คืนข้ามปีนับเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ ทุกคนอยากจะใช้จ่ายไปกับคนสำคัญที่อยู่ข้างกาย และทำสิ่งพิเศษให้กับคนที่เรารัก สถานที่ท่องเที่ยวหรือลานกิจกรรมต่างๆ จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมากในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เพื่อมีช่วงเวลาสำคัญอยู่ร่วมกัน แต่ก็แปลกที่ว่า หลายคนกลับเลือกใช้เวลาสำคัญให้เปล่าเปลืองไปกับกิจกรรม“เต็มเหนี่ยว”ที่ ง่ายต่อการเหวี่ยงให้สติขาดตามไปด้วย แต่หากปี ๒๕๕๕ เราจะเริ่มต้นปีด้วยการ “สวดมนต์ข้ามปี” ก็ถือว่าได้ช่วงเวลาพิเศษที่มีเพียงปีละครั้งอย่างมีคุณค่าที่สุด
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เปิดเผยว่า ในวันส่งท้ายปีเก่า ๒๕๕๔ และต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๕ ที่จะถึงนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมใจกันจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี” ต่อเนื่องเป็นปีที่ ๒ โดยในปีนี้จะจัดงานที่ท้องสนามหลวง พร้อมกับวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนร่วมปฏิบัติสิ่งที่เป็นมงคลร่วมกัน
“สำหรับปีนี้เป็นปีที่สองที่เราจัดสวดมนต์ข้ามปีต่อเนื่อง ซึ่งปีที่ผ่านมาคนไทยผ่านความทุกข์จากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศ หลายคนมีจิตใจที่ไม่เป็นปกตินัก เพราะต้องพบกับความสูญเสีย ทั้งบ้านหรือสิ่งมีค่าต่างๆ เสียหาย การเริ่มต้นปีด้วยการสวดมนต์นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ประชาชนจะมีโอกาสสงบจิตใจ และได้อยู่ร่วมกับญาติพี่น้องหรือคนใกล้ชิดที่จะมาทำกิจกรรมสวดมนต์ร่วมกัน”ผู้จัดการ สสส.กล่าว
สำหรับสถานที่ที่ประชาชนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีนั้น ทพ.กฤษดา บอกว่า ในปีนี้มีการจัดสวดมนต์ในวัดเกือบทั่วประเทศ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารจากวัดใกล้บ้านของท่านได้ และขอเชิญชวนให้เข้าร่วมสวดมนต์ในวัดใกล้บ้าน สำหรับในกรุงเทพมหานครสามารถเข้าร่วมได้ที่บริเวณท้องสนามหลวง เพราะเราจะจัดงานใหญ่ที่นั่น และนอกจากจะมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีแล้วเรายังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ นิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่นำมาเสนออย่างง่ายๆ การแสดงดนตรี หนังใหญ่ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
“นอกจากจะมาสวดมนต์ข้ามปีให้จิตใจสงบแล้ว ยังเป็นโอกาสพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุ ครบ ๘๔ พรรษา และปีหน้าเป็นปีที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ครบ ๒,๖๐๐ ปี หรือที่เราเรียกว่าพุทธชยันตรี ในการสวดมนต์ข้ามปีครั้งนี้จึงเป็นมหามงคลที่คนไทยทุกคนควรหาโอกาสเข้าร่วม นะครับ” ทพ.กฤษดากล่าวทิ้งท้าย
ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวถึงอานิสงส์ของการสวดมนต์ว่า การสวดมนต์ทำให้เกิดสมาธิ ทำให้เกิดความสุข หากเราทำพร้อมๆ กันทั้งประเทศจะทำให้เกิดพลังของสมาธิและจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งในปีนี้เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ ๘๔ พรรษา เราจะได้ร่วมกันทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล และหวังว่าสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นกับเราทั้งหลายในปีที่ผ่านมา ก็จะได้ผ่านพ้นไปและเริ่มต้นกันใหม่ด้วยสิ่งที่ดีงามด้วยการสวดมนต์ข้ามปี
“ถ้าเรายังมีกิจกรรมเดิมๆ ด้วยการเมาข้ามปี เลี้ยงฉลอง ถือเป็นการเริ่มต้นไม่ดีและเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพราะในปีใหม่มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจำนวนมาก ที่สำคัญการเริ่มต้นปีใหม่ก็ควรจะเริ่มต้นด้วยสติ ปัญญา และสมาธิ น่าจะเริ่มต้นจากการสวดมนต์น่าจะดีแน่นอนครับ”
สำหรับปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมายุครบ ๘๔ พรรษา สสส.และภาคีเครือข่าย ได้จัดทำพระปางค์ห้ามพญาธิเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ภก.สงกรานต์ บอกเล่าถึงความหมายของพระพุทธรูปปางดังกล่าวว่า พระพุทธรูปปางค์นี้จะทำให้มีสุขภาพที่ดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งหากเราหล่อพระโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมทั่วทั้งประเทศ แล้วนำทูลเกล้าฯ ถวายแด่ในหลวง ด้วยแรงใจของประชาชนชาวไทยที่ร่วมกันอธิษฐาน จะส่งผลให้พระองค์ท่านหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว
“ประเทศไทยผ่านเรื่องราวหลายเรื่อง ทำให้เกิดความทุกข์มากทีเดียว เรามาเริ่มต้นกันใหม่ด้วยการสวดมนต์ข้ามปีเชื่อมั่นว่าพลังจิต พลังสมาธิ ของคนไทยทั้งปวงจะทำให้ประเทศไทยได้เริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่า ทั้งตัวเราเองก็ได้สมาธิ ได้บุญจากการสวดมนต์ด้วย ขณะเดียวกันก็เป็นพลังร่วมให้สังคมไทยได้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปสู่สิ่งที่ ดีงามต่อไป”ผอ.สคล.กล่าว
ช่วงเวลาสำคัญปีนี้ ชวนคนพิเศษและคนในครอบครัวเริ่มต้นดี ชีวิตดี ด้วยการสวดมนต์ข้ามปีด้วยกัน
เรื่องโดย : คีตฌาณ์ ลอยเลิศ Team content www.thaihealth.or.th
No comments:
Post a Comment