12/24/2013

House of Palm, Chiang Mai

The Dining Out Group
Coordinated  By Paul & Nop

Mix Restaurant and Bar has a huge menu with a tiny kitchen. I don’t know how they do it but we had 17 people and the service, although slow, was attentive and they carried it off very well. The diners seemed to like it very much and every one I spoke to said that they will go back.
Photos from our last outing at Mix Restaurant and Bar  by Nop:
All reservations must be sent todiningoutcnx@hotmail.com only and reservations and cancellations must be in by 8:00PM (20:00) the night before the event. Please give the number in your party. “No shows” and people that show up without reservations or a different number of people than reserved will be deleted from the mailing list for six months. A confirmation will be sent when reservation is received. If you don’t receive a confirmation within 48 hours please, reserve againat:   diningoutcnx@yahoo.com
Our next event will be at House of Palm. This will be on Thursday, January 2, 2014 at 7:00 PM.  

House of Palm review from Chiang Mai Mail May, 2004 so please disregard prices.
The home of some incredible Thai food
One imagines that local Thai restaurants would originate in Thailand. This is usually the case, but not for this one, the House of Palm. This was originally a restaurant called the “Jitlada” and was situated inHollywood, in Los Angeles. It was famous for its food and for the clientele that included the Sultan of Brunei and assorted movie stars. It was a restaurant that gained rave reviews in America, and after 17 years in LA was a Thai institution, but the owners Tim and Montri, like so many Thais, wanted to come home. And home is Doi Saket.
With our Magellan compasses we set sail. It is not that easy to get to, but is 13.2 km north from the superhighway in the direction of Chiang Rai. 2 km before you reach Doi Saket, on the left opposite Doi Saket hospital there is a mini-mart called IMF, turn left there and the entrance is 50 meters along the soi.
We went at night and the ambience is wonderful, with palm trees around the lake, manicured lawns, the fountain playing and cool breezes. We were impressed before we even sat down. Montri met us and ushered us into the air-conditioned private area, while his wife Tim attended to our food.
The menu has 80 items on offer, and they are 80 separate items, not the same dish using four different meats. It begins with 10 different appetizers, with the majority B. 80 and includes mee krob, shrimp rolls and fried won-tons, either shrimp or pork.
Soups are next, again generally around B. 80 and cover the classics as well as a won-ton soup and kang leang. These are followed by Thai salads, generally B. 80 again and has the spicy dancing shrimp, Thai sausage salad, spicy salmon, Phuket salad and even aCalifornia chicken!
Next up are 15 mains selected from beef, chicken and pork, with the vast majority B. 80 once more. This covers traditional Thai curries, garlic and pepper dishes, omelettes but Texas style baby back pork ribs are B. 160.
Several seafood choices are next, with many dependent upon market price, but those that are not were B. 120, and this included spicy scallops and assorted sauted items with shrimps, squid and clams. The eight choices of shrimp dishes were also B. 120, plus a couple of market price specials.
These are followed by vegetable dishes and fried rice choices and noodles. Finally desserts and beverages, with local beers B. 50-60 for a small bottle and house wine B. 120 per glass. There is also a wine list with all bottles very moderately priced.
We had a wide selection of dishes and right from the appetizers we were hooked. Shrimp rolls that were soft and succulent, deep-fried prawn won-tons and mee krob, the crispy noodle dish. This was followed by a superb tom kha talay, which had imported NZ mussels and plump prawns in the coconut milk soup. This was really something special, and one I will have again!
For mains we again had many choices, with the Chiang Mai duck being very, very good. “We used to call itBangkok duck when we were in Los Angeles,” said Montri! The grilled prawns were enormous (check the photograph) and the presentation of every dish was superb. There was no getting away from the fact that this was exceptional Thai food.
Perhaps difficult to find first time, but after one visit you will be back. Sensational food, in fact some of the best Thai food I have tasted in this country, and sensationally under-priced. This is the best new restaurant I have tried this year. Very highly recommended. Do go. You will not regret it.
The House of Palm, 162/6 M. 5, Tambon Rongnau, Amphur Soisaket, (13.2 km north from the superhighway in the direction of Chiang Rai. 2 km before you reach Doi Saket, opposite Doi Saket hospital there is a mini-mart called IMF, turn left there and the entrance is 50 meters along the soi.) Telephone 053 291 401 or 01 950 8559 (in case you get lost). Open 11 a.m. till 11 p.m., closed Monday - Wednesdays.
Paul’s Review:
Food Quality     9
Service             9
Ambiance          9     
Value                        9
Average meal excluding alcohol is 400 baht per person.

Directions:
From the American Consulate follow the road south along the Ping River and make your first left crossing the river. Follow this (Kaew Narawat Road) until you cross the super highway (#11). This turns into #118 when you cross the highway. Follow 13.2 kilometers and you will see a soi on your left with a “House of Palm” sign. Turn left and it is 50 meters on your left. There is a sign.

12/22/2013

สันติชล ขาหมู่ หมั่นโถว ปาย เชียงใหม่

ตอนที่ 7/4....พาเขรอะหมู ไปเบิ่งเมืองปาย


.......“ อากาศยามเช้า ของเมืองปาย นี่ดีจังเลยค่ะ ”....... แสงแรกของวันโปรยสีเหลืองทองอ่อนๆ ให้กับ แม่น้ำปาย ไหลเอื่อยบิดริ้วผิวน้ำไหล สะท้อนจับประกายแว๊ป วับ เลาะเลี้ยวลัด เลี่ยงเกาะสันดอนกรวดทราย สายน้ำปายไหลเอื่อยๆ เช่นนี้ พาให้สายลมอ่อนๆ พัดเย็น ส่งไอหมอก ค่อยๆ ฟุ้งขยับตัวลอยสูงขึ้น ทิ้งไว้แต่รอยของน้ำค้าง ที่หยดพรมทั่วผืนดิน เจ้านกตัวเล็กตัวน้อยพากันส่งเสียงร้อง จุ๊บๆจิ๊บๆ ปะปนกับเสียงใบไม้ปลิ้วพริ้วไหว ระคนเสียงลำก่อไผ่โอนเอนขัดสี กัน อี๊ดๆ อ๊าดๆ กลิ่นไอดิน กลิ่นเย็นไอหมอก กลิ่นของธรรมชาติอันแสนบริสุทธ์ เช่นนี้ ทำให้เรารู้สึกถึงความ นิ่ง สงบ หยุดวุ่นวาย เบา ผ่อนคลาย เย็นสบายม๊ากมาก สัมผัสประสาททั้งหมด รับรู้ความเป็นธรรมชาติอันบริสุทธ์ของ ปายได้เป็นอย่างดี เรานั่งสูดอากาศ อันแสนบริสุทธ์ สูดเข้าไปจนเต็มปอด ช่างหอมเย็น สดชื่น บริสุทธ์ จน อยากจะเก็บไว้ไม่ปล่อยออกเลย แต่ยังไง เราก็ยังได้สูดอากาศของปาย อีกทั้งวันล่ะน่า ไปดูเจ้าเขรอะหมู ดีก่า ว่า ตื่นหรือยังเอ่ย




-อากาศเย็น หายใจแล้ว มีควันออกมาด้วย




-หน้ากระท่อม มีมุมที่นั่งสวยๆ วิวนี้ชิว ที่สุด อ่า 




-เจ้าเขรอะ เดินงัวเงีย ออกมาจากบ้านหล่ะนั่น 

โปรแกรมวันนี้ กะว่า เช้านี้จะขี่มอเตอร์ไซด์ เที่ยวรอบๆ ปาย และหาบ้านพัก หลังใหม่ไว้เผื่อคืนนี้ด้วย ส่วนรอบบ่าย กะไว้ว่า จะไปหมู่บ้านรักไทย ไปกิง ขาหมูหมั่นโถว กัน ส่วนเย็น นิเราจะไปล่องแพแม่น้ำปาย กันหล่ะ...... 



-อากาศเย็นๆ งี้ มาม๊ะ ขอกอดให้อุ่น หน่อยจิ เขรอะหมู.. 

แต่ยังไง ขอต้องหาข้าวรองท้องน้อยๆ ก่อนดีก่า เนอะๆ เจ้าเขรอะหมู ก็สูตรเดิม ตับบด กระป๋อง และ เอาโป้ เราให้เจ้าเขรอะหมูกินข้าวเฝ้าบ้านอ่า......เช้าๆ อย่างนี้ ชิวิตที่ปายดูคึกคัก ทั้งไทยฝรั่งเดิน ไปเดินมา เยอะดี เราโฉบเข้าร้านอาหารฝรั่งหล่ะกันค่ะ ง่ายดี จะได้ทำเวลา เด่วเที่ยวปายไม่ทัน 



-เเวะร้านนี้รองท้องเช้าก่อน เพ่ ขอสปาเก็ตตี้ จานหนึ่ง

เราซื้อไก่ปิ้งมาฝากเจ้าเขรอะหมูด้วย แต่สงสัย มันงอล เลยไม่ยอมกิน เราเลยจำยอมต้องปล่อยมันออกจากห้อง เจ้าเขรอะได้ทีวิ่งลงกระได พุ่งไปที่แม่น้ำ แหย่ขา ทำท่าจะแกว่งน้ำเล่น แต่มันคงรู้ว่าน้ำมันเย็นมาก เลยหนีไปวิ่งเล่น ดมนู้นดมนี่ทำจมูกฟุตฟิต เดินซนจนเท้าเปื้อนดินหล่ะซิ มันเดินเข้าไปกินหญ้า และทำธุระเล็ก ธุระใหญ่ จนเสร็จเรียบร้อย เราเลยพึ่งนึกได้ว่า ตั้งแต่มาถึงปายนี่ เจ้าเขรอะยังไม่ได้ปล่อยเลยง่า ...ไม่นานนัก มีหมาเจ้าถิ่นอีก 2 ตัวเคลื่อนมาหาเจ้าเขรอะ เจ้าตัวแรก มันวิ่งมาหาแล้วทำหางชูหูตั้ง ยืนตัวตรงกระดิกหางดิ๊กๆ เจ้าเขรอะก็เช่นกัน สงสัยจะกำลังทำความรู้จักกันอยู่ แต่พอเจ้าอีกตัวมาถึงนิสิ เจ้าเขรอะเริ่มขนลุก แยกเขี้ยว ขู่ แง่งๆ... แล้วเจ้า สองตัวนั้นเลยเริ่มมั่ง เราดูแล้วเห็นว่า ไม่รอดแน่ หมาคุณหนูอย่างเจ้าเขรอะ เนี๊ยะไม่ได้เคยออกไปสู้รบปรบมือกะหมาตัวไหนมาเลย ปล่อยไว้คงเละเป็นโจ๊กหมู เราเลยต้องสวมวิญญาณ อัศวินขี่ม้าขาว เข้าไปห้ามทัพ ซะงั้น แต่ พองื้อมือไล่ เจ้าสองตัวนั่น เจ้าเขรอะหมูได้ทีค่ะสวมรอย วิ่งไปจะไล่กัดเค้าอีก เอ้า...ซะงั้น เด่ว ไม่ช่วยซะเลยนิ สุดท้ายเลย ต้องอุ้มมันกลับเข้าบ้านค่ะ ตัวเราก็พลอยเปื้อนดินจากขาของมันไปด้วยงานนี้.....หลังจากเช็ดเท้าเช็ดตัวมันแล้ว...เราเลยบอกกะเจ้าเขรอะว่า ให้นอนรอเฝ้าห้องก่อน เดี๋ยวจะไปหาบ้านพักหลังใหม่ให้แหล่มๆ



-มา ปาย ก็ต้องขี่มอไซด์ ราคาเช่าต่อวันก็ไม่เเพงด้วยอ่ะ



-มา งั้นเราเริ่ม กันที่ กิโลเมตร ที่ หนึ่งเลย.... 

ปาย นี่เป็นเมืองที่เหมาะกับการขี่รถมอเตอร์ไซด์มาก สามารถขี่วนเป็นวงรอบได้ด้วย หรือจะขี่ ออกไปไกลหน่อยก็เป็นธรรมชาติบรรยากาศดีเป็นบ้าเลยแหละ 




-เส้นทาง สวยงาม มาก โค้งนี้ อบเชย เกือบเสียหลักเหมียนกันนะนิ 

ที่พักก็มีเยอะแยะเต็มไปหมดแล้วแต่ว่าใครชอบสไตล์ไหน งบประมาณเท่าไหร่ มีหลายเกรดหลายราคา ต้องแวะเข้าไปชมกันเองอ่ะ จะได้ถูกใจ....เราแวะเข้าไปดูหลายอันน่ะ สวยๆ แนวๆ ทั้งนั้นเลย แต่ดูแล้วบางที เจ้าเขรอะหมูก็พักไม่ได้ เลยต้องหาเอาแนวที่ออกพื้นเมืองซะหน่อย 



-หลังนี้ น่ารักดี เเต่ไม่ติดเเม่น้ำปาย ห้องพักน่าอยู่ ชะมัดเลย วุ้ย... 




-อันนี้ เป็นบ้านพักบนต้นไม้ เเต่ ถ้าอยู่ คงลำบากเจ้าเขรอะหมู ด้วยเเง๋มๆ เลย...มันจาตกไหม นิ
เราขี่ไปเรื่อย จนไปเจอที่หนึ่งถูกใจมาก เลย เป็นบ้านพักติดกะแม่น้ำปาย แต่เป็นช่วงห่างจากเมืองพอสมควร ประมาณสัก 2 ~3 กิโลเห็นจะได้ มีบ้านอยู่ สามสีหลัง บรรยากาศดี แถมที่สำคัญ เจ้าเขรอะอยู่ได้ด้วย แฮะๆ....บ้านนี้ ชื่อ สิบสองพันนา ค่ะ ชื่อนี้มีที่มา และความเป็นมามากม๊าย ขอแนะนำเลย ที่นี่ ดีม๊ากๆ ถ้ามาแล้วต้องขออ่านพ็อกเก็ตบุคของ สิบสองพันนาด้วยนะ จะยิ่งทำให้อยากพักอยู่ที่นี่ขี้นอีกโขเชียว สิบสองพันนา นี่ส่วนตัวม๊าก สงบ สบาย มาพักแล้วได้บรรยากาศ ปายไปเต็มๆ แน่นอน เราไม่รอช้า จองบ้านหลังใหญ่ นอนได้ 4 ~ 5 คน มีระเบียงมีห้องน้ำ แบบ โอเพ่นวิว ด้วย ว้าวๆๆ....แนวสุดๆ ค่ะ ราคาก็ไม่แพงเลย คืนล่ะ พันสองร้อยบาท



-บรรยากาศ หน้าบ้าน เเละหลังบ้าน ของ สิบสองพันนา ค่ะ 




-ที่นี่ มีมุมนั่งเล่นนอนเล่น และ ห้องน้ำรวม สีสวยๆ ให้ด้วยค่ะ 

....เรากลับมาขนของ ขนเขรอะ และเช็คเอ้าท์ออกกระต๊อบกัน รีบกลับมาที่ สิบสองพันนา .....แล้วก็ มิ รอช้าค่ะ จัดแจงขอฝากเจ้าเขรอะ ไว้กะแม่บ้าน แกใจดีให้มันนอนแถวเคาว์เตอร์ได้ด้วยแต่ เราไม่ประมาทผูกโซ่ เจ้าเขรอะไว้กะเสาด้วยดีก่า กลัวมันไปฟัดไก่ เค้าแล้วจะยุ่ง.... “ ไปนะ เขรอะเดี๋ยวเที่ยวเผื่อนะ...กลับมาเดี๋ยวพาไปด้วย ” เราปลอบเจ้าเขรอะไว้ กลัวมันจะเซ็งซะก่อน....อิอิ



-ห้องสวย ชิมิ 



-เจ้าเขรอะหมู มองเราเเล้วเซ็ง "ทิ้งตู อีกเเล้ว ใช่มั๊ย" ...จร้า ไม่ทิ้ง ให้เขรอะพักผ่อนไง ...อ่ะ...พักผ่อน 

เราขี่กลับเข้าเมืองแวะไปหาข้อมูล เที่ยวที่หน้าอำเภอปาย ตรงนั้นมีศูนย์บริการเล็กๆ ให้ข้อมูลอยู่ ขี่ผ่านร้านขนมอยู่ร้านหนึ่งเห็นหน้าร้านแล้วอดใจไม่ได้ค่ะ เลยแวะเข้าไปลอง ร้านตกแต่งหน้ารักมากเลย มีที่ให้นั่งอ่านหนังสือและกินขนมได้ด้วย อบเชยเลย ขอลองหน่อยค่ะว่าจะอร่อยขนาดไหน...ร้านนี้ชื่อ ร้าน All About Coffee เค้กอร่อยด้วยหล่ะ



-ร้านเก๋ดี ชอบๆ 



-ขนมอร่อยๆ เป็นขาประจำดีก่า 



-เเวะดูโปสการ์ด เเป๊บหนึ่งน่ะ

จากตัวเมืองปายไปหมู่บ้านรักไทย นี่ระยะทางไกลเหมือนกันต้องเติมน้ำมันรถให้เต็มถัง ที่นั่นไม่มีปั้ม มีคนแนะนำให้เราไปทาน ขาหมูหมั่นโถว และชิมชา อู่ลง ด้วย แหม งานนี้ จะพลาดได้ไงหล่ะ ...ปะ ไป กันเลย น้ำลายไหลแล้ว....



-ภาพนี้อยู่ ปกเมนูค่ะ เก็บมาฝาก



-ภายในร้าน เย็นด้วยเเอร์ ธรรมชาติ



-ขาหมู อร่อยสุด



-บะหมี่ ฮกเกี้ยน อ่า



-รวมความเสียหายอีกเเล้ว 



-ชิงช้า ชาวเขา อันนี้ต้องลองเล่นดู เเล้วท่านจะอยากให้เพื่อนๆ เล่นบ้าง (เเก้เเค้น) 



-ก่อนกลับ อย่าลืมชิม ชาอู่ล่ง ด้วยนะค่ะ ชิมฟรี แต่ถ้าชอบอุดหนุนด้วย เด้อ 

เส้นทางนี้เราขี่มอเตอร์ไซด์ ขี้นไปเที่ยวต่อได้อีก มี วัดน้ำฮู้ และ น้ำตกด้วย สองข้างทางก็จะเป็นป่าเขา ชาวบ้าน ได้มาปลูกผัก ทางจะไม่ค่อยดีเท่าไร ต้องระวังด้วยแต่ถ้าขี่มอไซด์ แข็งอยู่แล้วก็ ไม่ใช่ปัญหาค่ะ ช่วงนี้น้ำที่น้ำตกไม่ค่อย มี แต่ที่แปลก คือจะมี ฝรั่ง สองสามคน มาเล่นโยคะ อยู่บนก้อนหินที่น้ำตกด้วย ดูท่าแก แต่ละท่า แล้วเหมือนแก จะซึมซับธรรมชาติได้ถึงจริงๆ นะเนี๊ยะ แต่งานนี้อบเชย ขอบายดีก่า เด่วเส้นสายยึดไปหล่ะจะยุ่ง ห่างไกลจากเมืองเสียด้วย



-วิวทิวทัศน์สวยอะ



-พระธาตุวัดน้ำฮู้

....ตายหล่ะค่ะ... สี่โมงเย็นแล้ว เรานัด ล่องแพ ไว้นิเด่วเข้าเมืองมีสัญญาณแล้วต้องโทรหาพี่แก ซะหน่อยแล้ว กลับก่อนดีกว่า....เจ้าเขรอะหมูรอเราพาไปล่องแพ อยู่นิ พี่แกเอารถมารับเราจากที่พักและพาขึ้นไป ถึงต้นน้ำ เวลาก็ สักหกโมง แล้ว แกบอกเราว่าใช้เวลาล่องประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ ราคาที่แกคิดก็ถูกมาก 600 บาท แถมเจ้าเขรอะด้วยอีกตัว งานนี้ หล่ะเจ้าเขรอะหมูจะ ได้เป็นหมูแช่แข็งแน่ๆ เลย น้ำปาย กำลังเย็บเฉียบเลยหล่ะ 



-เตรียมตัว ประจำที่นะ เขรอะหมู 



-เขรอะถ่อเเพซ้าย เขรอะถ่อเเพขวา 



-เขรอะหมู ถ่วงน้ำหนัก ดี หน่อย เซ่ !...



-โอ้ย เจอสันทราย เลี้ยวๆ....



-เจ้าเขรอะหมู มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ช่วยถ่อ หน่อยซิ เขรอะหมู 


แม่น้ำปาย ช่วงนี้ เป็นช่วงหลังจากที่เคยมี เหตุการณ์ น้ำป่า เกิดขึ้นทางอำเภอได้มาจัดขุดลอก คันแม่น้ำไว้แล้ว พี่คนท่อแพ แกเล่า ว่า ช่วงที่น้ำป่ามาเนี๊ยะ แม่น้ำปายกว้างเป็นร้อยๆเมตร ไหลแรงพัดเอา ต้นไม้ท่อนซุงต่างๆ มาด้วยเต็มไปหมด แล้วน้ำทั้งหมดก็ไหลเข้าไปพังในเมือง ยิ่งบ้านเรือนที่พัก ริมฝั่งแม่น้ำเนี๊ยะ พังกันเป็นแถบ นักท่องเที่ยว วิ่งหนีทิ้งเข้าของกันใหญ่ ขนาดสะพานคอนกรีต ยังพังเลย แกเล่าให้เราฟัง ซะน่ากลัวเลย แต่แก ว่า หลังจากน้ำป่าใหญ่ คราวนั้นแล้ว วิถีริมแม่น้ำปายก็เปลี่ยนไป น้ำป่าพัดพาเอากรวดเอาหินมา จมไว้ในแม่น้ำซะมาก คนก็เลยพากันมาร่อนเก็บหินออกไปขาย หลังๆ มาเห็นว่ามีการทำเป็นสำปะทานเก็บหิน หินพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ใช้ ผสมสร้างบ้านตกแต่งรีสอร์ทเกสต์เฮาท์ ที่เริ่มทยอยตัวเปิดขึ้นใหม่ หลังจากบาดเจ็บกันมาพอควร ....เราล่องแพ กะ พี่แก มาเรื่อยๆ ถามนู้น ถามนี่ จากแก ทำให้เราได้รู้จักปาย ได้มากขึ้น แพของเรากำลังจะผ่านหน้าบ้านแล้ว สิบสองพันนา ตอนค่ำเช่นนี้ดูเงียบ จริงๆ ...เจ้าเขรอะจะเป็นไงบ้าง หน่อ ?.....เอ้า !!! ..เอ้า..เจ้าเขรอะมันอยู่กะเรานี่หว่า..ไหนเจ้าเขรอะหมูเป็นไงบ้าง ...เจ้าเขรอะยืนตัวแข็ง แลบลิ้น แผล๊บๆ มันคงจะเย็นเท้าง่ะ ..ทนหน่อยจ๊ะ เด่วถึงแล้ว ...อีกไม่นานเราก็ถึง สะพานที่พังเมื่อครั้งน้ำป่า มาตอนนี้กำลังซ่อมอยู่...สุดทางแล้ว พี่แกบอกเรา แพไม้ไผ่ ถูกย่อยออกเป็นลำๆ แล้วลำเลียงขึ้นรถกระบะ แกบอกเราว่า แพไม้ไผ่ นี้ใช้ได้ ประมาณ เดือนกว่าๆ ตอนนี้สภาพดีอยู่ต้องเก็บเอาไปใช้งานอีก



-บรรยากาศ จะมืดเเล้ว เราก็ใกล้ถึง เเล้วหล่ะเขรอะหมู อดทนหนาวนะ 

เรากลับถึงบ้านพัก สิบสองพันนา อาบน้ำอุ่นให้เจ้าเขรอะ เช็ดหัวเช็ดหู เป่าไดร์ ให้ขนแห้ง เสร็จแล้วปูผ้าไว้ให้มัน พอเจ้าเขรอะเห็น ทำเป็นเดินส่ายหัว งิงุ ล้มก้นนอน กินสแน็กแท่ง เฉย เราจัดมื้อเย็นไว้ให้มัน เจ้าเขรอะดูมีความสุขจริงๆ เราก็อาบน้ำเช่นกันเพราะจะเข้าเมืองไปหาอะไร ทานอร่อยๆ ซะหน่อย วันนี้ใช้กำลังไปเยอะ ต้องกินให้เต็มคราบเลย.....ง้ำๆ



-อาหารค่ำ ที่ร้านบ้านปาย ซะเต็มเหนี่ยวเหยอ 



-มีน้องหมา มาขอด้วยยย...นั่งรอเรียบร้อยเหมือนเขรอะหมูเลย ต้องให้รางวัลหน่อย 





-ปิดท้าย ด้วยนมเย็น ร้านรถโฟล๊ก 



-ไม่ว่า จะเป็นหน้ารถ หรือ หลังรถ อบเชยซัดเรียบง่ะ...อ้ำๆ... 

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cinnamongal&month=07-10-2007&group=9&gblog=15