11/30/2013

3 หมู่บ้านหรูที่ เชียงใหม่

"แสนสิริ" เปิดตัวบ้านเดี่ยวสุดหรูโครงการแรกที่เชียงใหม่ Click here


เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม  นายสุริยะ วรรณบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการและการตลาด บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) แถลงเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการแรกในจังหวัดเชียงใหม่ "เศรษฐสิริ สันทราย" ด้วยบ้านโมเดิร์นล้านนา 4 สไตล์ จำนวน 160 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,400 ล้านบาท ด้วยเนื้อที่ 53 ไร่ บนทำเลทองริมถนนเชียงใหม่-พร้าว ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 

"แสนสิริ ประสบความสำเร็จอย่างมากในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งโครงการ ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท โครงการดีเวียง สันติธรรม ซึ่งปัจจุบันปิดการขายแล้ว 100% ในขณะที่โครงการดีคอนโด ซายน์ มียอดขายแล้ว 75% รวมทั้งโครงการบี อเวนิว ที่มีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการต่อเนื่องและพร้อมโอนภายในสิ้นปีนี้"

นายสุริยะ กล่าวว่า แสนสิริ ดำเนินโครงการบ้านเดี่ยวโครงการแรกขึ้นด้วยความตั้งใจ นับจากซุ้มประตูทางเข้าที่จำลองกำแพงเมืองเชียงใหม่ในอดีต โดดเด่นด้วยหอระฆังใหญ่สีทอง ตัวบ้านทั้ง 4 แบบสง่างามด้วยกลิ่นอายของคุ้มเจ้าเมืองเหนือ ระเบียงบ้านเปิดโล่งเพื่อชมทัศนีบยภาพที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาและลำน้ำคาวไหลผ่าน ท่ามกลางสวนสวยของคลับเฮ้าส์และหลองข้าวแบบล้านนา การคมนาคมสะดวกสบายด้วยใช้เวลาเพียง 10 นาที ก็เข้าถึงใจกลางเมืองเชียงใหม่

"เชียงใหม่มีความพร้อมสูงมากทั้งในแง่ศูนย์กลางการลงทุนขนาดใหญ่ การขนส่งและการบริการ การท่องเที่ยวและการศึกษา ประกอบกับความเป็นไปได้ในการลงทุนรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โครงการสนามบินที่ 2 รองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ AEC เราจึงทุ่มทุนสร้างบ้านคุณภาพขึ้นรองรับการเติบโต โครงการเศรษฐสิริ สันทราย จึงเกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจในอารยธรรมล้านนา ที่นำมาปรุงแต่งใหม่ให้เข้ากับคำว่าประกายแห่งล้านนา หรือ Uniquely Lanna"

นายสุริยะ กล่าวว่า โครงการเศรษฐสิริ สันทราย เป็นความภาคภูมิใจของแสนสิริ ในฐานะแบรนด์หรูสูงสุด และรับรองว่าพื้นที่โครงการน้ำไม่ท่วมแน่นอน เพราะเราเตรียมการรองรับไว้ทั้งหมด โดยกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของเราคือคนเชียงใหม่ คนกรุงเทพฯ ที่ต้องการมีบ้านพักตากอากาศ

ทั้งนี้โครงการบ้านเดี่ยว "เศรษฐสิริ สันทราย" พร้อมเปิดให้เข้าชมบ้านตัวอย่างโมเดิร์นล้านนา 4 สไตล์ ด้วยเนื้อที่ใช้สอยตั้งแต่ 160-283 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 5.59-15 ล้านบาท ได้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2556 และเปิดตัวการขาย (Pre-Sale) พร้อมรับส่วนลดทันที 500,000 บาท ในวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2556 ณ สำนักงานขายโครงการ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1685 และ www.sansiri.comตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป   
***********************************************************************


หมู่บ้านปรานต์ Exclusive Residence  http://www.pranluxuryhome.com/chiangmai-luxury-house-project.php
เมื่อแนวคิดของจิตวิญญาณแห่งตะวันออก ผสมผสานเข้ากับวิถีชีวิต จึงปรากฎเป็นรูปลักษณ์สถาปัตยกรรมแห่งความภูมิฐาน และสง่างามอย่างไม่ซ้ำแบบใคร บนที่สุดแห่งทำเลที่บ่งบอกรสนิยมเหนือระดับ สู่ความเป็น Premium Location 
และนี่คือความภูมิใจที่ ปรานต์ หมู่บ้านคุณภาพของเชียงใหม่มอบให้คุณ

คฤหาสน์หรูในหมู่บ้านจัดสรรจังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศรายล้อมด้วยทิวเขา เพลินตากับภูมิทัศน์สวยกับแมกไม้นานาพันธุ์
แสนสบายในคลับเฮ้าส์สไตล์รีสอร์ท พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง สระว่ายน้ำ จากุชชี่ ฟิสเนสและซาวน่า
ก่อสร้างและดูแลระบบไฟฟ้าใต้ดินตลอดทั้งโครงการโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อทัศนีย์ภาพเปิดโล่งไร้สายไฟรบกวนสายตาตลอด 360 องศา
อุ่นใจในระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง รปภ.และกล้องวงจรปิดทั่วทั้งโครงการ
- อนันตยา "ปรัชาแฟ่งความหรูหรา สง่างาม"
ความภาคภูมิของสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ผสานศิลป์กลินอายแห่งโลกตะวันออก ที่งดงามลงตัวอย่างไม่ซ้ำแบบใคร จากภายนอกจรดภายใน
บนพื้นที่ 350 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 790 ตารางเมตร 4ห้องนอน,7ห้องน้ำ พร้อมที่จอดรถ 3คัน แวดล้อมด้วยกำแพงธรรมชาติจากต้นไม้นานานพันธุ์
- พิมาลัย "สุนทรียภาพแห่งการพักอาศัย"
รื่นรมย์กับบ้านหรูหราทรงสวยที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด บนพื้นที่ 168 ตารางวา 4 ห้องนอน,5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน 
ทุกพื้นที่ของบ้านออกแบบเพื่อตอบรับทุกการใช้สอย อย่างอิสระ เพื่อให่ทุกช่วงเวลาที่นี่คือโมงยามแห่งความสุขอย่างแท้จริง
*******************************************************************************




  พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม.
  4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ
  ส่วนรับแขกและทานอาหารชั้นล่าง
  ส่วนพักผ่อนชั้นบน
  ส่วนเตรียมอาหารและครัวไทย
  1 ห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ
บ้านที่จะเติมเต็มความสุขของคนทุกวัยในครอบครัวคุณ
แบบบ้าน Wincenzo นั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของครอบครัว ที่มีสมาชิกหลายช่วงอายุ ตั้งอยู่บนพื้นที่ดินที่กว้างขวางเริ่มต้นตั้งแต่ 90 ตารางวาขึ้นไป
พื้นที่ชั้นล่างนั้นมีการออกแบบให้มีห้องนอนในกรณีที่สมาชิกครอบครัวของท่าน
เป็นผู้สูงอายุซึ่งไม่สะดวกในการเดินขึ้นลงบันไดด้วยความใส่ใจต่อผู้อยู่อาศัยกลุ่ม
นี้ทีมงานของ WiZE ยังได้ออกแบบห้องน้ำ ชั้นล่างเพื่ออำนวยความสะดวกโดยการใช้สุขภัณฑ์ที่มีการออกแบบพิเศษ เพื่อผู้สูงอายุซึ่งจะทำให้การลุกหรือนั่งของ
คนที่คุณรักมีความสะดวกสบาย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในระหว่างการใช้ห้องน้ำ
นอกเหนือไปกว่านั้นห้องนอนชั้นบนทุกห้องยังถูกออกแบบให้มีห้องน้ำในตัว
ทุกห้องเพื่อความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้นของสมาชิกทุกคน ในครอบครัวคุณ 


****************************************************************

11/26/2013

วัดร่องขุ่น และ ไร่บุญรอด

ไฮไชต์ของทริป วันนี้ วัดร่องขุ่น และ ไร่บุญรอด ตั้งใจมาช่วงเวลานี้เพราะแสงยามเย็นของที่นี่สวยมาก  ไร่บุญรอดตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับวัดร่องขุ่น จากถนนสายหลักของเชียงรายเลี้ยวผ่านวัดแล้วขับตรงมาประมาณ 7 กิโลเมตร มีป้ายบอกตลอดทาง จะเห็นสัญลักษญ์รูปปั้นสิงห์สีทองตัวใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า โดยปกติตรงรูปปั้นสิงห์จะมีต้นข้าวบาร์เลย์พริ้วปลิวสไวอยู่ปกคุลมอยู่โดยรอบแต่วันที่ฉันไปเก็บเกี่ยวหมดแล้ว และในปัจจุบันนี้ทราบมาว่าไม่ได้ปลูกแล้ว ท่องเทียวไร่บุญรอด ทางไร่ มีรถนำเที่ยวแบบฟาร์มทัวร์  อัตราค่าบริการคนละ 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบฟรี ใช้เวลาชมประมาณ 45- 50 นาที รอบเช้าเที่ยวแรกประมาณ  09.30 น.  รอบบ่าย 12.30 น. รอบสุดท้าย 17.00 น. แต่ทั้งนี้เวลาการออกรถสามรถยืดหยุ่นได้ หากมีนักท่องเที่ยวเต็มในแต่ละรอบ
ข้อมูลไร่บุญรอด http://paiduaykan.com/province/north/chiangrai/boonrawdfarm.html


ภายในไร่กว้างขวางมีทัศนียภาพที่สวยงามมีพื้นที่เกษตรกรรมและไร่ชากว่า 600 ไร่

เที่ยววัดร่องขุ่น เชียงราย ชมความงามสุดตระการตา

เที่ยววัดร่องขุ่น เชียงราย ชมความงามสุดตระการตา

วัดร่องขุ่น
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ต้องไปเมื่อไปเยือนเมื่อไปถึงจังหวัดเชียงราย สำหรับ "วัดร่องขุ่น" วัดที่ออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรเรืองนาม ที่อุทิศตนสร้างวัดอันยิ่งใหญ่นี้ขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา มีความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ทางศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่แสนวิจิตรอลังการ 

          แต่เอ...เพราะอะไรใคร ๆ ก็อยากไปสัมผัสวัดร่องขุ่นด้วยตาสักครั้ง และทำไม อาจารย์เฉลิมชัย ถึงคิดจะสร้างวัดนี้ขึ้นมา? วันนี้กระปุกท่องเที่ยวจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยววัดร่องขุ่น พร้อมกับบอกเล่าความเป็นมาให้รู้กัน ^^

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

          วัดร่องขุ่น ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย เป็นผลงานการออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรไทยที่มีผลงานจิตรกรรมไทยหลากหลาย จนได้รับการยกย่องขึ้นเป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ในปี พ.ศ. 2554 ผู้ซึ่งอุทิศตนสร้างวัดวัดร่องขุ่นอันยิ่งใหญ่นี้ขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์ให้วัดแห่งนี้งดงามดังสวรรค์ที่มีอยู่จริง อีกทั้งมนุษย์สามารถสัมผัสได้บนพื้นพิภพ คล้ายเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนให้คนเราใฝ่ปฏิบัติธรรม และประกอบแต่กรรมดีในการดำเนินชีวิต 

วัดร่องขุ่น

 ความเป็นมาของวัดร่องขุ่น


          เมื่อครั้งกลับมาเยือนบ้านเกิด คือ หมู่บ้านร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย อาจารย์เฉลิมชัย ได้เห็นว่า "วัดร่องขุ่น" ที่คนรุ่นพ่อร่วมกันสร้างนั้น มีสภาพทรุดโทรมเป็นที่สุด อาจารย์เฉลิมชัย จึงเกิดแรงดลใจว่าอยากสร้างวัดร่องขุ่นด้วยศิลปะสมัยใหม่ เหมาะกับประเทศไทย ภายใต้ร่มโพธิสมภารของในหลวง รัชกาลที่ 9 รวมถึงอยากจะสร้างงานศิลปะให้ยิ่งใหญ่ฝากไว้ให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน ณ บ้านเกิด อาจารย์จึงลงมือก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 โดยอุทิศทั้งชีวิตให้กับการสร้างงานชิ้นสุดท้ายของชีวิตชิ้นนี้ ด้วยเงินที่เก็บสะสมมาจากการจำหน่ายผลงานศิลปะในเวลากว่า 20 ปี

วัดร่องขุ่น

          นอกจากนี้ อาจารย์เฉลิมชัย ยังเผยความในใจถึงวัดร่องขุ่นด้วยว่า ผมหวังที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผมให้ปรากฏเป็นงาน ศิลปะที่ยิ่งใหญ่ชิ้นหนึ่งของโลกมนุษย์นี้ให้ได้ เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของประเทศชาติของผมไปสู่มวลมนุษยชาติทั้งโลก หากเมื่อผมตาย คณะลูกศิษย์ที่ผมสอนไว้จะสานต่อจินตนาการของผมจนแล้วเสร็จทั้งหมด ผมได้เตรียมการบริหารจัดการหลังความตายไว้พร้อมแล้ว ผมสร้างงานพุทธศิลป์ด้วยความศรัทธาจริตไม่ได้มุ่งหวังสิ่งใด ๆ ตอบแทน ไม่ต้องการและไม่ชอบการทำบุญเอาหน้า วัดนี้ไม่เคยเรี่ยไรเงินด้วยกฐินผ้าป่า วัดนี้ไม่รีบร้อนสร้างเพื่อฉลองในโอกาสใด ๆ ทั้งสิ้น ผมคิดเพียงอย่างเดียว ต้องดีที่สุดสวยที่สุด สร้างจนหมดภูมิปัญญาทางโลกและทางธรรมของผม...ความตายเป็นสิ่งเดียวเท่านั้น ที่จะหยุดเสรีภาพแห่งจินตนาการของผมได้ 

วัดร่องขุ่น

 ภายในวัดร่องขุ่น

          สิ่งที่โดดเด่นเมื่อมาเยือนวัดร่องขุ่น ก็คือ พระอุโบสถ ที่มีความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ทางศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่แสนวิจิตรอลังการ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงช่อฟ้า ใบระกา และรายละเอียดซึ่งแตกต่างไปจากวัดแห่งอื่น โดยตัวพระอุโบสถที่เน้นสีขาวบริสุทธิ์นั้น สื่อแทนพระบริสุทธิคุณ ขณะที่กระจกขาววาววับจับประกายระยิบระยับ หมายถึงพระปัญญาธิคุณของพระพุทธองค์ที่โชติจรัสชัชวาลไปทั่วทั้งโลกมนุษย์และจักรวาล 

          ด้าน สะพาน หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ก่อนขึ้นสะพานครึ่งวงกลมเล็ก หมายถึง โลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู หมายถึง กิเลสในใจแทนขุมนรกคือทุกข์ ผู้ใดจะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพระพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองทิ้งลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตเราให้ผ่องใสถึงจะเดินผ่านขึ้นไป ส่วนบนของหลังคาโบสถ์ได้นำหลักธรรมอันสำคัญยิ่งของการปฏิบัติจิต 3 ข้อ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นำไปสู่ความว่าง (ความหลุดพ้น)

วัดร่องขุ่น

          ขณะที่ ช่อฟ้าเอก หมายถึง ศีล ประกอบด้วยสัตว์ 4 ชนิด ผสมกันแทน ดิน น้ำ ลม ไฟ โดย ช้าง หมายถึง ดิน, นาค หมายถึง น้ำ, ปีกหงส์ หมายถึง ลม และหน้าอก หมายถึง ไฟ ขึ้นไปปกปักรักษาพระศาสนา บนหลังช่อฟ้าเอกแทนด้วยพระธาตุ หมายถึง ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 ข้อ และ 84,4000 พระธรรมขันธ์

          ช่อฟ้าชั้นที่ 2 (บน) หมายถึง สมาธิ แทนด้วยสัตว์ 2 ชิด คือ พญานาคกับหงส์ เขี้ยวพญานาค หมายถึง ความชั่วในตัวมนุษย์ หงส์ หมายถึง ความดีงาม ศีลเป็นตัวฆ่าความชั่ว (กิเลส) เมื่อใจเราชนะกิเลสได้ก็เกิดสมาธิ มีสติกำหนดรู้เกิดปัญญา และช่อฟ้าชั้นที่ 3 (สูงสุด) หมายถึง ปัญญา แทนด้วยหงส์ปากครุฑ หมอบราบนิ่งสงบไม่ปรารถนาใด ๆ มุ่งสู่การดับสิ้นซึ่งอาสวะกิเลสภายใน ด้านหลังหางช่อฟ้าชั้นที่ 3 มีลวดลาย 7 ชิ้น หมายถึง โพชฌงค์ 7 ลาย 8 ชิ้นรองรับฉัตร หมายถึง มรรค 8 ฉัตร หมายถึง พระนิพพาน รวมถึงลวดลายบนเชิงชายด้านข้างของหลังคาชั้นบนสุดแทนด้วยสังโยชน์ 10 เสา 4 มุม ด้านข้างโบสถ์ คือ ตุง (ธง) กระด้าง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าตามคติล้านนา

          นอกจากนี้ ยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่แสนอลังการฝีมือของ อาจารย์เฉลิมชัย ซึ่งไม่น่าพลาดชมอยู่ภายในโบสถ์อีกด้วย โดยภายในพระอุโบสถ ประกอบด้วย ภาพเขียนสีทองตามผนังทั้ง 4 ด้าน เพดานและพื้นเป็นภาพเขียนที่แสดงถึงการหลุดพ้นจากกิเลสมาร มุ่งเข้าสู่โลกุตรธรรม ส่วนหลังคาพระอุโบสถได้นำหลักการของการปฏิบัติจิต 3 ข้อ คือ ศีล สมาธิ และปัญญา มาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน 

วัดร่องขุ่น

          โดยวัดกำลังสร้างต่อเติมไปเรื่อย ๆ ให้ครบทั้ง 9 หลังตามเป้าหมาย ให้เป็นอาคารที่มีรูปทรงแตกต่างกัน เพื่อเป็นเมืองสวรรค์อันยิ่งใหญ่ให้คนทั้งโลกยอมรับและชื่นชมในผลงานการสร้างพุทธศิลป์แห่งนี้ ถึงแม้ว่าการก่อสร้างวัดนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ความงามที่ปรากฏได้สร้างความสุขทางใจให้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวในพุทธศาสนา กับรายละเอียดตกแต่งที่พิถีพิถันทั่วทุกมุม ซึ่งไม่เพียงแต่ความวิจิตรที่สัมผัสได้เพียงภายนอกเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงหลักธรรมในศาสนาที่ลึกซึ้งให้ผู้ที่มาเยือนได้กลับไปขบคิดกันอีกด้วย

          วัดร่องขุ่น เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30 – 18.00 น. ห้องแสดงภาพเปิดให้เข้าชมวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.30 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ เวลา 08.00-18.00 น. ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดร่องขุ่น โทรศัพท์ 0 5367 3579, ททท. สำนักงานเชียงราย โทรศัพท์ 0 5371 7433 และศูนย์บริหารจัดการการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงราย โทรศัพท์ 0 5371 5690

วัดร่องขุ่น

ไร่ชาบุญรอด โค้งวนตามไหล่เขาสวยงามาที่ปลูกเป้นชาอู่หลง ก้านอ่อน พันธุ์ดี


มาถึงจุดแรกที่รถรางจอดให้เราได้ชมและถ่ายภาพ สวนดอกไม้เมืองหนาว


มีดอกไม้เมืองหนาวสีสันสวยสะดุดตา รวมถึงไม้ประดับเมืองหนาวหลากชนิด


ตรงข้ามกับแปลงปลูกไม้ดอกเมืองหนาว คือ แปลงมะเขือเทศ ได้ชิมมะเขือเทศของไร่บุญรอด  ลูกกลมโตพอประมาณรสชาติหวาน กรอบ อร่อย กินสดแบบไม่ต้องจิ้มอะไรเลย ยังติดใจรสชาติจนทุกวันนี้ ใครที่ชอบทานมะเขือเทศต้องลองทานดู ส่วนใครที่ไม่ค่อยชอบหากได้ลองชิมอาจติดใจได้


รถรางมาหยุดที่จุดสุดท้ายบริเวณร้านอาหารภูภิรมย์ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ภายในไร่ หากใครจะนั่งกินลมชมวิว รับประทานอาหารต่อก็นำรถส่วนตัวเข้าจอดที่นี่ได้ เพราะรถรางจะไม่ได้รอรับ ถ้ามาช่วงเดือนก.พ.-มี ค จะเห็นดอกเหลืองเชียงรายบานสะพรั่งอยู่หน้าร้านอาหารระหว่างสองทางถนน


ฉันรู้ว่าดอกไม้ชนิดเป็นดอกไม้ที่ดูสวยงามแบบไทยๆ ดี


ยิ่งบานอยู่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ในหุบเขาที่สวยแบบไร่บุญรอดแล้วยิ่งดูน่ามองยิ่งขึ้น


ไร่บุญรอด สำหรับฉัน เป็นไร่ที่ดูเป็นธรรมชาติ วิวและดอกไม้สวยเหมาะสำหรับมาพักผ่อน


ชื่นชมกับเจ้าดอกเหลืองเชียงรายแล้ว ก็ถึงเวลารับประทานอาหารเย็น ที่ร้านอาหารภูภิรมย์ ถือเป็นร้านอาหารที่บรรยากาศดีมากโดยเฉพาะในยามเย็น


มีมุมให้เลือกหลายมุม แต่ที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คงไม่พ้นวิวด้านในซึ่งมีระเบียง สามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มที่


เมนูมีหลากหลาย รสชาติ เริ่มจากออเดิฟเมือง  ขาหมูทอดเยอรมัน  ยำทูน่าใบชา


กุ้งซอสมะขาม  ส่วนอีกสองเมนูจำชื่อไม่ได้ แต่คอนเฟริมว่า อาหารที่สั่งมาอร่อยทุกเมนูสมราคา


นั่งรถผ่านออกมาด้านหน้าฟาร์มผ่านถนนที่เต็มไปด้วยต้นเหลืองเชียงรายที่กำลังบานสะพรั่ง หนาวนี้หากใครมาเที่ยวเชียงราย ไร่บุญรอด คือ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด