8/22/2015

สมุนไพร พรมมิ (Brahmi) บำรุงความจำ brain boosters supplement

สมุนไพร พรมมิ (Brahmi) บำรุงความจำ brain boosters supplement

Brahmi Herb brain boosters supplement for improve memory... Patrick - neomart@gmail.com


                                            




องค์การเภสัชกรรมต่อยอดงานวิจัยสารสกัดสมุนไพรพรมมิ พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง บำรุงสมองและความจำ ผ่านการทดสอบประสิทธิผลและความปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่มีความต้องการชะลอความเสื่อมของสมองและผู้ที่ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในโลกสังคมข้อมูลข่าวสาร
   
นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่าองค์การฯได้นำผลงานวิจัย พรมมิ สมุนไพรบำรุงความจำ” ซึ่งมี รศ.ดร. กรกนก อิงคนินันท์ จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นหัวหน้าคณะวิจัย ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้ทำการศึกษาวิจัย สารสกัดสมุนไพรพรมมิที่ผลิตในรูปแบบเม็ด มาอย่างต่อเนื่องจนมีผลการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือได้นำมาต่อยอดพัฒนากระบวนผลิตในระดับอุตสาหกรรมแบบครบวงจรตั้งแต่การปลูกวัตถุดิบ การสกัดเพื่อให้ได้สารสำคัญด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน รวมทั้งการผลิตภายใต้มาตรฐานGMP จนได้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดสมุนไพร พรมมิ บำรุงความจำ ” ในรูปแบบเม็ดช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง บำรุงสมองและความจำ ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในการดำเนินชีวิตในโลกสังคมข้อมูลข่าวสาร
ผู้อำนวยการ กล่าวว่าผลงานวิจัยของรศ.ดร. กรกนกฯ ที่ได้ศึกษาไว้ ได้มีวิจัยและทดสอบอย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ อาทิ มีการทดสอบเภสัชวิทยาและพิษวิทยา การทดสอบทางเภสัชวิทยาต่อการเรียนรู้ และความจำในสัตว์ทดลอง พบว่า พรมมิสามารถป้องกันการสูญเสียความจำได้ และสามารถป้องกันการสูญเสียความจำในหนูที่ถูกชักนำให้เกิดภาวะความจำเสื่อม อีกทั้งผลการศึกษาทางพิษวิทยา(พิษเฉียบพลัน) พบว่าไม่มีหนูตายภายหลัง สัปดาห์ ซึ่งบ่งบอกถึงความปลอดภัยของสารสกัดพรมมิ และผลการศึกษาพิษกึ่งเรื้อรังพบว่าไม่พบความผิดปกติเกิดขึ้นกับสัตว์ทดลอง   การศึกษาทางพยาธิกายวิภาคและจุลพยาธิวิทยาของอวัยวะ สมอง ตับ ไต และหัวใจของหนูทั้งหมดไม่พบความแตกต่างระหว่างกลุ่มทดสอบและกลุ่มควบคุม ส่วนการศึกษาพิษเรื้อรังพบว่าสารสกัดพรมมิไม่ได้ก่อให้เกิดพิษเรื้อรัง
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดพรมมิยังได้มีการศึกษาทางคลินิกในกลุ่มอาสาสมัครสุขภาพดีอายุมากกว่า55 ปี จำนวน 60 คน โดยศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้รับยาหลอก กับกลุ่มที่ได้รับสารสกัดพรมมิ ขนาด300 และ 600 มิลลิกรัมต่อวัน ในระยะเวลา เดือน พบว่า สารสกัดพรมมิมีศักยภาพในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยมีผลเพิ่มสมรรถภาพทางกาย เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว เพิ่มสมรรถภาพด้านจิตใจ ทำให้เพิ่มการตื่นตัวต่อสิ่งเร้า มีสมาธิเพิ่มขึ้น คลายความซึมเศร้าเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และความทรงจำได้ดีขึ้น จากการศึกษาไม่พบความเป็นพิษและภาวะข้างเคียง
ผู้อำนวยการ กล่าวต่อไปว่าสมุนไพร พรมมิ (Brahmi)เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ขึ้นในที่น้ำชุ่ม มีดอกสีขาวหรือม่วงอ่อน มีบันทึกในคัมภีร์อายุรเวท ของอินเดีย เมื่อกว่า 3,000 ปีก่อน มีสรรพคุณ เด่นในด้านการบำรุงสมอง เพิ่มความจำ เพิ่มความสงบ ทำให้อ่อนวัย รวมถึงเป็นยาในตำรับอายุวัฒนะ  ในประเทศไทยมีการรับประทานพรมมิเป็นอาหาร โดยใช้เป็นผักลวกจิ้มน้ำพริกและตำราสมุนไพรแผนโบราณใช้พรมมิ ในรูปแบบวัตถุดิบพรมมิผสมร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น เช่น ยาเขียว
ผู้อำนวยการ กล่าวในตอนท้ายว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดสมุนไพร “ พรมมิบำรุงความจำที่นำผลงานวิจัยมาต่อยอดผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในระดับอุตสาหกรรมนี้เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรอย่างกว้างขวางสมุนไพรพรมมิซึ่งเป็นสมุนไพรที่สามารถปลูกได้ในประเทศไทย ถือเป็นการลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ลดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเป็นส่วนประกอบอีกด้วย
        
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดสมุนไพร “ พรมมิบำรุงความจำ” สามารถศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธขององค์การเภสัชกรรม ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่11 ฮอล์ล 7-8 ระหว่างวันที่ 3-7 กันยายน 2557

ภูมิปัญญาโบราณ ใช้ได้จนถึงในปัจจุบัน-พรมมิ-พลูคาว

--ดวามรู้จากคัมภีร์พระเวทของอินเดีย ในสาขาอายุรเวท พบว่าใช้พืชที่ชื่อ พรมมิ เป็นยารักษาโรคความจำเสื่อม--ซึ่งของไทยก็มี เรียกว่า "ผักมิ"
ใช้แกล้มพวกลาบ น้ำพริก--มีการผลิตออกมาจำหน่ายแล้ว
---ผักพลูคาว ท้องใบมีสีแดง ขึ้นตามที่ชื้นแฉะ ปัจจุบันนำมาทำเป็นยาอายุวัฒนะ
--------------------------------------------------------------------


มหาวิทยาลัยนเรศวรเจ๋ง! วิจัย สมุนไพร “พรมมิ” ช่วยบำรุงความจำ ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เทียบเท่า “แปะก๊วย-โสม” จดอนุสิทธิบัตรแล้ว รอเอกชนสนใจรับไปผลิตเชิงพาณิชย์ ช่วยลดการนำเข้าสมุนไพรต่างระเทศ

วันที่ 19 มีนาคม ที่โรงแรมมิราเคิล ในการอภิปรายเรื่อง เส้นทางพัฒนาสมุนไพรไทยสู่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ รศ.ดร.กรกนก อิงคนินันท์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ได้ทำการศึกษาพัฒนา “พรมมิ” เพื่อใช้เป็นสมุนไพรบำรุงความจำ

โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สนับสนุนงบประมาณในการทำวิจัยเป็นระยะเวลา 3 ปี ประมาณ 14 ล้านบาท ตั้งแต่พัฒนาการปลูก การศึกษาทางเคมี การสกัด การพัฒนาวิธีการสังเคราะห์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรพรมมิ การศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดพรมมิในทางเภสัชวิทยาทั้งในระดับหลอดทดลอง สัตว์ทดลอง การศึกษาพิษวิทยา รวมถึงการทดลองทางคลินิก

ซึ่งผลการศึกษา พบว่า สารสกัดที่ได้จากต้นพรมมิมีสารซาโปนิน (saponins) สามารถชะลอการเสื่อมของเซลล์สมอง มีผลกระตุ้นความจำและการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีฤทธิ์ในการป้องกันการถูกทำลายของเซลล์ประสาท ซึ่งสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย

รศ.ดร.กรกนก กล่าวต่อว่า ล่าสุด คณะผู้วิจัยได้ศึกษาผลของพรมมิในอาสาสมัครที่ร่างกายปกติ อายุ 55 - 70 ปี จำนวน 60 คน โดยศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้ยาหลอกและได้สารสัดพรมมิขนาด 300 และ 600 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า สารสกัดพรมมิช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว เพิ่มการตื่นตัวต่อสิ่งเร้า มีสมาธิมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และความจำ คลายอาการซึมเศร้า ไม่พบอาการพิษและภาวะข้างเคียงใดๆ ในอาสาสมัคร

รศ.ดร.กรกนก กล่าวอีกว่า โดยก่อนหน้านี้ ได้ทำการทดลองกับหนูเป็นเวลา 14 วัน พบว่า หนูมีการเรียนรู้และความจำที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ได้ทดลองในหนูที่เกิดการเหนี่ยวนำให้มีสภาวะความจำบกพร่องและความจำเสื่อมพบว่า เมื่อให้สารสกัดพรมมิติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ก่อนสมองถูกทำให้บกพร่อง พบว่า พรมมิสามารถป้องกันความสูญเสียความทรงจำได้ ส่วนการศึกษาทางพิษวิทยาพบว่าสารสกัดพรมมิมีความปลอดภัยไม่พบมีผลข้างเคียงใดๆ

“ขณะนี้ได้มีการจดอนุสิทธิบัตรแล้ว ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ผลิตยาเม็ดขนาด 300 มิลลิกรัม เป็นยาต้นแบบที่มีคุณสมบัติทางกายภาพที่เหมาะสมและมีความคงตัวดี และทราบว่าขณะนี้มีบริษัทเอกชนหลายรายให้ความสนใจติดต่อมายัง วช. เพื่อให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและพัฒนาสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ ในส่วนการต่อยอดโครงการการวิจัยนั้น วางแผนที่จะขอสนับสนุนงบประมาณในการศึกษาการใช้สารสกัดดังกล่าวในเด็กที่มีปัญหาสมาธิสั้น รวมถึงการศึกษาด้านพิษวิทยาในระยะยาวด้วย” รศ.ดร.กรกนก กล่าว

รศ.ดร.กรกนก กล่าวอีกว่า สำหรับการรับประทานอาหารเสริมพรมมิ ควรรับประทาน 300 มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อรับประทานเพียง 2 เดือน ก็จะเห็นผลได้ชัดเจน ซึ่งนอกจากผู้สูงอายุแล้ว อาหารเสริมดังกล่าวอาจเป็นประโยชน์ในกลุ่มเด็กนักเรียน วัยทำงาน เพื่อเป็นการบำรุงเซลล์สมอง แต่ไม่แนะนำให้เด็กต่ำกว่า 12 ปี หรือสตรีมีครรภ์รับประทาน ที่ถือเป็นกลุ่มที่อ่อนไหว เปราะบางเนื่องจากยังไม่มีการทดลองในเด็ก จึงยังไม่มีผลวิจัยด้านความปลอดภัยชัดเจน

ทั้งนี้ สารซาโปนิน ที่พบในพรมมิเป็นสารชนิดเดียวกับที่พบในโสม หรือ แปะก๊วย (ginkgo) ซึ่งพรมมิเป็นสมุนไพรของอินเดียในศาสตร์อายุรเวช แต่เป็นพืชล้มลุกที่สามารถเพาะปลูกและขยายพันธุ์ได้ง่ายในประเทศไทย ดังนั้น หากมีการนำพรมมิมาใช้ก็จะถือเป็นการลดการนำเข้าสมุนไพรอย่างโสม หรือ แปะก๊วย ที่เป็นสมุนไพรที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
----------------------------------------------------------------

ผักพรมมิบำรุงฟื้นฟูเซลสมอง
-----------พรมมิ ผักพื้นบ้าน ไม้ประดับและสมุนไพรในต้นเดียวกัน พืชที่ในอนาคตอันใกล้คงจะบูมอย่างแน่นอน เนื่องจากสรรพคุณในการบำรุงฟื้นฟูเซลสมอง ซึ่งมีคุณบัติที่สูงและเหนือชั้นกว่า Ginkgo และมะขามป้อม

อีกทั้งสามารถพบได้กลาดเกลื่อน สามารถขยายพันธุ์และเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ผลผลิตสูงจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจยิ่งที่จะได้ทำความรู้จักกับพืชชนิดนี้

พรมมิ หรือ Bacopa monnieri L.Wettst. เป็นผักพื้นบ้านที่พบได้ทั่วไป
ในประเทศไทยโดยมีถิ่นกำเนิดในเนปาลและอินเดีย เป็นพืชสะเทินน้ำสะเทินบก ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ เช่นขอบสระน้ำ ลักษณะลำต้นใหญ่ อวบน้ำ ไม่มีขน เลื้อยทอดไปตามพื้นและชูยอดขึ้น

ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ค่อนข้างยาว โคนใบแคบ ปลายใบกว้างมนกลม ขอบใบเรียบ แตกจากลำต้นแบบตรงกันข้าม ออกเป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบกลีบดอกสีขาวหรือสีครามอ่อน ตอนโคนติดกันเป็นหลอดตอนปลายแยกเป็น 5 กลีบ เกสรตัวผู้มี 4 อัน ติดอยู่กับกลีบดอก

ประโยชน์ :
ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับในตู้ปลาหรือในสวนน้ำ รับประทานเป็นผักพื้นบ้าน

มีสรรพคุณทางการแพทย์อายุรเวท ในด้านการบำรุงความจำ
นักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์
มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับนักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้พัฒนาสารสกัดและการควบคุมคุณภาพสมุนไพรพรมมิ เพื่อใช้ในเชิงอุตสาหกรรม

และศึกษาพบว่าสารสกัดพรมมิ มีผลต่อการเสริมความจำและการเรียนรู้ รวมทั้งมีผลป้องกันเซลล์ประสาท โดยไม่ทำให้เกิดพิษในสัตว์ทดลองเมื่อให้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือนนับเป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อไป

มีรายงานการวิจัยที่ศึกษาถึงผลของพรมมิต่อความจำ และการเรียนรู้
เป็นการศึกษาในสัตว์ทดลอง โดยพบว่าสารสกัดจากพรมมิในขนาด
10 มล./กก. ป้อนให้หนูขาวกินนาน 24 ชม. จะทำให้หนูขาวมี
การเรียนรู้ดีขึ้น เมื่อทดลองในโมเดลของสัตว์ทดลองที่ถูกทำให้เกิด
อัลไซเมอร์

การป้อนสารสกัดมาตรฐานจากพรมมิ (ซึ่งมีประมาณสาร bacoside A 82.0 ? 0.5%) ให้สัตว์ทดลองในขนาด 5 และ 10 มก./กก. นาน 14 วัน จะช่วยลดการสูญเสียความจำได้ และเมื่อทดลองให้สารสกัดจากพรมมิขนาด 40 มก./กก. นาน 7 วัน ในสัตว์ทดลอง ร่วมกับยากันชัก Phenytoin
สามารถลดผลข้างเคียงของยาที่ไปทำให้การรับรู้ของสัตว์ทดลองเสียไปได้

ข้อมูลจาก : สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัย


ในต่างประเทศโดยเฉพาะอินเดีย ญี่ปุ่น พรมมิถูกพัฒนาเป็นยาและ
อาหารเสริมในหลากหลายรูปแบบ ทั้งสารสกัดออกฤทธิ์ ยาสระผม
น้ำมันนวด ชา แต่ในบ้านเรานั้นยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ส่วนมาก
รู้จักกันในน้ำไม้ประดับตู้ปลา และทานเป็นผักพื้นบ้านกัน โดยเฉพาะ
ทางอีสาน ซึ่งเรียกกันว่า ผักมิ

ผักมิต้นจะไม่มีขนใบจะหนาอวบน้ำ และขอบใบมนไม่แหลมเหมือนต้นลานไพลิน แต่เป็นพืชกลุ่มเดียวกัน

ที่ร้านขายไม้น้ำสังเกตุลักษณะไปให้ครบแต่ว่าถ้าต้นมันไม่พ้นน้ำ ใบมันจะออกบางหน่อย แต่พอพ้นน้ำแล้วใบมันจะหนามากขึ้น สังเกตุว่าต้นจะไม่มีขน ถ้ามีขนจะเป็นลานไพลิิน

ถ้าอยู่ต่างจังหวัด ก็หาตามท้องร่องเอาไปหาตามตลาดที่ขายผักพื้นบ้าน แล้วเอามาชำก็ได้

มีอีกตัวที่กำลังวิจัยกันอยู่ นั่นก็คือพริกไทยดำ แต่สารสำคัญออกฤทธิ์คนละอย่าง จะประมาณมีผลต่ออารมณ์ ทำให้สดชื่นแจ่มใส และปรับสมดุลเคมี
ในสมอง 

No comments: