10 ร้านอาหารญี่ปุ่นเลิศรสแบบ Stand alone
อาหารญี่ปุ่นเป็นที่หนึ่งในสุดยอดอาหารยอดฮิตที่คนไทยนิยมกันมาก เห็นได้จากบรรดาร้านอาหารสัญชาตญี่ปุ่นที่ทยอยเปิดใหม่กันแทบทุกวัน แต่ส่วนใหญ่พิกัดที่ตั้งร้านมักอยู่กันตามห้างสรรพสินค้ากันทั้งนั้น แล้วคนที่อยากกินอาหารญี่ปุ่นแต่เบื่อและไม่อยากตาลายเดินเลือกร้านเดิมๆที่เปิดติดกันในห้างล่ะจะไปหาพิกัดร้านอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆได้ที่ไหนล่ะ? วันนี้วงในขอเสนอร้านอาหารญี่ปุ่นแบบ Stand alone ตั้งอยู่เดี่ยวๆ 10 ร้านนอกห้าง แต่ละร้านมีเอกลักษณ์และเมนูเฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร หลีกหนีความจำเจจากร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างทั่วๆไป มาพบกับรสชาติและบรรยากาศใหม่ๆกันเถอะ!
แก้ไขเมื่อ1 ส.ค. 2013
ร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กๆ แต่ดิบ เท่ห์ในซอยอารีย์ 2 ที่มีคอนเซปต์เก๋ๆ ว่า "The Creation of Simplicity" หรือการสร้างสรรค์แห่งความเรียบง่าย แห่งนี้ มีเมนูซูชิที่โดดเด่นในเรื่องการนำวัตถุดิบทั้งจากญี่ปุ่นและวัตถุดิบในประเทศมาสร้างสรรค์ ประยุกต์ ผสมผสาน จนกลายเป็นซูชิหน้าตาสวยงามและรสชาติอร่อยได้อย่างลงตัวในราคาย่อมเยาจน กลายเป็นร้านซูชิขวัญใจของใครหลายคน โดยบางวันทางร้านจะจัดเมนูสไตล์โอมาคาเสะ ซึ่งจะจัดชุดอาหารไม่ซ้ำกันตามแต่วัตถุดิบในอาทิตย์นั้นๆ แต่ถ้าอยากเลือกเอง ทางร้านก็จัดเซ็ต A la carte ไว้ให้เลือก ทั้ง "Crispy Salmon Skin Roll" หนังแซลมอนทอดกรอบมาโรลกับแซลมอนสดที่หมดไวมากจนต้องโทรจอง หรือ "ซูชิเนื้อ" ที่นำเนื้อหลายส่วนจากหลายประเทศมาปรุงตามความอร่อยของทางร้าน คนชอบซูชิแบบครีเอท รสอร่อยในราคาย่อมเยาต้องมาที่นี่
เรียกได้ว่าเป็นร้านขวัญใจคอซูชิของคนรามอินทราเลยก็ว่าได้ เพราะ sushi hiro เป็นร้านซูชิระดับพรีเมี่ยมที่คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบชั้นเยี่ยมมาปรุงเป็นเมนูชั้นเลิศ ภายในร้านให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นตั้งแต่การตกแต่งร้านกระทั่งภาชนะในการเสิร์ฟ ส่วนเมนูที่ขอแนะนำต้อง "Hirame carpaccio" ปลาฮิราเมะแล่บางๆ โรยกระเทียมหอมกรอบปรุงรสด้วยน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล "Uni Nigiri" ไข่หอยเม่น สดๆจาก ฮอกไกโด หอมหวานได้กลิ่นทะเลนิดๆ ถ้าชอบกินอาหารทะเล นอกจากเมนูซูชิเป็นคำแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูจัดเป็นเซ็ตและข้าวหน้าต่างๆ ให้เลือกอร่อยได้จุใจ คิดถึงอาหารญี่ปุ่นและซูชิระดับพรี่เมี่ยมเมื่อไหร่แวะเลย
จากความชอบทานอาหารญี่ปุ่นของ 6 พี่น้องจนกลายเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเก๋ๆ ภายใต้คอนเซปต์ "ซูชิในสวน" ที่ชวนผู้คนให้มานั่งสังสรรค์และลิ้มลองซูชิทั้งแบบสด แบบกริลล์และแบบสุกรวมถึงซาชิมิสดๆ ในบรรยากาศสวนในร่ม ความประทับใจที่มัดใจให้คนแวะเวียนมาที่นี่นอกจากการใช้วัตถุดิบชั้นดีสดใหม่นำมาปรุงจนได้รสชาติถูกปากแล้ว ทางร้านยังการนำปลาหรือเนื้อมาวัตถุดิบจนกลายเป็นซูชิคำโต อย่าง "Jiro Warm Breeze" ซูชิที่ใช้ชูโทโร่ ห่อชูโทโร่่สับปรุงรส ไข่หอยเม่นสด ท้อปปิ้งด้วยไข่นกกระทาดิบและคาร์เวียร์ สำหรับคนรักเนื้อต้อง "I love Matsuzaka Roll" เนื้อมัตสึซากะกริลล์พอสุก ห่ออิคุระไว้ข้างใน แล้วท้อปปิ้งด้วยไข่กุ้ง นอกจากซูชิ ที่นี่ยังมี ซาชิมิสดๆ Set Lunch เซ็ตอาหารที่มาพร้อมเทมปุระและข้าวหน้าต่างๆ รวมถึงสเต็กด้วย
ด้วยความตั้งใจที่อยากให้คนกรุงได้ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่นสดๆ จึงเกิดเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นขนาดกะทัดรัดตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นน่านั่งที่มีคอนเซปต์ว่า "Fusion Japanese Sushi Bar" ที่ร้าน isao เราสามารถเลือกนั่งได้ทั้งหน้าเคาน์เตอร์ซูชิบาร์และโซนโต๊ะเก้าอี้ไม้ มาถึงถิ่นแล้วอย่าพลาดเมนูที่หลายคนยกนิ้วให้ในความอร่อยและน่ารัก อย่าง "Jackie" ซูชิรูปหนอนอ้วนหน้าตาน่ารัก ไส้ในเป็นกุ้งเทมปุระ ไข่กุ้ง อโวคาโด ห่อด้วยกุ้งเอบิ แล้วราดซอสรสเปรี้ยวหวาน "Volcano" หอยเชลล์อบครีมซอสรสเข้มข้น เสิร์ฟร้อนๆ มาบนเปลือกหอยเชลล์ที่ได้รสเผ็ด มัน จัดจ้านแต่กลมกล่อม นอกจากซูชิแล้วทางร้านยังมี ปลาดิบสดคุณภาพดี และเมนูอาหารญี่ปุ่นให้เลือกอร่อยอีกเพียบ ใครอยากพิสูจน์รสชาติอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นอย่าลืมมาโดนกับร้านนี้
หากใครเป็นแฟนหนังของผู้กำกับดัง หว่อง กา ไว ย่อมรู้จัก In the mood for love ภาพยนตร์ Romantic Drama เรื่องราวความรักต้องห้ามของหนุ่มสาวชาวจีนในยุค 1960 ที่ละเมียดละไมตรึงใจผู้ชม และได้กลายมาเป็นชื่อร้านอาหารญี่ปุ่นบรรยากาศดีที่ชวนให้รำลึกถึงเมืองจีนในยุค 60 ที่มีคอนเซปต์ว่า Sushi Bar & Bistro ทำให้เมนู อาหารญี่ปุ่นของที่นี่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ หรือ แบบฟิวชั่นก็มีให้ลองลิ้ม และเมนูเด็ดที่มาแล้วไม่ควรพลาดต้อง "Guilty But Happy" ข้าวปั้นที่อัดแน่นด้วยกุ้งเทมปุระ ไข่กุ้ง ครีมชีส ต้นหอม วาซาบิมาโย และซอสนิซึเมะ "Caterpillar Roll" โรลไส้ปลาไหลและเทมปุระกุ้งห่อด้วยอโวคาโด จัดเต็มกับอาหารญี่ปุ่นแล้วอย่าลืมเครื่องดื่มตามชื่อร้าน "IN the Mood for LOVE" ค็อกเทลที่นำแอปเปิ้ลไซรัปมาผสมกับโซจูและน้ำมะนาวเรียกความสดชื่น วันไหนเลิกงานเร็วอยากหาที่ Hang out กับกลุ่มเพื่อนลองไปจัดเต็มกันที่ IN the Mood for LOVE เลย
คนรักอาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะซูชิต้องแวะไปร้านนี้ เพราะ ที่นี่นอกจากจะคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศมาใช้แล้ว ยังมีเชฟจากญี่ปุ่นรับหน้าที่ปรุงทุกเมนูให้เราเต็มอิ่มกับรสชาติความเป็นญี่ปุ่นโดยแท้ แวะมาแล้วห้ามพลาดกับเมนูซูชิระดับพรี่เมี่ยม ทั้ง "Foie Gras Sushi" ซูชิหน้าตับห่านนำเข้าจากฝรั่งเศสที่นำมาย่างกับซอสสูตรพิเศษวางซ้อนกันสองชั้น "Hotate Cream Cheese Roll" หอยเชลล์สดจากญี่ปุ่นกับ Cream Cheese รสนุ่มละมุนลิ้น " Botan Ebi Foie Gras" หัวกุ้งยัดไส้ข้าวผัดเห็ดแล้วนำไปทอด ทำให้รับประทานได้ทั้งตัวและหัว "Omi Beef A5 Sushi" ซูชิหน้าเนื้อโอมิเกรดเอนำเข้าจากญี่ปุ่นที่อดีตเคยใช้เป็นโอสถถวายจักรพรรดิ์ญี่ปุ่นที่แสนนุ่มละลายในปาก ไม่เพียงแค่เมนูซูชิ และ ซาชิมิสดๆ แต่เมนูอาหารญี่ปุ่นอื่น อย่าง "Hamachi Saikyo Don" ปลาฮามาจิย่างไฟอ่อนๆ ราดด้วยซอสมิโซะบนข้าวญี่ปุ่นก็น่าลองไม่แพ้กัน
อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมย่านหลังสวนที่หลายคนติดใจในรสชาติและบรรยากาศอันร่มรื่น อาหารญี่ปุ่นของที่นี่คัดสรรทั้งวัตถุดิบชั้นดีและใช้วิธีการปรุงอย่างละเมียดละไมทำให้ทุกเมนูมีแต่ความอร่อย สำหรับคนที่ชอบซูชิอย่าพลาดกับ "Dragon on Fire" ซูชิปลาทูน่าที่มีซอสพริกซึ่งมีส่วนผสมของพริกเกาหลีรสชาติกลมกล่อม "Engawa Special" เนื้อเอนกาวะนุ่มลื่น ละมุนลิ้น เสริมทัพความอร่อยด้วยไข่หอยเม่นสด "Sashimi Mixed" ซาชิมิชามใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยปลาฮามาจิ ปลาแซลมอน หอยปีกนก อิกะ ซาบะดอง และทูน่า แต่ถ้าอยากลองเมนูข้าวหน้าต่างๆ ล่ะก็ "Foie Gras Don" ข้าวหน้าฟัวกราส์ ราดด้วยซอสที่ทำจากไวน์แดง Bordeaux จากฝรั่งเศส เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่งเศสที่น่าลิ้มลอง "Unagi Don" ข้าวหน้าปลาไหลชิ้นใหญ่ย่างมาหอมกรุ่น ราดซอสสูตรเฉพาะของร้าน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นชั้นดีรอให้ลิ้มรสอีกเพียบ ใครอยากพิสูจน์ความอร่อยของวัตถุดิบระดับพรี่เมี่ยมล่ะก็เชิญได้
สำหรับใครที่ชอบบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น อย่านึกว่าจะหาได้ในศูนย์การค้าเท่านั้น เพราะ inaho เป็นร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นแนว Stand Alone ที่ประยุกต์เมนูให้กินง่ายเข้ากับไลฟ์สไตล์คนไทย ไม่ว่าจะเมนูของสด ของทอด ของย่าง รวมถึงผักสดและเครื่องเคียงต่างๆ ในไลน์บุฟเฟ่ต์ของที่นี่มีให้ครบ เสิร์ฟพร้อมกับชาเขียว ด้วยสนนราคาสบายกระเป๋าจนกลายเป็นร้านประจำของใครหลายคน แต่ถ้าอยากกินอาหารเป็นจานๆ ที่นี่ก็มีของอร่อยให้ลองมากมายทั้งเมนูปลา อย่าง แซลมอน ทูน่า ปลาซาบะ เนื้อจะหวานและสดมากนำไปทำอะไรก็เข้าท่า ส่วนของทอด ไม่ว่าจะกุ้งเทมปุระหรือทงคัตสึก็รสดี ข้าหน้าต่างๆ ไปจนถึงเบนโตะของที่นี่ก็น่าลอง ใครที่ชอบอาหารญี่ปุ่นที่ใช้วัตถุดิบอย่างดีในราคากระเป๋าไม่ฉีกเก็บชื่อร้านนี้ไว้ได้
NIRAI KANAI ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาว่าชื่อดังในโตเกียวที่จำลองบรรยากาศชนบทของญี่ปุ่นมาไว้ในบ้านเรา ที่นี่มีเมนูอาหารญี่ปุ่นพื้นบ้านของโอกินาว่าแท้ๆ ให้ลิ้มลองมากกว่า 100 รายการ ทั้ง "Fuu Champuru" เมนูดังจากโอกินาว่าที่นำเอาฟุจากญี่ปุ่นไปผัดกับผักต่างๆ "Mozuku Tempura" สาหร่ายโมสุคุซุที่มีต้นกำเนิดจากเกาะโอกินาว่านำมาทอดเทมปุระทานกับวูสเตอร์ซอสหรือจิ้มเกลือ ถ้าอยากกินเส้นต้องลอง "Okinawa Soki Soba" หรือ โซบะซี่โครงหมูเมนูยอดฮิตของโอกินาว่า ที่ใช้ซี่โครงหมูตุ๋นจนนุ่มมาพร้อมกับน้ำซุปรสต้นตำรับ หรืออยากกินซูชิล่ะก็สั่ง "Sushi Moriawase" ซูชิรวมมิตรที่มีทั้งหน้าแซลมอน, ชิเมซาบะ, ทาโกะ, ปลาหมึก, เนื้อบดแฮมกับไข่ทอด, ไข่ทอดผสมสาหร่ายอะซา และนัตโตมากิ ใครที่อยากกินอาหารญี่ปุ่นพื้นบ้านโอกินาว่าแต่ไม่อยากบินไปถึงญี่ปุ่นมาจัดเต็มกันที่นี่ดู
ปิดท้ายด้วย High Hat ร้านอาหารญี่ปุ่นกลิ่นอายอินเตอร์ที่แตกต่างจากร้านอาหารลุคญี่ปุ่นอื่นโดยสิ้นเชิง ด้วยการตกแต่งร้านที่ให้บรรยากาศเหมือนโรงนาในฟาร์มอเมริกาที่ดูดิบแต่อบอุ่นน่ารัก ที่สร้างสรรค์เมนูอาหารญี่ปุ่นหลอมรวมกับความอร่อยของอาหารสัญชาติต่างๆ จนกลายเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์อเมริกันระดับพรี่เมี่ยมที่ลงตัวแบบสุดๆ มาถึงที่แล้วอย่าพลาดกับเมนูไฮไลท์ที่หลายคนติดใจ อย่าง Ocean 14 โรลมากิที่รวมพลปลาหมึก กุ้ง ปู หอยเชลล์ราดซอสรสจัดแสนกลมกล่อม หรือจะเป็นซูชิแบบเป็นคำๆ ต้อง "Creamy Scallop" ซูชิหน้าหอยเชลล์เคล้ากับซอสสไปซี่ "Captain Franco" ซูชิหน้าปลา Yellow Tail มาพร้อมกับไข่ปลาแซลมอน และแตงกวา แต่ถ้าอยากลิ้มรสเมนูฟิวชั่นล่ะก็ "High Hat Agedashi Tofu" เต้าหู้ห่อสาหร่ายทอดกรอบ ราดซอสมิโซะ ใครที่อยากลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นสไตล์อเมริกันที่อร่อยล้ำและแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครมาที่ High Hat ได้เลย
No comments:
Post a Comment