10/03/2013

แกะรอยท่องเที่ยวญี่ปุ่น by Kru Su

  • เริ่มที่กทม ก่อน ถ้าหมวดแกง ลูกชิ้นหรือ ขนมจีนน้ำยา ต้องร้านเชิงสะพานเหล็ก สะพานหัน อร่อยมากๆ หมี่กึงนวดได้เหนียวกว่าปลากรายแท้ๆอีก
  • ร้านครัว เจ๊ง๊อ เมนูส้มตำเจ กับ บะหมี่กรอบราดหน้าก็เนียนมาก
  • ก๋วยจั๊บน้ำใส ต้องเยื้องวัดเล่งเน่ยยี่ ปากทางเข้าเหล่งบ๋วยเอี๊ย ขายตอนทุ่ม
  • ก๋วยเตี๋ยวหลอด / จุ๋ยก้วย ก็เนียนนะ  กินแล้วไม่แตกต่าง ตรงข้ามโรบินสัน บางรัก ปากซอย หอพักลูกชายคนโตพงษ์1 ห่อละ 40 อร่อยconfirmed
  • อาหารเจที่ ลีเพลสอร่อยนะ แถวสะพานแขวน พระรามสาม

พื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นเล็กกว่าไทยหนึ่งในสามส่วน แต่มีประชากรมากว่าไทยเท่ากว่าคือ เกือบๆ130ล้านคนเลยนะเนี่ย บริโภคเยอะ จนพืชผัก ปลูกเองไม่พอกิน

วันนี้นั่ง แอร์บัส 380 สุโค้ยมากๆ smooth as silk สมคำร่ำลือ
ตอนแรกมีคนนั่งข้างๆเราอีก2ที่ เราเห็นตรงหน้าส้วมมีที่ว่างเหลือ2ที่ ตำแหน่งนั้นมันโล่งน่านั่ง เลยแนะนำให้2สาวไปนั่งหน้าส้วม แล้วเราก็นอนยาว3 ที่นั่ง กลายเป็น bussiness class ไปเลย

นอนจน แป้นเดินมาปลุก ถึงตื่นมานั่งเม้าท์กันยาว ช่วงแป้นพักก็แวบมาอีกที สนุกจัง นอนมา
ไปมองวิวมืดๆข้างทางก่อนนะ ตัวเอง
แต่ถ้าภายในตัวอาคารทั้งที่สนามบินนาริตะและบนขบวนรถSky Liner แอร์เปิดในอุณหภูมิ ที่ต่างจากบ้านเรามาก เพราะที่นี่ ต้องประหยัดพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากวิกฤติฟูกูชิม่า
นั่งรถไฟเข้าเมืองคนละ 2400 เยนใช้เวลา 45 นาที ก็ถึงอูเอโน่คืนนี้ จะไปสำรวจแถวหน้าวัดโคมใหญ่ก่อน กว่าจะถึงวัดคงปิดทำการแล้ว รร. ที่พักอยู่ใกล้วัด ห่างกันราว 100เมตร

Mo Ichi Do ขออีกครั้งหนึ่ง

Atarashii อัตตาระชิ newly arrival
วันนี้ สแกนลายนิ้วมือ ตม. บอกให้เรา mo Ichi Do
พรุ่งนี้ อุณหภูมิ 20-25องศา
ฝนจะตก พรุ่งนี้อีกวันเดียว
วันพุธและพฤหัส ไม่มีฝน มาดูซิว่า อุตุญี่ปุ่นทำนายแม่นมั๊ย?

โอ ชิง โกะ ขอไปฉี่ก่อนนะ

Moshi Moshi แปลว่า ฮัลโหลๆ
Se ma ku te เซมากูเตะ แปลว่า แคบ

ท่าทางจะมีฝนตกตอนดึกคืนนี้
ยังไม่ได้เปิดทีวีดูพยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้
ผ่านหน้าวัดโคมใหญ่ๆ หายไป ปิดล้อมด้วยผ้าใบกำลังบูรณะด้านหน้า สี่ปีที่แล้ว มาเจอซ่อมบริเวณด้านในที่ตั้งองค์เจ้าแม่
เคน บอกวัดนี้ ประวัติยาวนาน ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมทำบุญเยอะ เลยซ่อมทุกปี เดี๋ยวตรงโน้นเดี๋ยวตรงนี้
จักรยาน เยอะจอดตามท้องถนนหน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
แม่บ้าน พาลูกมาที่ซุปเปอร์จ่ายกับข้าว แต่งตัวสวยงาม ขี่จักรยาน บรรทุกลูกสาวตัวโต แต่น่องไม่ยักโป่ง

นั่งดูทีวี ญี่ปุ่น ระบบ HD ชัดแจ๋ว เลือกดูช่องพาไปชิม ของโออิชิ หรือ พาไปเที่ยว มันฟังภาษาไม่ออก แต่ดูรู้เรื่องง่ายดี
เมื่อกี้แวะซุปเปอร์ ชื่อ โอซากิ ผักและผลไม้ อย่างใหญ่ ไซส์พิเศษ ลูกพัฟ น่าทานมาก มันญี่ปุ่น ไช้เท้า คึ่นใช่ ต้นกุ้ยช่าย ต้นหอม เห็ดเข็มทองของที่นี่ อวบมาก สารพัดเห็ด ฟักทอง ก็สีสวย แม่บ้านญี่ปุ่น จะแวะมาร้านนี้ ช้อปกันเยอะ ย่านนี้เหมือนสำเพ็งของไทย ย่านคนสว. และ แม่บ้านเดินช้อป เยอะ ไม่ค่อยเห็นวัยรุ่นแต่งตัวสวยเด่น มาเดินกัน  ร้านข้างๆขายหมู/ขายเนื้อ ทุกคนใส่เสื้อกาวน์สีขาวใส่หมวกกันผมร่วง มาถึงตอนทุ่ม กำลังขัดชั้นวาง เก็บร้านแล้ว
คอมบังวะ สวัสดีตอนเย็น
โอยาสุมิ ยาไซ / ราตรีสวัสดิ์



เช้านี้ ทานมอร์นิ่งเบรคฟัสแล้วเราเดินไปเองคนเดียว รูปที่ถ่ายมาอาศัยคนแถวๆนั้น
บริเวณด้านใน องค์จริงๆ ทองอร่ามงามจริงๆ เช้านี้ทันได้ฟังพระญี่ปุ่นสวดมนต์ด้วย ประมาณร่วมๆครึ่งชม. คนมานั่งสมาธิฟังสวดพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นเอง เพราะถ้ามากับคณะทัวร์ เวลาจำกัด จะมัวตื่นตาตื่นใจกับสินค้าที่วางขายรายรอบวัดมากกว่า มาทุกครั้งชอบเข้าไปไหว้พระขอพร ไม่เคยเจอพระญี่ปุ่นสวดมนต์ วันนี้ โชคดี ขอพรเผืีอเพื่อนสนิทมิตรสหายและครอบครัวด้วยแล้วนะคะ ตามสัญญา



วัดนี้ ถ้ามีเวลามานั่งสมาธิ ได้จะดีมาก พระญี่ปุ่นนั่งล้อมมนต์สวดกันแบบขึงขังเอาจริงเอาจัง พระนั่งเก้าอี้ ไม่ต้องขัดสมาธิ พวกเรานั่งเสื่อ ถ้า
ใครที่เข่าไม่ดีมีเก้าอี้นั่งด้านหลัง ไม่มียุกๆยิกๆ นั่งเงียบๆ เรียบร้อย



จะไปร็อบปองหงิ  ช้อปของที่ลูกฝากซื้อก่อนนะจ๊ะ มีอะไรดีๆตามถิ่นที่ไปจะไม่ลืมเก็บรูปมาฝาก
ตึกนี้เพิ่งสร้างมาแค่10 ปีเอง สวยงามมาก บนเขา ริมแม่น้ำ เห็นโตเกียวทาวเวอร์อยู่ลิบๆ ที่จำลองหอคอยไอเฟลของปารีสมาไงล่ะ!



ทางขื้นไปบนตึก Roppongi Hills จากอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นบันไดเลื่อนสวยงามขนาดนี้

สังเกตุ มารยาทการใช้บันไดเลื่อนของคนญี่ปุ่น จะเป็นระเบียบ ใครไม่รีบร้อน ต้องชิดซ้ายไว้ตลอด เหลือเลนขวาไว้ให้คนที่รีบ/เร่งด่วน






ที่นี่เป็นย่านไฮโซ อย่างที่ บาสบอกไว้ ของที่วางขาย สวยๆทั้งนั้น ชั้น B 3 ทั้งชั้นมีแต่ shopขายของเด็กทั้งหมดส่วนชั้นบนก็ไล่เลียงกันไป ชั้นสามขายของน้องหมาน้องแมว ตัดขนหมา สดุดตากับการแต่งหน้าร้านของร้านขาย accessories ของน้องแมว มากๆ ดูจกการตกแต่งหน้าร้าน นึกว่าเค้าขายแมวอย่างเดียวที่ไหนได้ มีของทุกอย่างเหมือนเด็กทารก ไฮโซสุดๆ


แค่นี้อันละ12600เยน




วันนี้เดินห้างแถวรร.ที่พัก ที่เคยพูดไว้ว่า เป็นย่านคนสว. ชอบมาเดินช้อปกัน มีร้านขายวิกผมปลอมเยอะนะ คนญี่ปุ่น ประหยัดค่าทำผมตามซาลอน
ภายในห้างเดียวมีหลายยี่ห้อมาก เห็นมีกระจกเหมือนตามร้านทำผม บานใหญ่ มีเป็นมุมส่วนตัวให้คุณป้าคุณน้า เดินเข้าไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญประจำบู๊ทในห้าง ใส่ๆวิกนี้ถอดเข้าถอดออก จนกว่า คุณลูกค้าจะพยักหน้า โอเค เอาทรงนี้

พรุ่งนี้ จะไปเดินย่าน Ginza จะไปตามหาร้านสุกี้ บนห้างแถวนั้น  จำชื่อห้างไม่ได้ จะลองไปเดินหาดู
ตอนนี้ ที่นี่3ทุ่ม23 แล้ว








มี bussiness hotel มีแต่คนญี่ปุ่นที่อยู่ต่างจังหวัดมาพัก เวลาเข้ากรุงโตเกียวมาติดต่อธุรกิจ

ชื่อAsakusa Central Hotel ห้องเตียงเดี่ยว2เตียง จะแพงกว่า ห้องเตียงคิงส์ไซส์เตียงเดียว
ถ้าอยู่คนเดียว มีอีกรร. หนึ่งใหม่กว่า แบบโมเดอร์น มากๆรับรองบอส ชอบแน่ แต่เราติตรงมันไกลจากสถานีกว่านี้ และ ไม่มีล็อบบี้ ด้านล่าง ต้องเป็นบันไดเลื่อนขื้นไปชั้นสอง เวลานอนไม่หลับ ไม่มีที่ให้เดินเล่น


เดินไปไหน เหมือนติดแอร์ ไม่มีแดดด้วย ฝนวันนี้ก็เหมือนพระพรมน้ำมนต์ เบาๆ มีตกเป็นเม็ดแค่2ชม. แล้วก็หายไป โชคดีมาก เดินแล้วเพลิน ไม่ร้อนไม่หนาว

ที่เคยมาญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะมาตอนคริสมาสต์ เพราะ สมัยก่อน ลูกเรียนที่นี่ เป็นช่วงมหาลัยปิดสิบวัน ก็นัดมาเจอกันที่โตเกียว แล้วเรามันขี้หนาว ไม่สนุกเอาเลย จำศัพท์คำนี้แม่นเลย คำว่า ซามุ่ย เน๊ะ แปลว่า โคตรหนาวเลยอ่ะ

ถ้าอากาศดี ต้องไปซัปโปโรทางเหนือ หรือ ทางใต้ แถบเบ็ปปุ ที่มีออนเซ็น อากาศจะปลอดโปร่งกว่า คนน้อย เช่ารถขับเที่ยวได้ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดและค่าจอดมหาโหด



พักที่อิบารากิใกล้นิกโก้ ซื้อปลาดิบที่ซุปเปอร์แล่สดๆ ถูกมาก ซื้อตอนหลังสองทุ่ม ลด 50% นั่งจิ้มวาซาบิ กับ โชหยุ โทโร่ อูนิ


เนื้อย่าง/ยากินิกุ ร้านนี้ มาทุกครั้ง ต้องแวะให้ได้ อยู่ชั้นบนสุดบนห้าง Yodobashi-Akiba หาง่ายตึกนี้ ขายเครื่องไฟฟ้าและ ทุกสิ่งอย่างสำหรับนักท่องเที่ยวห้ามพลาด ขื้นจากสถานีจะเจอทันที แต่ก่อนขื้นควรถามนายสถานีก่อนนะว่า exit ใดที่ไปที่นี่เป๊ะๆ

เคนชิโร่ หวานใจ ของ เจ้าหญิง ครูสุ









บรรยากาศแถวนั้น ดูหงอยๆเพราะ ฝนตกและ เป็นช่วงเวลาทำงาน



Shop ของ Apple ที่ย่าน Kinza ดูโก้จัง เห็นเด่นชัด วันอาทิตย์ จะปิดเป็นถนนคนเดิน มีโต๊ะ/เก้าอี้สนามจัดวางเป็นระยะๆให้นั่งชมวิว/ผู้คน ฝนตกปรอยๆ บังคับให้เคนช่วยถ่ายให้ โดนดุ หน้าจ๋อย


เมื่อคราวที่แล้ว เคยหลุดเข้าไปกิน Shabuๆ ร้านนี้ ออกมาหัวแทบแตก สาวเสริฟแต่งชุดกิโมโน อย่างหรู เวลาเสริฟ คลานเข่าเข้ามา อร่อยมั่กๆ แต่ก็คิดในใจว่า กูไม่มาอีกแล้ว กิน3คน ราคาเท่ากับโต๊ะจีนดีๆที่กทม.ราคาเป็นหมื่นเลย(บาทไทย)


นี่คือตึกที่คนขายสาวสวยใจดีแนะนำให้ไปเดินเที่ยวช้อปของเด็ก อยู่เหนือป้ายยูนิโคล่ บนตึกนี้ ชื่อ Akachan Honpro อยู่ที่ สถานีรถไฟ JR ชื่อ kinshijo เลย Akihabaraมา3สถานี เจอแบบเดียวกับที่ซื้อมาวันก่อนเป๊ะ ราคาเท่ากัน แต่ที่นี่ มีลายให้เลือหลากหลายมากกว่าเยอะ น่าเสียดายจัง








เข้าหน้าหนาว มีlegging หลากหลายสำหรับสาวน้อย ห้างจะแบ่งเป็น4ฤดู ไปหน้านี้ มี แต่ของใส่หน้าวหนาว


เจอร้านนี้ แต่งร้านเนื้อย่างได้แปลกดี


Japan Premium Cafe

ทานอาหารเช้าที่ชั้นสามของรร.อร่อยดี มีให้เลือกทั้ง อินเตอร์หรือ ญี่ปุ่น อาหารที่รร.จัดให้ กาแฟ/น้ำส้ม/น้ำผักผลไม้ และน้ำอัดลม อ้วนแต่เช้า ทุกที่จะให้เติมข้าว/ซุปฟรี ใครจะไปเติมไหว ชามที่เค้าตักมาให้ เยอะจัด ค่าห้อง ตกคืนละ 11,000 เยน คูณด้วย .32เท่ากับคืนละ 3,520 บาท เราเข้าใจว่า แค่3.000 บาท
อาหารเช้าที่รร. นี้อร่อย ห้องก็ใหญ่พอใช้ ราคาคืนละ 3000 รวมอาหารเช้า มีกาแฟและน้ำส้มคั้นสด ชาเขียว/ชาจีน เสริฟไม่อั้น โค้กและสารพัดยี่ห้อ




เฉดสีของเคสโทรศัพท์ที่นั่น สวยมั๊ย?ร้านSoft Bank บนถนนkinza


ตามสถานีรถไฟย่านสำคัญๆ เช่น อากิฮาบาร่า จะมีล็อคเกอร์ให้เช่า เก็บสัมภาระ เรื่องหยอดเหรียญเอาตามความพอใจ 


เมื่อกี้ บอกให้ช่วยถ่ายหน่อย อยากเก็บรูปให้เพื่อนดูสภาพยังไม่โดนน้องฝนเล่นงาน ถ้าล่วงเลยไปช่วงบ่าย ผมฟีบ ปูนที่โบกไว้หลุดลุ่ย หมดสวย
วันนี้ เดินแพ็คคู่ เพราะ ไปนอกเส้นทางที่เราไม่ถนัด
ตึกที่ไปเมื่อวานนี้ เค้าเพิ่งสร้างใหม่ๆ มีป้ายบอกทางเป็นภาษาอังกฤษทุกระยะ คนญี่ปุ่นที่เดินแถวนั้น เป็นไฮโซ คุยภาษาอังกฤษได้เยอะ
งานเข้า พายุเปลี่ยนทิศ หันหัวมาทางเกาะฮอนชู วันนี้ฝนเลยตกเละเทะ เซ็งจุงเบย





เดินผ่านสวนUeno National Park มองไปข้างหลัง จะมีต้นซากุระ ตลอดแนว2ฝั่ง ช่วงฤดูใบไม้ผลิ นัดกันมาปิคนิค ปูเสื่อใต้ซุ้มซากุระบาน มีนัดกันเป็นเรื่องเป็นราว ฉลองวันดอกไม้ประจำชาติบาน สวยมากๆ

ตลาดนี้ เดินช้อปผลไม้/ปลาสดๆ/อาหารทะเล/ของแห้ง/เสื้อผ้า ใหญ่มาก คล้ายๆตลาดเก่าเยาวราช/ สำเพ็งและตลาดหลังอินทราประตูน้ำ เดินกันเมื่อยเลยเชียว  เดินไปเดินมาเหมือนเดินวนอยู่ในเขาวงกต  หาทางออกไม่เจอ




รูปนี้ ฝากให้ ไก่ นภัสสร ดูโดยเฉพาะ เค้าชิบเคยตากแห้ง เอามาทอดกรอบ เคี้ยวเพลิน เสริมแคลเซี่ยม แต่หาแถวตลาดมหาชัยถูกกว่า
ปลาเล็กปลาน้อย วนมหาสมุทรแปซิฟิค ภาษาจีนแต้จิ๋วคือ ไท้เพ้งเอี๊ย
เต้า แปลว่า มหาสมุทร ต้องไท้เพ้งเต้า ถึงจะถูกต้อง





พอฝนมา ฟ้าก็ครวญ
ชวนให้คิด
เหมือนดวงจิต เราคราง
ช่างน่าขัน
มีทั้งสุข และทุกข์
ไปวันวัน
อัศจรรย์ ไหมท่าน
นั่นตัวเรา
  เสียงฟ้าครวญ จิตเราคราง
ช่างพิลึก
พอนั่งนึก ไปมา
ช่างน่าขัน
ชีวิตเรา อยู่ไป
ให้เมามัน
อีกกี่วัน ก็ไม่รู้
สู่กองฟอน

สัญญลักษณ์หมาผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดีกับเจ้านายๆเสียชีวิตไป แต่หมายังมารอนายที่สถานที่นี้เช่นทุกๆวัน


มาจองตั๋วSkyliner ล่วงหน้า ที่ สถานีรถไฟUeno พรุ่งนี้เช้า08:15 ออกจากที่นี่ใช้เวลา41นาที ถึงสนามบินนาริตะ ราคาคนละ2,400 เยน


แม่บ้านญี่ปุ่น ต้องใช้บริการแบบนี้ ไม่มีพี่เลี้ยง ช่วยตัวเอง 


นั่ง Hibiya line จาก Ueno ไป Shibuya ไม่ต้องกลัวหลง เพราะ มันคือต้นสายไปจนสุดปลายทางรถไฟสายนี้ เห็นคนลงหมดรถ เราก็เดินตามไป


ที่ชิบูญ่า เป็นแหล่งรวมแฟชั่น อะไรที่กำลังin trend ต้องที่นี่เท่านั้น



ก่อนกลับ วันนี้ เพิ่งรู้ว่า ทางเทศบาลเขตอาซากุสะ มีรถจักรยานให้เช่าคิด 4ชม. /200เยนเท่ากับ 64บาท เลยเช่าไปขี่เล่น พรุ่งนี้ ต้องเช็คเอ๊าท์ตอน 7:30 เรียกแท๊กซี่ไปสถานี Ueno ต่อรถ Skylinerไปนารีตะ เพราะ สนามบินนารีตะ กว้างใหญ่ไพศาล มีสองterminal ของการบินไทย เบอร์1 ของที่คนรอบตัวเราฝากซื้อ มีมาก จนกระเป๋าเดินทางอวบระยะสุดท้าย TG641 Depart 11am, arriving time 15.30 เย็นเจอกันจันทร์เพ็ญต่อเลย ชิลๆ

The End
 ก่อนเริ่มต้น ได้เที่ยว ได้แอ่ว ถือเป็นของขวัญ เป็นสีสัน เป็นกำไรของชีวิต ไปเพื่อผ่อนคลาย ไปดู ไปเห็น ไปกิน ไปถ่ายภาพ ไปเติมพลัง ไปกราบพระขอพร ไปเพราะเขาไปกัน กำลังฮิตติดกระแส หรือไปสัมผัสบรรยากาศ ไปตามความฝัน จินตนาการ ไปเรียนรู้วิถีธรรมชาติ ฯลฯ...อะไรก็แล้วแต่ ขอให้ครูสุ มีความสุข สนุกสนาน กับการเดินทาง สู่ดินแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่ง ตั้งอยู่ละติจูดที่ 20 จึงเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของโลก ( ละติจูดที่ 1-19 เป็นทะเล ) แต่ละวันใหม่ พระอาทิตย์จะส่องแสงในดินแดนของชาวญี่ปุ่นเป็นแห่งแรกในโลก ฝรั่งจึงตั้งให้ว่าเป็น ‘Land of the Rising Sun’ ( แดนอาทิตย์อุทัย  นามนี้ไม่ต่างไปจากชื่อซึ่งญี่ปุ่นเรียกตัวเองคือ ‘นิปปอน’ พยางค์แรก ‘นิป’ แปลว่าพระอาทิตย์ ส่วน พยางค์หลังแปลว่า ‘ที่มา’ ตั้งแต่สมัยโบราณ จีนเรียกญี่ปุ่นว่า ‘จา ปัน’ อันมีความหมายว่า ‘อาทิตย์อุทัย’ หรือ ‘ทิศบูรพา’
ภาษามาเลย์เพี้ยนเป็น ‘จัปปุง’ คนไทยเรียกเพี้ยนจากมาเลย์ เป็น ญี่ปุ่น ส่วนฝรั่งเรียกเพี้ยนต่ออีก กลายเป็น ‘แจแปน’ ครูสุช่วยเล่าสู่กันฟัง อย่างบรรเทิงเริงรมณ์ เพื่อนๆ ได้กิน ได้เที่ยวด้วย เสริมโรแมนติกบ้างพอเป็นกระสาย ก็เพิ่มสีสรรจ๊ะ แบบว่า มีชีวิต ก็ใช้ซะ จ๊ะ Enjoy, be happy









No comments: