7/22/2015

เข็มทิศชีวิต ฐิตินาถ ณ พัทลุง- ใช้เวลาคิดปัญหาให้น้อย ใช้ความคิดทางแก้ ให้เยอะ

คนมักจะคิดว่าการเปลี่ยนความรู้สึกทุกข์ให้เป็นสุข ทำไม่ได้
แต่ความรู้สึกสุขและทุกข์นั้น ปรากฏขึ้นอยู่ในสองอย่าง
คือร่างกายและจิตใจเราเท่านั้น
เรารับรู้โลกผ่านทางตา หูจมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นภาพ เสียง กลิ่น รส สัมผัส ความรู้สึกนึกคิด ที่เราคิดภาพ แสง สี เสียง กลิ่น รส รู้สึกขึ้นมาในใจ
เราอาจไม่สามารถสั่งให้หัวใจเต้นแรงโดยตรงได้ 
แต่เราสามารถ คิดภาพบางอย่าง พูดกับตัวเองบางอย่างที่ทำให้หัวใจเราเต้นแรงได้
ความรู้สึกเป็นทุกข์ก็เช่นเดียวกัน ถ้าเราพิจารณาลงไปตรงๆ
ว่าตรงไหนล่ะที่เรียกว่าความทุกข์
ความรู้สึก เหี่ยวๆ ถ่วงๆที่ใจ
หรือความรู้สึกหน่วงๆบิดๆบริเวณ แผงประสาทบริเวณท้อง
โลกที่ดูมัวๆหรือมืดนิดนึง
ถ้าการรับรู้ความทุกข์เกิดที่ความรับรู้ความรู้สึกของเรา และเกิดจากสิ่งที่เราคิดถึงในขณะนั้น เราก็ย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงเหตุคือสิ่งที่เราคิด และผล คือความรู้สึกของเราได้เช่นกัน
เพราะที่สุด แล้ว พระพุทธเจ้าสอนให้เราเห็น แต่ไม่ได้บอกให้เราเป็นทุกข์
เมื่อเราปฏิบัติต่อความทุกข์อย่างถูกต้องเราจะเป็นสุข
ความทุกข์มาเป็นการเตือนว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
อย่างน้อยที่สุดคือความคิดของเรา
ความคิดที่อยากให้สิ่งต่างๆเป็นอย่างใจ ทันที
ความรู้สึกทุกข์ไม่สบายใจมาเพื่อเตือนให้เราปล่อยและเปลี่ยนความคิด
เราทุกข์เพราะเรากำลังหยิบฉวยความคิดที่ผิด
ความคิดผิดไม่ช่วยแก้ปัญหาแต่สร้างปัญหา
การคิดสิ่งดีงาม เป็นประโยชน์ให้ทางออกกับชีวิต
ควรโฟกัสที่ทางแก้มากกว่าคิดปัญหา
คิดสิ่งที่เราได้เรียนรู้เติบโตจากสิ่งที่เราเจอ
ทำให้เราเกิดความสุข มีสารเคมีตัวดีดีหลั่ง
แล้วลงมือทำสิ่งที่ควรทำในชีวิต ด้วยใจที่เบิกบาน
ไม่ยอมจำนนต่อสถาณะการณ์ตรงหน้า
มองเห็นอย่างแท้จริงว่า สิ่งต่างๆไม่ได้ดีหรือร้ายในตัวของมันเอง
มาเพียงเพื่อให้เรา ดึงด้านที่ดีที่สุดของเราออกมาดูแล
ดูแลบางอย่างในชีวิต ใช้ความกล้าหาญใช้สติปัญญา ความเมตตา
มีความสุขที่นี่ ตรงนี้ ทันที
มีความสุขตั้งแต่ตอนที่ต้องรับมือกับความท้าทาย
สุขตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง
ทุกอย่างเกิดขึ้น เพื่อส่งชีวิตเราไปในจุดที่ดีที่สุดเสมอด้วยปัญญา
จากหนังสือ เข็มทิศชีวิต 7 ปลดล็อกสู่ความสำเร็จ
ครูอ้อย เข็มทิศชีวิต
--------
มาเรียนเข็มทิศ Super Wealth and Happiness
18-19 กค .2558
โทร 086 745 1777, 086 745 9777, 086 745 0777, 086-664-8870 เวลาสำคัญเปลี่ยนชีวิต

No comments: