10/13/2013

ไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจ สมุทรสาคร ปี 2556.

..........ไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจ สมุทรสาคร ปี 2556.............

นางสาวอังคณา พุ่มผกา ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม (สมุทรสงคราม นครปฐม สมุทรสาคร) เปิดเผยว่า บริเวณท่าฉลอม-มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน มีชาวจีนอพยพเข้ามาทำมาค้าอยู่อาศัย นำขนบธรรมเนียม ประเพณีต่าง ๆ เข้ามาเผยแพร่ รวมทั้งสร้างศาลเจ้าขึ้นเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจำนวนมาก สืบต่อมาถึงปัจจุบันชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรสาครจึงมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังคงยึดถือและรักษาประเพณีอันดีงามไว้


        โดยในปีนี้ เทศบาลนครสมุทรสาคร ร่วมกับ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม ชมรมผู้ประกอบการอาหารเจ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร จัดงานประเพณี “ไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร ประจำปี 2556 ร่วมเทิดพระเกียรติ 86 พรรษา มหาราชา ทรงประทับในหัวใจประชาชน” ระหว่างวันที่ 4 -13 ตุลาคม 2556 บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร และศาลเจ้า 9 แห่งในเขตเทศบาลนครสมุทรสาคร
ซึ่งประเพณีถือศีลกินเจนอกจากจะให้คุณค่าทางจิตใจแล้ว การงดเว้นเนื้อสัตว์หันมาบริโภคผักผลไม้ และธัญพืช ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ยังเป็นการเสริมสร้างสุขภาพ ล้างพิษในร่างกาย ในแต่ละปีจึงมีผู้บริโภคอาหารเจจำนวนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังนิยมไปไหว้เจ้า ทำบุญ ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม จึงจัดให้มีกิจกรรม ไหว้เจ้า 9 ศาล ตามเส้นทางใน “Passport ไหว้เจ้า 9 ศาลเทศกาลกินเจสมุทรสาคร” เส้นทางบุญ หนุนมงคลชีวิต และเมื่อประทับตราศาลเจ้า ครบทั้ง 9 ศาลแล้ว สามารถนำไปขอรับเหรียญ “เจ้าแม่กวนอิม” ได้ฟรี (จำนวน 12,000 เหรียญเท่านั้น) โดยขอรับ Passport ได้ที่เทศบาลนครสมุทรสาคร , ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม และศาลเจ้าทั้ง 9 แห่ง

                นอกจากนี้บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ริมแม่น้ำท่าจีน มีการจำหน่ายอาหารเจกว่า 100 เมนู จากร้านค้ากว่า 50 ร้าน ที่มีการควบคุมคุณภาพ ความสะอาดปลอดภัย จากสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมการแสดงต่าง ๆ อาทิ นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหัวข้อ “เศรษฐกิจพอเพียง” , นิทรรศการเผยแพร่พระกรณียกิจ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านความสัมพันธ์ไทย-จีน พระราชนิพนธ์เกี่ยวกับประเทศและวัฒนธรรมจีน , การแสดงจากศิลปินมืออาชีพและเยาวชน , นิทรรศการสาธิตศิลปวัฒนธรรมจีน เช่น การชงชา การเขียนพู่กัน การตัดกระดาษ จากสถาบันขงจื้อ ม.ราชภัฎสวนดุสิต และนิทรรศการเผยแพร่ความรู้เทศกาลกินเจในกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ เป็นต้น



โดยศาลเจ้าทั้ง 9 แห่งสามารถเดินทางสักการะได้ในวันเดียว


  และในเทศกาลกินเจสมุทรสาครแล้วยังมีอาหารเจปรุงสำเร็จสุดแสนอร่อยและหลากหลายชนิด จากชมรมผู้ประกอบการอาหารเจ 50 ร้าน เริ่มจำหน่ายอาหารเวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ ริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร


1. ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาครต.มหาชัย อ.เมืองฯ
เจ้าพ่อหลักเมือง เป็นแผ่นไม้รูปเจว็ด ขนาดสูงประมาณ 1 เมตร เรียกว่าเทพเจ้าจอมเมือง เป็นรูปเทวดาหัตถ์ขวายกประทานพร หัตถ์ซ้ายถือพระขรรค์ มีกุมารน้อย 2 คน เป็นบริวารอยู่ด้านข้าง มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า แผ่นไม้สลักนี้ลอยน้ำผ่านคลองมหาชัย ชาวบ้านได้อัญเชิญขึ้นสักการะสร้างเป็นศาลเล็กๆ ไว้ที่ป้อมวิเชียรโชฏกเรียกศาลเทพเจ้าจอมเมือง ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาสร้างอาคารทรงไทยใน พ.ศ. 2460 แต่อาคารนี้ถูกรื้อหลังการก่อสร้างศาลหลักเมืองใน พ.ศ. 2525 เชิญเจ้าพ่อหลักเมืองไปประดิษฐานบนด้านเหนือศาลหลักเมือง แต่มีการประทับทรงเจ้าพ่อวิเชียรโชติ จึงสร้างอาคารใหม่เป็นศิลปกรรมจีนสวยงามมาก เป็นที่นับถือกราบไหว้ของชาวไทย ชาวจีน โดยเฉพาะชาวประมงมักขอพรบนบานขอให้ทำกิจการปลอดภัยและร่ำรวย จะมีการแก้บนด้วยฝิ่นเสมอ โดยนำมาป้ายที่บริเวณปาก ส่วนศาลหลักเมืองอยู่ถัดออกไป เป็นหลักเมืองที่สร้างขึ้นใหม่

ความคิดเห็นที่ 2
2. โรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร
เดิมทีพื้นที่ของโรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เป็นโรงเรียนจีน พอมาในยุคสมัยที่รัฐบาลไทยมีกฎหมายบังคับให้โรงเรียนทุกแห่งเปิดสอนได้เพียงภาษาไทยเท่านั้น โรงเรียนจีนแห่งนี้ได้ปิดตัวลง และพื้นที่นี้ได้กลายเป็นพื้นที่รกร้าง ดังนั้นจึงได้มีการจัดสร้างสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นโรงเจ โดยเงินที่นำมาทำการจัดสร้างนั้นมาจากการบริจาคการล้างป่าช้า ดังนั้นจึงได้จัดตั้งโรงเจขึ้น โดยใช้ชื่อว่าโรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร และทุกปีเมื่อถึงเทศกาลกินเจ ชาวไทยเชื้อสายจีนในฝั่งมหาชัยก็จะมาร่วมปฏิบัติธรรมในเทศกาลกินเจ ณ โรงเจแห่งนี้

ความคิดเห็นที่ 3
3. ศาลเจ้าปุนเถ้ากง (คลองมหาชัย)
ศาลเจ้าปุนเถ้ากง คลองมหาชัย ได้มีการจัดสร้างขึ้นมาเป็นระยะเวลานับร้อยปี สมัยก่อนสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวประมงและชุมชนในพื้นที่ เสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดยสร้างเป็นศาลไม้เล็กๆ และภายหลังได้มีการบูรณะศาลใหม่ โดยก่ออิฐถือปูนมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว และศาลเจ้าปุนเถ้ากงแห่งนี้มีการจัดงานเฉลิมฉลองศาลเจ้าปีละ 3 ครั้ง โดยมีในเดือนกุมภาพันธ์ สิงหาคม และพฤศจิกายนของทุกปี
4. ศาลเจ้าแม่กวนอิมพันมือคลองจาก
ศาลแห่งนี้สร้างมานานกว่า 20 ปี ในอดีตเป็นศาลเจ้าสร้างด้วยไม้หลังเล็กๆ ธรรมดาที่ปลูกสร้างเพื่อให้ชาวไทยเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นได้เคารพสักการบูชา แต่เมื่อประมาณ พ.ศ.2548 ได้มีการจัดสร้างศาลเจ้าใหม่ขึ้น เนื่องจากศาลเก่าเกิดการชำรุดเสียหาย จึงได้มีการบูรณะจัดสร้างศาลใหม่ขึ้นและให้มีการอัญเชิญรูปหล่อเจ้าแม่กวนอิมพันมือมาประดิษฐานภายในศาลเจ้า และการออกแบบก่อสร้างนั้น ทางคณะผู้จัดสร้างได้ออกแบบให้ศาลดังกล่าวมีพื้นศาลเปรียบได้กับสวรรค์9 ชั้น หากผู้ใดได้ก้าวเข้ามาสักการะภายในศาลถือว่าได้มาถึงสวรรค์ชั้นที่ 9

ความคิดเห็นที่ 5
5. ศาลเจ้าแม่จุ๋ยบ๋วยเนี้ย
ศาลเจ้าแม่จุ๋ยบ๋วยเนี้ย หรือศาลเจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่ต.ท่าฉลอม ไม่ปรากฏว่าก่อสร้างตั้งแต่เมื่อใด แต่มีผู้ศรัทธาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้เป็นจำนวนมาก และหนึ่งพิธีกรรมของศาลเจ้าแห่งนี้คือพิธีลุยไฟ ซึ่งไม่ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จะทำเฉพาะร่างทรงทำนายทายทักว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น และผู้ที่ให้ความเคารพสักการะศาลเจ้าแห่งนี้โดยส่วนใหญ่จะเป็นชาวประมงและชาวไทยเชื้อสายจีน
ความคิดเห็นที่ 6
6. โรงเจเชียงเฮียงตั้ว
ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาคือ ชาวจีนที่อพยพมาอยู่ที่ท่าฉลอมมีค่อนข้างมากเพราะเป็นเมืองที่อยู่ติดแม่น้ำ เป็นเมืองแรกๆ ที่สามารถขึ้นฝั่งเพื่อเข้าสู่ประเทศสยามเมื่อมีชาวจีนมาตั้งรกรากกันมากขึ้นก็เกิดการรวมตัวกันเพื่อสร้างศาลเจ้า คงเหมือนกับคนไทยที่สร้างวัดเพื่อเป็นศูนย์รวมเป็นที่พบปะสังสรรค์ สำหรับศาลเจ้าโรงเจก็กลายเป็นที่ถือศีลของชาวจีนไปด้วย ส่วนการก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อพ.ศ.ใดไม่ปรากฏหลักฐาน ทราบเพียงว่าแต่ก่อนก็เป็นแค่เพิงหลังคาจากเล็กๆเท่านั้น แต่เมื่อชาวบ้านเริ่มมีธุรกิจมั่นคงขึ้น เขาก็นำเงินมาบริจาคเพื่อปรับปรุงศาลให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นศาลเจ้าโรงเจอย่างที่เห็นในปัจจุบัน


7. ศาลเจ้ากวนอู
มีการก่อสร้างมานานนับร้อยปีแล้ว ในอดีตศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อให้ชาวจีนในต.ท่าฉลอมที่มีความเคารพสักการะเทพเจ้ากวนอูที่มีความซื่อสัตย์ได้บูชากัน โดยจัดสร้างเป็นศาลไม้หลังเล็กๆ มุงหลังด้วยจากและภายหลังได้บูรณะใหม่ใช้กระเบื้องในการมุงหลังคา จากนั้นได้มีซ่อมแซมครั้งใหญ่โดยการสร้างแบบก่ออิฐถือปูนเพื่อความแข็งแรงทนทาน โดยปกติผู้คนจะเข้ามากราบไหว้อยู่เป็นประจำไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะเป็นช่วงใด

8. ศาลเจ้าปุนเถ้ากง (ท่าฉลอม)
ศาลแห่งนี้จัดสร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ.2382 เดิมทีเป็นศาลไม้ ฝ้าไม้กระดาน หลังคามุงจาก จากนั้นเมื่อปี พ.ศ.2456 ได้มีการบูรณะศาลใหม่ โดยใช้เสาไม้ ขื่อแปเป็นไม้ระแนง ไม้สักทอง มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ผนังก่ออิฐถือปูน โดยวัตถุประสงค์หลักในการก่อสร้างนั้นเพื่อเป็นที่สักการะแก่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนที่พำนักอาศัยอยู่ในต.ท่าฉลอม


9.  พระโพธิสัตว์กวนอิม ท่าฉลอม
รูปหล่อพระโพธิสัตว์กวนอิมปางเมตตา หล่อจากทองเหลืองปิดด้วยทองคำเปลวขนาดใหญ่ เป็นงานที่สวยงาม ตั้งอยู่ด้านหลังวัดสุทธิวาตวราราม สร้างในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครองราชย์ครบ 50 ปี ใน พ.ศ.2539 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ องค์เจ้าแม่กวนอิมสูง 9.98 เมตร หล่อด้วยโลหะแล้วทาสีสวยงามมาก พระหัตถ์ขวาเทน้ำจากคนโทเป็นน้ำมนต์ ประทับบนฐานดอกบัวมีมังกรโอบโดยรอบอยู่บนภูเขาจำลองสูง 8 เมตร มีถ้ำอยู่ภายในมีรูปเคารพมากมาย






          นอกจากการไหว้เจ้า 9 ศาลในเทศกาลกินเจสมุทรสาครแล้วยังมีอาหารเจปรุงสำเร็จสุดแสนอร่อยและหลากหลายชนิด จากชมรมผู้ประกอบการอาหารเจ 50 ร้าน เริ่มจำหน่ายอาหารเวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ ริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

มีบริการรถรับ-ส่ง ไปไหว้ศาลเจ้าทุกแห่งในท่าฉลอมฟรีตลอดช่วงเทศกาลกินเจ รถจะเริ่มจากอุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิม ฝั่งตรงข้ามวัดช่องลม และวนกลับมาที่เดิมตลอดวัน โดยไม่เสียค่าบริการด้วยครับ

No comments: