9/02/2013

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอำเภอเชียงแสน

สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอำเภอเชียงแสน

เชียงแสน เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สำหรับในยุคประวัติศาสตร์เมืองเชียงแสนที่ถูกทิ้งร้างได้รับการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่โดยพญาแสนภูแห่งราชวงค์มังรายในปี พ.ศ. 1870 และมีกษัตริย์ปกครองเรื่อยมา จนถึงเข้าสู่สมัยอาณาจักรล้านนาเชียงใหม่ซึ่งมีเชียงใหม่เป็นราชธานี เมืองเชียงแสนมีฐานะเป็นเมืองลูกหลวง พราะเจ้ากือนาซึ่งเป็นกษัตริย์เมืองเชียงใหม ก่อนที่จะขึ้นครองราชย์ก็เคยไปครองเมืองเชียงแสน  วันนี้กระผมจะพาทัวร์เมืองเชียงแสน    เมื่อเชียงแสนก็อยู่สงบสุขเรื่อยมาครั้นถึงคราวที่เชียงใหม่โดนบุเรงนองตีจนเสียเมืองให้พม่า เจ้านายฝ่ายเหนือก็ถอยมาตั้งหลักอยู่ที่เชียงแสน ครั้งเชียงแสนโดนตีแตกถูกพม่ายึดก็กลายเป็นที่ซ่องซุมกองกำลังของพม่า  ครั้งเมื่อกรุงรัตนโกสินทร์ยึดเชียงใหม่คืนจากพม่าได้สำเร็จพม่าก็หนีมาตั้งหลักที่เชียงแสน จนกระทั่งกองทัพจากกรุงรัตนโกสินทร์ยกมาตีเมืองเชียงแสนและส่งทหารพม่ากลับบ้านเก่าไปหมด นั่นล่ะเชียงแสนจึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสยามในที่สุด  เพราะความเป็นเมืองอย่างต่อเนื่องทำให้มีสมบัติที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้พวกเรานั่นคือศิลปะที่มีค่าและโบราณสถานมากมายในตัวเมืองเชียงแสน ปัจจุบันเมืองเชียงแสนยังซากกำแพงเมืองล้อมรอบอยู่ ภายในคูเมืองมีวัดเก่าแก่หลายวัดที่สร้างไว้เมื่อครั้งที่สร้างเมืองเชียงแสน นอกจากวัดเก่าแก่ให้นักท่องเที่ยวชมแล้ว เชียงแสนยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสและได้พักผ่อนนั่นคือทะเลสาบเชียงแสน และยังมีน้ำแม่น้ำโขงซึ่งหมาะสำหรับการนั่งเรือชมทัศนีภยภาพในแม่น้ำโขงอีกด้วย  เชียงแสนมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายขึ้นอยู่กับว่านักท่องเที่ยวจะหาพบหรือเปล่า ทั้งนี้เพราะว่านักท่องเที่ยวที่มาเชียงแสนจะมาเพียงผ่านไปเพื่อไปเที่ยวยังจุดอื่นโดยใช้เชียงแสนเป็นจุดพักค้างแรม ทุกวันนี้เชียงแสนเป็นเมืองท่า  มีเรือสำราญ และเรือเร็ววิ่งไป-กลับระหวางเมืองเชียงแสน - สิบสองปันนาจีนการเดินทางมาเชียงแสน   จากเชียงแสนใช้เส้นทางสาย 110 ตรงไปจนถึงแยกเข้าอำเภอแม่จันให้เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางหมายเลข  1016 ไปจนสุดเส้นก็ถึงเมืองเชียงแสน ขับตรงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวเลย เพราะถ้าขับเลยไปก็ตกแม่น้ำโขงเพราะสุดถนนเป็นแม่น้ำโขง
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
เป็นธรรมเนียมของการสร้างเมืองจะต้องมีเจดีย์ประจำเมือง เจดีย์หลวงคือเจดีย์ประจำเมืองเชียงแสนที่สร้างขึ้นมาในช่วงต้นของการสร้างเมืองเชียงแสน การสร้างนั้นสร้างตามหลักการสร้างวัดตามโบราณคือ มีเจดีย์ประธานอยู่กลาง มีเจดีย์รายล้อมรอบทั้ง 4 มุม และมีพระอุโบสถอยู่ด้านทิศตะวันออกของเจดีย์เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงระฆังฐานสูงแปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดของเมืองเชียงแสน ทัวร์ดอยพานักท่องเที่ยวไปสถานที่นี้อยู่บ่อยๆ เจดีย์หลวงสร้างราวปี พ.ศ.1887  ต่อมามีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เจดีย์องค์ปัจจุบันที่อยู่ในสภาพดีนั้นเป็นเจดีย์ที่ก่อขึ้นมาใหม่บนฐานเดิมเมื่อปี พ.ศ. 2058
สถานที่ตั้งและการเดินทาง    วัดเจดีย์หลวงอยู่ในภายในกำแพงเมืองเชียงแสน จากสามแยกเชียงแสนริมแม่น้ำโขง เลี้ยวขวามาตามเส้นทางสาย 1016 ประมาณ 300 เมตรก็ถึง วัดเจดีย์หลวงอยู่ทางซ้ายมือ
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงแสน
ตั้งอยู่ติดกับวัดเจดีย์หลวงทางด้านทิศตะวันตก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2500  เป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุที่ขุดพบในบริเวณเมืองเชียงแสนและพื้นที่ใกล้เคียง และจัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีเกี่ยวกับการตั้งชุมชน  นอกจากนี้ยังมีแบบจำลองการตั้งถิ่นฐานของชุมชนกลุ่มต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เชียงแสนค่าธรรมเนียมเข้าชม ท่านละ 10 บาท 
เปิดทำการตั้งแต่เวลา  09.00 – 16.00  .  ทุกวัน  ยกเว้นวันจันทร์  อังคาร  และวันหยุดนักขัตฤกษ์
วัดพระธาตุจอมกิตติ
เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่สร้างมาก่อนที่จะสร้างเมืองเชียงแสน ตำนานการสร้างยังสับสนเรื่อง พ.ศ.  พระธาตุองค์เดิมพระเจ้าพังคราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเพื่อบรรจุพระธาตุ ( พระธาตุที่ได้รับมาพร้อมกับพระธาตุที่บรรจุที่พระธาตุดอยตุง และพระธาตุดอยจอมทอง ) สร้างเมื่อ พ.ศ. 1483  ต่อมาในสมัยเชียงแสนพระธาตุได้ทรุดโทรม เจ้าเมืองเชียงแสนจึงได้สร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2030 ซึ่งยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้ แต่ว่าองค์พระธาตุเริ่มที่จะเอียงไปทางด้านทิศใต้แล้ว หวั่นว่าจะไม่คงไปอีกนานองค์พระธาตุสร้างเป็นแบบทรงปราสาทยอดระฆัง หลังคารูปบัวคว่ำ ฐานสี่เหลี่ยมจตุรัส ถัดขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ย่อมุมเป็นเรือนธาตุ มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปูนปั้นทั้งสี่ด้าน
บริเวณทิศตะวันออกมีโบสถ์ศิลปะล้านนาที่สร้างขึ้นเมื่อไม่นาน รูปแบบการสร้างเป็นศิลปะที่สวยงามอยู่  ด้านหน้าโบสถ์เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขง
สถานที่ตั้งและการเดินทาง    พระธาตุจอมกิตติตั้งอยู่บนดอยจอมกิตติ อยู่บริเวณนอกกำแพงเมืองเชียงแสน   จากสามแยกเชียงแสนริมแม่น้ำโขง เลี้ยวขวามาตามเส้นทางสาย 1016 จนผ่านออกนอกกำแพงเมืองไปประมาณ 500 เมตรเจอแยกขวา เลี้ยวขวาไปตามถนนเส้นนี้จนกระทั่งเจอแยกซ้ายเข้าสู่บริเวณวัด  ถ้าไปไม่ถูกให้จอดรถถามคนแถวนั้น  จอดรถไว้ใต้ร่มไม้ในวัดแล้วเดินขึ้นทางบันไดนาคไม่ทันเหนื่อยมากก็ถึง
วัดป่าสัก
ตั้งติดกับกำแพงเมืองด้านนอกฝั่งทิศตะวันตก พื้นที่วัดมีบริเวณกว้างขวางวางขนานไปกับคูเมืองตั้งแต่ป้อมประตูเมืองเชียงแสน จนถึงป้อมประตูหนองมูต  ภายในวัดมีโบราณสถาน 7 แห่ง แต่ละแห่งล้วนเป็นฮิฐส่วนฐานของสิ่งปลูกสร้างกับแนวอิฐที่บ่งบอกแนวสิ่งก่อสร้างนั้นๆ มีอยู่สิ่งเดียวที่ยังคงสมบูรณ์ที่สุดคือเจีดย์ประธานทรงปราสาทยอดทรงระฆังแบบห้ายอด มีลวดลายปูนปั้นที่สวยงาม เจดีย์นี้สร้างโดยพญาแสนภู เมื่อ พ.ศ. 1883 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระพุทธโฆษาจารย์ได้อัญเชิญมาจากอินเดีย  หลังจากสร้างวัดแล้วได้ปลูกต้นสักล้อมรอบกำแพงจำนวน 300 ต้น จึงได้เรียกชื่อว่าวัดป่าสักค่าธรรมเนียมในการเข้าชม   ท่านละ 10 บาท
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงแสนใช้เส้นทางสาย 1016  จนกระทั่งออกนอกกำแพงเมืองให้เลี้ยวขวาก็ถึงแล้ว
วัดพระเจ้าล้านทอง
ตั้งอยู่กลางเมืองเชียงแสน เยื้องขึ้นมาจากวัดเจดีย์หลวงประมาณ 400 เมตร ด้านหน้าเป็นพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน ซึ่งเรียกว่า พระเจ้าล้านทอง วัดนี้ตามตำนานระบุว่าสร้างราว พ.ศ. 2032 โดยพระยาศรีรชฎเงินกอง พระโอรสของพระเจ้าติโลกราชกษัตริย์เชียงใหม่ เมื่อสร้างวัดขึ้นแล้วได้เททองหล่อพระประธานเป็นพระพุทธรูปสำริดหนัก 1,200 กิโลกรัม เรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่าพระเจ้าล้านทอง เป็นที่มาของชื่อวัดพระเจ้าล้านทอง  ปัจจุบันพระอุโบสถกำลังซ่อมแซมจึงยังไม่เห็นความงดงามและไม่สามารถเข้าไปในพระอุโบสถได้  ด้านหลังเป็นเจดีย์
ทะเลสาบเชียงแสน
ทะเลสาบเชียงแสนเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเมืองเชียงแสนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองเชียงแสน  ห่างจากตัวเมือง 4 กิโลเมตร มีชื่อเรียกท้องถิ่นว่า หนองบงคาย เป็นหนองน้ำธรรมชาติที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก   อ่านต่อ  
วัดพระธาตุผาเงา
ตั้งอยู่นอกเมืองเชียงแสนไปตามเส้นทางเลาะแม่น้ำโขงสายเชียงแสน - เชียงของ ห่างจากตัวเมืองเชียงแสน 4 กิโลเมตร  หากไปจากตัวเมืองเชียงแสน วัดพระธาตุผาเงาตั้งอยู่ทางด้านขวามือประมาณหลักกิโลเมตรที่ 48 และ 49 จุดเด่นของวัดพระธาตุผาเงาคือองค์พระธาตุผาเงาที่ตั้งประดิษฐานอยู่บนก้อนหินหลังพระอุโบสถ ลักษณะเดียวกับเจดีย์พระธาตุอินแขวนของพม่า  ด้านหน้าของพระธาตุเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถเป็นพระอุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่แทนหลังเดิมที่เก่าพุพัง ในการสร้างได้ขุดพบพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะแบบเชียงแสนที่มีความงดงาม ปัจจุบันพระพุทธรูปดังกล่าวตั้งประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ วัดนี้ไม่มีบันทึกว่าสร้างเมื่อใดและใครเป็นผู้สร้าง  พระอุโบสถหลังใหม่ที่สร้างขึ้นมีลวดลายวิจิตรงดงามด้วยศิลปะแบบล้านนาเชียงแสนประยุกต์  ด้านหลังพระอุโบสถเป็นบรรไดนาคขึ้นไปสู่พระธาตุเก่าบนยอดเขาซึ่งตอนนี้เหลือแต่เพียงฐานศิลาแลง เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธ์ที่คนแถวนี้นับถือ ผมขึ้นไปทีไรเห็นมีคนท้องถิ่นแถวนี้เอาเครื่องถวายต่างๆ มาไหว้อยู่เป็นประจำ ชื่อพระธาตุอะไรจำไม่ได้แล้ว
วัดพระธาตุภูเข้าตั้งอยู่บนดอยเชียงเมี่ยง บริเวณสบรวก ห่างจากเชียงแสนผ่านไปทางสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 11 กิโลเมตร สร้างประมาณปี พ.ศ. 1302  ในสมัยพระยาลาวเก้าแก้วมาเมือง กษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งแคว้นหิรัญนครเงินยาง ภายในวัดมีวิหารที่ตกแต่งด้วยลาดลายปูนปั้นที่สวยงาม ด้านหลังวิหารเป็นที่ตั้งของกลุ่มเจดีย์ที่เก่าทรุดโทรม แต่ยังคงหลงเหลือลวดลายปูนปั้นให้เห็น
วัดพระธาตุสองพี่น้องเชียงแสนมีวัดเยอะครับ วัดเล็กวัดน้อยล้วนเก่าแก่พุพังอยู่เป็นจำนวนมากเที่ยวกันไม่หมด  แต่วัดนี้อยู่บนเส้นทางผ่านที่จะไปเชียงของ  เลยจากวัดพระธาตุผาเงาไปประมาณ 1 กิโลเมตร ในวัดมีเจดีย์ประธานทรงปราสาท วัดนี้พญาแสนภูสร้างขึ้นก่อนสร้างเมืองเชียงแสน ปัจจุบันยังมีร่องรอยของกำแพงเมืองให้เห็น
พระบรมธาตุพุทธนิมิตรเจดีย์
เป็นเจดีย์สีขาวตั้งเด่นอยู่บนภูเขาลูกเตี้ยๆ ทางด้านทิศตะวันออกของตัวเมืองเชียงแสน  เจดีย์องค์ปัจจุบันเป็นพระธาตุองค์ใหม่ที่สร้างคล่อมพระธาตุองค์เดิม พระบรมธาตุพุทธนิมิตรเจดีย์ที่สร้างใหม่มีขนาดใหญ่ภายในเป็นห้องโถง กึ่งกลางเจดีย์เป็นฐานของพระธาตุเก่าที่พุพัง  บริเวณผาผนังเป็นภาพเขียนบอกเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติการสร้างเมืองเชียงแสน  บนเจดีย์นี้เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงามมาก
พระอุโบสถหลังสวย
ตั้งอยู่บนยอดเขาลูกเดียวกับที่ตั้งพระบรมธาตุพุทธนิมิตรเจดีย์ แต่ตั้งอยู่ต่ำกว่า ห่างกันประมาณ 400 เมตร  เป็นโบถส์ที่สร้างใหม่เพิ่งแล้วเสร็จเมื่อไม่นานมานี้  มีลักษณะสวยงาม ภายนอกประดับด้วยลวดลายปูนปั้นที่วิจิตตระการตาตามรูปแบบของศิลปะแบบล้านนาเชียงแสน ภายในประดิษฐานพระประธานแบบเชียงแสน ปรางมารวิชัย ( พระเชียงแสน เป็นหนึ่งในพระพุทธรูป 3 สมัย ซึ่งประกอบด้วย เชียงแสน สุโชทัย  อู่ทอง )
สามเหลี่ยมทองคำ
เป็นจุดบรรจบกันของ 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว พม่า ระหว่างลาว-พม่า มีแม่น้ำโขงกั้น  ระหว่างไทย-พม่า มีแม่น้ำรวกกั้น  จุดบรรจบกันของทั้งสามประเทศมีตะกอนทรายทับถามอยูกลางน้ำ จุดนี้เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม วิวฝั่งลาวมีแต่ป่าไม่มีชุมชน  ฝั่งพม่ามีอาคารหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ่อนคาสิโนที่นักลงทุนไทยไปทำไว้เพื่อความสร้างความเพลิดเพลินให้นักท่องเที่ยว  ฝั่งลาวถัดไปทางด้านท้ายน้ำมีเกาะของลาวเกาะหนึ่งชื่อว่าเกาะดอนซาว นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวได้โดยเสียค่าขึ้นเกาะ 20 บาท บนเกาะเป็นแหล่งขายสินค้าปลอดภาษี ไม่น่าแวะขึ้นให้เสียเวลา   นับแต่ปีท่องเที่ยวนี้เป็นต้นไป ( 2548 ) สามเหลี่ยมทองคำมีจุดท่องเที่ยวเพิ่มจากเดิมคือมีการสร้างพระพูทธรูปองค์ใหญ่อยู่บนเรือนาวา และสร้างตุงทองขนาดใหญ่ และสร้างอีกหลายเชือก และมีอนุเสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายด้วย  นอกจากจุดนี้จะเป็นจุดชมวิวแล้วที่นี่ยังมีเรือหางยาวให้บริการพานักท่องเที่ยวนั่งเรือชมวิวสามประเทศ โดยเรือจะพาอ้อมเลาะฝั่งพม่า ขากลับเลาะริมฝั่งลาว แล้วพาวนไปชมวิวแถวเกาะดอนซาวของลาว สนใจติดต่อเรือให้บริการได้ที่ท่าเรือริมแม่น้ำโขง
หอฝิ่นอุทยานสามเหลี่ยมทองคำ
หอฝิ่นอุทยานสามเหลี่ยมทองคำ ตั้งอยู่ในพื้นที่ประมาณ 250 ไร่ ห่างจากอำเภอเชียงแสนประมาณ 10 กิโลเมตร ตัวอาคารล้อมรอบด้วยสวนอันสวยงาม เป็นศูนย์นิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของฝิ่นเมื่อสมัยที่มีการใช้กันอย่างถูกกฏหมายและผลกระทบของการเสพติดฝิ่น อีกทั้งยังทำหน้าที่ศูนย์ข้อมูลเพื่อการค้นคว้าวิจัยและการศึกษาต่อเนื่องในหัวข้อฝิ่น สารสกัดจากฝิ่นในรูปแบบต่างๆและยาเสพติดอื่นๆ
หอฝิ่นเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ระหว่างเวลา 08.30-16.00 น. ค่าเข้าชมบุคคลทั่วไป ต่างชาติ 300 บาท คนไทย 200 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 50 บาท (เฉพาะคนไทย)เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ฟรี

No comments: