมากแล้ว ยังเป็นพระอารามหลวง 1 ใน 4 ของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย (พระอารามหลวงหมายถึง วัดที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเจ้าอยู่หัวฯ) ชาวเชียงใหม่เคารพนับถือพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารมากเสมือนหนึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาแต่โบราณกาล ต่อมาได้มีกษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่หลายพระองค์ ทรงทำนุบำรุงวัดพระธาตุดอยสุเทพเรื่อยมาตามลำดับ 

     พระบรมธาตุดอยสุเทพ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมมิกราช เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์ที่ 9 โดยพระเจ้ากือนาทรงรับสั่งให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่พระมหาสุมนเถระ นำมาจากเมืองศรีสัชนาลัย ซึ่งได้ขุดพบจากนิมิตฝันของพระมหาสุมนเอง 


     เมื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาสู่เชียงใหม่แล้ว พระธาตุได้แยกเป็นสองส่วน พระเจ้ากือนาทรงเลื่อมใส ได้อัญเชิญบรรจุไว้ที่พระธาตุวัดสวนดอก ส่วนองค์ที่สอง ได้อัญเชิญขึ้นบนหลังช้างเพื่อเสี่ยงทายว่า ช้างหยุดที่ใด ก็จะสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่นั่น แล้วปล่อยช้างไป ช้างได้มุ่งหน้าไปสู่ทิศตะวันตก ขึ้นไปยังดอยสุเทวะฤาษี หรือดอยสุเทพปัจจุบัน แล้วมาหยุดที่ยอดดอยสุเทพ พระเจ้ากือนาทรงรับสั่งให้สร้างพระเจดีย์ ณ ที่นั้น มีขนาดสูง 5 วา เมื่อ พ.ศ. 1916 

     เมื่อปี พ.ศ. 2068 พระเจ้าเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12 ของเชียงใหม่ ได้ทำการบูรณะพระเจดีย์ โดยได้นิมนต์พระมหาญาณมงคลโพธิ์ จากลำพูนมาเป็นประธานการบูรณะ โดยขยายพระเจดีย์ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม สูง 11 วา กว้าง 6 วา ที่ปรากฏทุกวันนี้ รอบองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ ประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ ฉัตร 4 มุม ทำด้วยทองเหลือง สร้างโดยพระเจ้ากาวิละ กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2348 มีความหมายว่า ฉัตรเป็นสัญลักษณ์ของความร่มเย็น 




     ซึ่งแสดงให้ถึงความสงบร่มเย็นที่ได้รับอิทธิพลมาจากพระพุทธศาสนาที่แผ่ไปใน ทั้ง 4 ทิศ สัตติบัญชร หรือ รั้วหอก ที่อยู่รอบพระธาตุ ซึ่งมีที่มาจากเหตุการณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุของโทณพราหมณ์ เมื่อภายหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แย่งพระบรมสารีริกธาตุของเมืองต่างๆ เพื่อนำไปไว้บูชาประจำเมือง โทณพราหมณ์จึงทำหน้าที่แบ่ง โดยให้ทหารถือหอกรอบล้อมพระบรมสารีริกธาตุไว้ เพื่อป้องกันการแย่งชิง จึงเป็นที่มาของรั้วหอกรอบพระบรมธาตุหอยอ ลักษณะเหมือนวิหารขนาดเล็ก ประจำอยู่ 4 ด้าน ของพระบรมธาตุ 

     ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ มีความหมายถึงการบูชาหรือสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า (ยอคุณ) หอท้าวโลกบาล ซึ่งเป็นหอยอดแหลมขนาดเล็ก ประจำอยู่ 4 มุมของพระบรมธาตุ หมายถึง ที่ประดิษฐานของท้าวโลกบาลทั้ง 4 ซึ่งเป็นเทพที่ปกปักรักษาสิ่งสำคัญต่างๆ 4 ทิศ ทำหน้าที่รักษาพระบรมธาตุ ไหดอกบัว หรือ ปูรณะฆะฏะ (ปูรณะ แปลว่า เต็ม,สมบูรณ์, ฆฏะ แปลว่า หม้อ) แปลว่า หม้อที่แสดงถึงความสมบูรณ์ ซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในล้านนาไทย 

     นอกจากองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพแล้วภายในวัดก็มีศาสนสถานที่สำคัญหลายอย่าง เช่น วิหารครูบาศรีวิชัย,อนุสาวรีย์ช้างเผือก,อนุสาวรีย์สุเทวฤาษี,วิหารพระพุทธ,วิหารพระเจ้าทันใจ,วิหารหลวงพ่ออุ่นเมือง,วิหารพระเจ้ากือนา,วิหารพระพฤหัส ,อุโบสถ,ศาลาบาตร,ต้นโพธิ์อินเดีย โดยศาสนสถานแต่ละแห่งตั้งอยู่รอบ ๆองค์พระธาตุ ภายในบริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพตั้งแต่บันไดทางขึ้นเต็มไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศ และในบริเวณพระบรมธาตุมีประชาชนเข้าไปนมัสการองค์พระธาตุเยอะมาก ๆ บรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยความคึกคักเป็นที่สุดครับ 

     ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าวัดก็เป็นศูนย์บริการอาหารเครื่องดื่มของฝากของที่ระลึกมากมาย ให้เราได้เลือกชมเลือกซื้อและบริเวณบันไดทางขึ้นก็เต็มไปด้วยสินค้าของที่ระลึกแบบล้านนามากมาย สำหรับให้เราได้เลือกซื้อหาก่อนกลับออกไป เรียกได้ว่ามีทุกแบบให้เลือกครับ การขึ้นไปยังองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ ก็ขึ้นได้สองทาง ขึ้นทางบันไดโดยเดินขึ้นบันได ประมาณ 306 ขั้น หรือจะขึ้นทางกระเช้าไฟฟ้า รอบละ 10 บาทขึ้นลง 

     บริเวณที่ตั้งของพระบรมธาตุดอยสุเทพ มีทัศนียภาพที่สวยงามเต็มไปด้วยต้นไม้ป่าและอยู่บนยอดดอย อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีลมพัดค่อนข้างแรง และเมื่อเราขึ้นไปบริเวณพระธาตุและออกมาทางด้านนอกเราก็เห็นวิวเมืองเชียงใหม่ที่สวยงามและได้รับกับอากาศดี ๆ มองไปทางด้านล่างองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพเป็นร่มเงาให้กับเมืองเชียงใหม่ทั้งเมืองเลยทีเดียวครับ สวยและอากาศดี มาก ๆ 

     และเนื่องจากองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวเชียงใหม่จึงจัดให้มีงานนมัสการองค์พระธาตุในประเพณีสำคัญโดยตลอดทั้งปี โดยเฉพาะประเพณีเตียวขึ้นดอยสุเทพ หรือการเดินเท้าขึ้นไปบูชาพระบรมธาตุดอยสุเทพ ในวันวิสาขบูชา มีคนเข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมากทุกปี 

     หลังจากที่เรานมัสการองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพแล้วเราก็เดินทางลงมาพักผ่อนเล่นน้ำใส ๆ กินของอร่อยกันที่น้ำตกห้วยแก้ว บริเวณทางขึ้นอุทยาน จอดรถไว้ด้านนอกและเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 100 เมตร ด้านหน้าทางเข้าตัวน้ำตกเป็นจุดบริการอาหารเครื่องดื่มและของที่ระลึก น้ำตกห้วยแก้วมีบริเวณกว้าง เต็มไปด้วยลานหินขนาดใหญ่และแอ่งน้ำ กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นที่ทางด้านล่าง ปกคลุมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ทั้งสองฝั่ง มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติลัดเลาะเข้าไปในเชิงเขาระยะทางประมาณ 600 เมตรมีป้ายบอกทางเป็นระยะ และที่จุดนั่งพักผ่อนทั่วบริเวณ 

      น้ำตกห้วยแก้ว เป็นน้ำตกขนาดกลาง ไหลผ่านหน้าผาหินปูนตามแนวระดับของชั้นหินลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ สูงประมาณ 50 เมตร มีแอ่งรับน้ำขนาดใหญ่ด้านล่าง กระแสน้ำไม่ค่อยแรงนักเพราะเป็นการไหลในมุม 45 องศา น้ำใสและเย็นตลอดทั้งปี จะมีน้ำมากในฤดูฝน 

     ภายในบริเวณน้ำตกอากาศเย็นสบายมาก ๆ มีนักท่องเที่ยวเข้าไปพักผ่อนภายในตัวน้ำตกเยอะพอสมควร บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก 

      วัดพระธาตุดอยสุเทพ นอกจากจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ และยังตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อยู่ใกล้สถานที่สำคัญคือพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ซึ่ง เป็นพระตำหนักสำหรับแปรพระราชฐานเป็นที่ต้อนรับพระราชอคันตุกะจากต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระตำหนักตั้งอยู่บนยอดดอยบวกห้า ภายในประดับไปด้วยดอกไม้นานาชนิด พระตำหนักจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมในบริเวณภายนอกบริเวณสวนดอกไม้ทุกวัน 

      นอกจาก พระตำหนักภูพิงค์ แล้วเมื่อเราเดินทางเข้าไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวคือดอยปุย และขุนช่างเคียน เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมโดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่ดอยปุยจะมีอากาศหนาวเย็นมากและเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวเขาเผ่าม้ง ส่วนขุนช่างเคี่ยนในหน้าหนาวก็จะเต็มไปด้วยดอกพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย สวยงามเต็มข้างถนน และบริเวณทางขึ้นมายังวัดพระธาตุดอยสุเทพก็เป็นสวนสัตว์เชียงใหม่ ภายในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุยมีแหล่งท่องเที่ยวให้เราได้เที่ยวชมเยอะมาก ๆ และสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล แต่ฤดูกาลที่เหมาะที่สุดคือในฤดูหนาว 

     วัดพระธาตุดอยสุเทพ ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ เช้าจนเย็น สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร 053-248604,053-248607,053-302500 สอบถามข้อมูลไปได้ตลอดครับ 

     การเดินทางไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพ เดินทางมุ่งตรงเข้าเชียงใหม่ จากนั้นใช้เส้นทาง ถนนห้วยแก้ว หรือถนนหน้า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) เลียบคลองชลประทาน จากนั้นก็เดินทางขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จากทางขึ้น ประมาณ 15 กิโลเมตร ก็จะเห็นวัดตั้งอยู่ขวามือ 

     พระบรมธาตุดอยสุเทพ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของอารยธรรมล้านนาไทยที่ควรค่าแก่การรักษาไว้ให้คงอยู่เพื่อสืบ ทอดมรดกทางวัฒนธรรมและดำรงไว้ซึ่งพุทธศาสนาต่อไปอีกนานเท่านาน เป็นสถานที่ที่ต้องเข้ามานมัสการให้ได้เมื่อเดินทางมานครเชียงใหม่

      หากท่านใดมีโอกาสเดินทางมาเชียงใหม่ก็หาโอกาสไปนมัสการองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ และท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยกันนะครับ เที่ยวเชียงใหม่ก็มาได้ทั้งปีไม่เฉพาะหน้าหนาวครับ 



http://travel.thaiza.com
ข้อมูล http://tourthai.tourismthailand.org/

No comments: