1/12/2012

ไหว้พระวัดมงคลนาม ๙ วัด ในจังหวัดเชียงราย



ความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการธรรมทัศนาจร
ไหว้พระวัดมงคลนาม ๙ วัด ในจังหวัดเชียงราย 

จาด Chiangrai.net

      สภาพสังคมไทยในปัจจุบัน ความเจริญทางด้านวัตถุได้เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ความเจริญทางด้านจิตใจของเด็กเยาวชนและประชาชนเลื่อมเสื่อมถอยลง เพราะมีพฤติกรรมที่เบี่ยงแบนผิดศีลกับความเจริญทางด้านวัตถุมากขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้สภาพสังคมมีความทวีความรุนแรงเต็มไปด้วยปัญหาสังคมในด้านต่างๆ มากมาย เด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มพลังที่สามารถรับรู้และซึมซับเอาปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมต่างๆ เหล่านี้ได้ง่าย ประกอบกับสถาบันครอบครัวมีความใกล้ชิดผูกผันและเอื้ออาทรกันน้อยมากเป็นผลทำให้สถาบันครอบครัวขาดความอบอุ่น ขาดคุณธรรม จริยธรรม และขาดการพัฒนาทางด้านจิตใจ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายจึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นวัตถุประสงค์ของโครงการ
๑.เพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูกิจกรรมที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาทางพระพุทธศาสนาให้เด็กเยาวชนและประชาชนได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบ และมีจิตสำนึกที่ดี โดยมีศาสนาเป็นหลักในการดำรงชีวิต
๒.เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้สถาบันครอบครัวมีความเข้มแข็ง มีความใกล้ชิดผูกผัน และเอื้ออาทรต่อกันมากยิ่งขึ้น
๓.เพื่อสนับสนุน และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม
 วัดกลางเวียงที่ตั้ง ตั้งอยู่ถนนอุตรกิจ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ประวัติ วัดกลางเวียง คือวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเวียงเชียงราย ในสมัยที่เรียกกันว่ายุคสถาปนาตั้งแต่ พ.ศ.๒๓๘๖ เป็นต้นมาที่นับเนื่องเช่นนี้มาจากการที่เมืองเชียงรายเคยสร้างมาก่อนเป็นเวลานานกว่าสองร้อยปี และถูกทับถมทำลายโดยธรรมชาติระหว่างที่รกร้างและได้รับการบูรณะใน พ.ศ.๒๓๘๖ เป็นต้นมา เมื่อสร้างกำแพงเมืองเชียงราย พ.ศ.๒๔๐๐ และแล้วเสร็จบริบูรณ์ พ.ศ.๒๔๑๗
การเฉลิมฉลองเมืองเชียงราย พ.ศ.๒๔๑๘ ได้มีการเปลี่ยนจากวัดเดิม คือ จันทน์โลก
หรือจั๋นต๊ะโลก มาเป็นวัดจันทน์โลกกลางเวียงซึ่งมีที่มาของชื่อกลางเวียงเพราะยุคนั้นวัดจันทน์โลกกลางเวียง คือศูนย์กลางของเวียงเชียงราย เป็นที่ตั้งของ “สะดือเวียงเชียงราย”
 วัดงำเมืองที่ตั้ง ตั้งอยุ่ถนนอาจอำนวย บ้านฮ่อมดอย (ชุมชนราชเดชดำรง) หมู่ที่๑ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ประวัติ วัดงำเมืองสร้างเมื่อ พ.ศ.๑๘๖๐ วัดงำเมืองเดิมมีแต่สถูป (กู่) บรรจุพระอัฐิของพญามังรายมหาราช สร้างโดยพญาไชยสงครามโอรสพญามังรายมหาราช ในพุทธศตวรรษที่ ๑๙
หลังจากที่พญามังรายได้สวรรคตที่เมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.๑๘๖๐พญาไชยสงครามพระราชโอรสได้ถวายพระเพลิงพระศพพญามังรายมหาราชแล้วพระองค์ทรงไม่โปรดเมืองเชียงใหม่ ได้กลับมาครองเมืองเชียงรายและอัญเชิญพระอัฐิของพญามังรายมาประดิษฐาน ณ ดอยแห่งนี้ ต่อมา พ.ศ. ๒๐๓๐ พระยาศรรัชฎาเงินทอง ได้มาบุรณะและสร้างวัดขึ้นให้ชื่อว่า”วัดงำเมือง” และใน พ.ศ. ๒๒๒๐ ได้มีการบูรณะเพิ่มเติมมีการสร้างวิหารและเสนาสนะในวัด โดยเจ้าฟ้ายอดงำเมืองโอรสเจ้าผู้ครองนครเชียงแสน ต่อมาวัดงำเมืองเริ่มชำรุดทรุดโทรมลงเพราะขาดการทำนุบำรุง
 วัดพระธาตุดอยจอมทองที่ตั้ง วัดพระธาตุดอยดอยจอมทอง ตั้งอยู่บ้านจอมทอง หมู่ ๑ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ประวัติ พระธาตุดอยจอมทอง เป็นมงคลนามแห่ง เมืองเชียงรายเดิมเป็นวัด เก่าแก่สันนิษฐานว่า มีมาก่อนที่พ่อขุนเม็งรายมหาราชจะมาพบพื้นที่ และสร้างเป็นเมืองเชียงราย ในปี พ.ศ.๑๘๐๕
ตามหลักฐานปรากฏในหนังสือพงศาวดารโยนกของพระยาประชากรจักรกล่าวว่า เมื่อพุทธศาสนาล่วงแล้ว ๙๕๖ พรรษา มีพระเถระเจ้ารูปหนึ่งนามพระพุทธโฆษา เป็นชาวโกศล เมื่อสุธรรมวดี(สะเทิม) ในรามัญประเทศ ได้ออกไปสู่เมืองลังกาทวีป นำคัมภีร์พระไตรปิฏกแห่งลังกาทวีปมาสู่รามัญประเทศและพุกามประเทศ และเข้ามาสู่แคว้นโยนกนครไชยบุรีศรีเชียงแสน ในวันจันทร์ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ ปีชวด มหาศักราชได้ ๓๓๕ ( พ.ศ.๑๔๘๓ )นำพระบรมสารีริกธาตุสามขนาดมารวม ๑๖ องค์ ถวายแก่พระเจ้าพังคราช เจ้าเมืองดยนกนาคพันธ์ พระองค์ได้แบ่งเป็นพระธาตุขนาดใหญ่หนึ่ง ขนาดกลางสอง รวมสามองค์ส่งให้พญาเรือนแก้ว เจ้าเมืองไชยนารายณ์(บริเวณอำเภอเวียงชัยในปัจจุบัน)ส่วนหนึ่งบรรจุลงในมหาสถูปบนดอยทอง ขนานนามว่าพระธาตุดอยจอมทอง เพื่อเป็นมงคลนามของเมือง
 วัดพระแก้ว (พระอารามหลวง)ที่ตั้ง ตั้งอยู่ถนนไตรรัตน์ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ประวัติ วัดพระแก้วเป็นพระอารามหลวงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯยกฐานะจากวัดพระอารามหลวงเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๒๑ ก่อนที่จะมีชื่อว่า วัดพระแก้ว เดิมเป็นวัดเก่าแก่สร้างในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐาน บริเวณวัดนี้มีไผ่พันธุ์พื้นเมืองชนิดหนึ่ง คล้ายไผ่สีสุก ไผ่ไม่มีหนาม ซึ่งชาวบ้านนิยมมาทำหน้าไม้และคันธนู ชาวบ้านจึงเรียกว่า วัดป่าเยี้ยะ หรื วัดป่าญะ ต่อมาในปี พ.ศ.๑๙๗๗ ได้มีการค้นพบพระแก้วมรกตในบริเวณวัดนี้ชาวบ้านจึงขนานนามเสียใหม่ว่า “วัดพระแก้ว” ตำนานวัดพระแก้วมรดกตามตำนานโบราณ ได้มีผู้เขียนไว้ภาษ่มคธ ในหนังสือ
รัตนพิมพวงศ์ว่า มีเทวดาสร้างขึ้นเพื่อถวายพระนาคเสนเถระที่เมืองปาฏลีบุตร (ปัจจุบัน รัฐปัตนะ ประเทศอินเดีย) ต่อมาได้มีการอัญเชิญไปประดิษฐานยังที่ต่างๆ ดังนี้ ๑.เกาะลังกา ๒.กัมพูชา ๓.อินทาปัฐ (นครวัด) ๔.กรุงศรีอยุธยา ๕.ละโว้ (ลพบุรี) ๖. วิชิตปราการ (กำแพงเพชร) ๗.เชียงราย (พ.ศ.๑๙๓๔-๑๙๗๙ ประดิษฐาน ๔๕ ปี ) ๘.ลำปาง (พ.ศ.๑๙๗๙-๒๐๑๑ประดิษฐาน ๓๒ ปี ) ๙.เชียงใหม่ (พ.ศ.๒๐๑๑-๒๐๙๖ ประดิษฐาน ๘๕) ๑๐.เวียงจันทร์(พ.ศ. ๒๐๙๖-๒๓๒๑ ประดิษฐาน ๒๒๕ปี) ๑๑.กรุงเทพมหานคร( พ.ศ.๒๓๒๑-ปัจจุบัน)
ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง ได้รับพระราชทานนามว่า “พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร”
 วัดพระสิงห์ (พระอารามหลวง)ที่ตั้ง ตั้งอยู่ถนนทำหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียราย จังหวัดเชียงราย
ด้านข้างติดกับถนนสิงหไคล
ประวัติ เป็นวัดโบราณดั้งเดิม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ามหาพรหมพระอนุชาของพระเจ้ากือนา เจ้าเมืองเชียงใหม่ พระเจ้าพรหมได้มาครองเมืองเชียงราย ระหว่างปี พ.ศ.๑๘๘๘-๑๙๔๒ เคยเป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์มาก่อน พระสิงห์เป็นพระนามพระพุทธรูปที่สำคัญองค์หนึ่งแทบจะกล่าวได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่บ่งบอก ได้ถึงพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทอย่างลังกาวงศ์ ตรงกับพระพุทธสิหิงค์ นิยมเรียกว่า พระสิงค์ ท่านผู้รู้บางท่าน ให้ข้อคิดว่า พระสิงค์ หมายถึง พระสิงหวัติ กษัตริย์โบราณ ผู้สร้างเมืองโยนกนครก็มี บางที่อธิบายว่าหมายถึง พระศากยสิงห์ คือ พระบาทหนึ่งของพระพุทธเจ้า
 วัดมิ่งเมือง

ที่ตั้ง ตั้งอยู่ถนนไตรรัตน์ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ด้านข้างติดถนนบรรพปราการ
ประวัติ วัดมิ่งเมือง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓ เป็นวัด ไทใหญ่ สมัยก่อนมีชุมชนไทยใหญ่อยู่เรียกว่า วัดเงี้ยว หรือ วัดช้างมูบ(ช้างมอบ) การก่อสร้างตามชาวบ้านศรัทธาเล่าว่า ผู้สร้างวัดมิ่งเมือง ชื่อ ตะแม่ศรี มีศักดิ์เป็นมเหสีของพ่อขุนฯ เป็นชาวพม่า เวลานี้มีการบูรณะ
เจดีย์โบราณของวัด พบจารึกบนแผ่นเงินจารึกเป็นภาษาพม่า แปลออกมาเป็นผู้สร้างจากเจดีย์
โบราณในวัด ภาษายังมีปรากฏอยู่เป็นศิลปะผสมระหว่างพม่าและล้านนา ที่สำคัญถ้าหากเป็นจริงอย่างจารึก วัดนี้ก็มีอายุเท่ากับเมืองเชียงราย และมีหลักฐานที่สำคัญหลายชิ้นที่บอกว่า เป็นวัดที่ชาวพม่าสร้างไว้ก่อน วัดมิ่งเมืองอยู่ติดกับประตุไก่ดำ เพี้ยนมาเป็นสี่แยกสะพานดำ หรือคนเมืองเชียงราย เรียกสี่แยกขัวดำ ส่วนหลักฐานอื่นถือว่าเป็น วัตถุโบราณของวัดมีบ่อน้ำโบราณ เรียกว่าบ่อน้ำช้างมูบ เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่มีซุ้มครอบไว้บนหลังช้างหมอบ ชาวบ้านผ่านไปมาก็เรียกว่าช้างมูบ และเรียกชื่อวัดนี้ว่า “วัดจ้างมูบ
 วัดมุงเมือง

ที่ตั้ง ตั้งอยู่ถนนอุตรกิจ หมู่ที่๑ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ประวัติ เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปสองสี หรือพระเจ้าสองสี องค์ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเชียงราย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ เครื่องบินทิ้งระเบิดเมืองเชียงรายบริเวณโดยรอบ ซึ่งเป็นตลาดสดแต่ภายในวัดปลอดภัย วัดมุงเมืองเป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๓๘๒ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๐๙ ได้ประกอบพิธีผูกพันทธสีมาเมื่อ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๐ สิ่งสำคัญภายในวัดมี พระเจดีย์และพระสังกัจจาย์
 วัดศรีเกิดที่ตั้ง ตั้งอยู่บ้านศรีเกิด หมู่ที่๓ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ประวัติ สร้างเมื่อ พ.ศ.๑๙๘๓ เป็นมงคลนามแห่งเมืองทางด้านสิริมงคล เปรียบเป็นสถานที่เกิดของต้นพระมหาโพธิ์ หรือต้นศรี ตามภาษาเมืองได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๙ อาคารเสนาะสนะประกอบด้วย อุโบสถและกุฏิสงฆ์ ปูชนียวัตถุ
มีพระประธาน และเจดีย์ศิลปะล้านนา บานประตูหน้าต่าง คันทวย หน้าบรรณ ของวัดนี้เป็นไม้สักแกะสลักสวยงามมาก
 วัดศรีบุญเรืองที่ตั้ง ตั้งอยู่ถนนสิงหไคล หมุ่ที่๓ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
ประวัติ เป็นวัดเก่าวัดหนึ่ง สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.๑๙๘๒ ต่อมาเป็นวัดร้าง เมื่อคุ้มเจ้าหลวงได้เปลี่ยนสภาพไปเป็นโรงเรียนดำรงราษฏสงเคราะห์ วัดเชียงหมั้นซึ่งอยู่ในคุ้มหลวง จึงย้ายสิ่งของพร้อมทั้งประธาน มาไว้ที่วัดศรีบุญเรือง วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๙ อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์
หอฉัน หอระฆัง ศาลาพักร้อน

No comments: