โอบกอดท้องฟ้า อิงแอบธรรมชาติแห่งขุนเขา ณ บ้านม่อนม่วน
มาเที่ยวม่อนแจ่มแล้ว ถ้าอยากซึมซับบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยขุนเขาแล้วจะต้องพักค้างแรมอย่างน้อยสักหนึ่งคืน
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทางจากกรุงเทพฯ จึงได้หาข้อมูลที่พักและก็มาพบกับบ้านม่อนม่วนโดยบังเอิญโดยไม่มีข้อมูลใดๆประกอบการตัดสินใจทั้งสิ้น นอกจากข้อมูลจากทางเวปของบ้านม่อนม่วนเท่านั้นเอง
จากนั้นผมจึงได้ทำการสำรองที่พักและโอนเงินค่าที่พักล่วงหน้านานพอสมควรเนื่องจากเป็นการเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุดต่อเนื่องซึ่งคาบเกี่ยวกับเทศกาลปีใหม่ อีกทั้งต้องโอนเงินเต็มจำนวนโดยที่ยังไม่รู้ว่าการเข้าพักจะได้รับบริการที่ดีสมกับที่รอคอยหรือไม่ อีกทั้งเป็นการเดินทางไปพักค้างแรมที่นี่เป็นครั้งแรกจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
ในการเดินทางครั้งนั้น ผมเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่แล้วเช่ารถขับเอง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ราวหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงที่พักที่อยู่ระหว่างทางก่อนถึงดอยม่อนแจ่มประมาณหนึ่งกิโลเมตร
มีที่จอดรถไว้บริการแต่ค่อนข้างจอดรถได้จำนวนจำกัด ต้องจอดขวาง ถ้าแขกเข้าพักเติมอาจจะไม่ค่อยสะดวกมากนัก แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากมายนัก
การเดินทางมาที่นี่เป็นการเดินทางที่ไม่ลำบากอะไรมากนักเพราะเส้นทางลาดยางอย่างดีตลอด อาจมีโค้งและทางลาดชันบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด อีกทั้งสองข้างทางยังมีทิวทัศน์ที่งดงาม ประกอบกับมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่ให้แวะหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสนามขับรถ ATV คุ้มเสือ โรงเรียนฝึกลิง ฟาร์มงู ฟาร์มผีเสื้อและฟาร์มกล้วยไม้ ปางช้างแม่สา น้ำตกแม่สา และสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ผมมาถึงบ้านม่อนม่วนในช่วงบ่ายของวัน จากนั้นติดต่อลงทะเบียนเข้าพักที่ส่วนต้อนรับซึ่งเป็นส่วนเดียวกันร้านอาหาร
จัดสัมภาระเข้าบ้านพักที่ชื่อ ม่อนตะวัน ราคาที่จองมาราวสามพันกว่าบาทต่อคืนซึ่งก็คิดว่าไม่ถูกนักแต่คิดว่าเป็นการเดินทางไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ไหนๆก็คิดราคาสูงกว่าปกติอยู่แล้ว
บ้านหลังนี้สามารถชมทิวทัศน์ของพระอาทิตย์ลับฟ้าได้จากระเบียงบ้าน จึงเป็นที่มาของขื่อบ้านครับ
ระเบียงบ้านสำหรับนั่งเล่น พักผ่อนตามอัธยาศัย แต่มีข้อเสียคืออยู่ติดร้านอาหารมาก ทำให้อาจไม่เป็นส่วนตัวในช่วงที่มีแขกรับทานอาหาร
ภายในแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นห้องนอนที่ตกแต่งด้วยมุ้ง และม่านลูกไม้สีขาวอย่างที่เห็นในภาพ
ห้องน้ำภายในตัวบ้านพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น
หลังจากเก็บสัมภาระเข้าห้องพัก ก็ออกมาเดินสำรวจรอบๆกัน ผมได้ทราบจากคำบอกเล่าว่าที่ดินผืนนี้ในขณะนั้นเป็นที่ดินว่างเปล่าที่เสื่อมโทรมจากการแผ้วถางทำลายของชาวเขาในพื้นที่ ต่อมาก็มีแนวคิดสร้างรีสอร์ทที่พักขนาดเล็ก โดยมีบ้านพักอยู่เพียงแปดหลังเท่านั้น โดยได้จัดวางตัวบ้านแต่ละหลังให้ลดหลั่น ทอดตัวไปตามเนินเขา ทำให้บ้านแต่ละหลังสามารถเห็นวิวทิวเขาในมุมที่แตกต่าง
บ้านทุกหลังมีหน้าต่างเปิดรับลมธรรมชาติได้โดยรอบด้าน พร้อมระเบียงกว้างชมดาวหน้าบ้านพักทุกหลัง ตัวบ้านพักจะตั้งอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาของล็อบบี้และร้านอาหาร
โดยทางปีกซ้ายของล็อบบี้เป็นที่ตั้งของบ้านพัก 5 หลัง เรียงไล่ระดับลดหลั่นกันไป เริ่มด้วยบ้านพักชื่อ ม่อนเมฆ ม่อนหมอก ม่อนตะวัน ม่อนจันทร์ และม่อนดาว ส่วนอีก 3 หลัง อยู่ด้านปีกขวาของล็อบบี้ จะเป็นที่ตั้งของบ้านม่อนฟ้า ม่อนรุ้ง และม่อนดอย
สิ่งที่ต้องพึงระวังเมื่อมาพักที่บ้านก็คือเมื่อออกจากห้องพักต้องระวังกลอนประตูจะล็อคแล้วจะกลับเข้าไปในห้องไม่ได้ เนื่องจากที่นี่ใช้กลอนแบบสลักไม้แบบบ้านไทยสมัยก่อน ถ้ายกแล้วค้างไว้เวลาปิดประตูกลอนสลักไม้ดังกล่าวอาจจะตกลงมาจากแรงกระแทกแล้วทำให้ประตูล็อคได้
จากการสอบถามที่มาของชื่อ ได้ความว่า ม่อนหมายถึงดอยสูง ส่วนม่วนแปลว่าความสนุก รวมกันก็เป็นชื่อที่สื่อความหมายได้ดีทีเดียวครับ
ผมทราบว่าบ้านพักแต่ละหลังที่นี่เค้านำเอาวัสดุจำพวกไม้มาจากยุ้งฉางเก่าที่เก็บข้าวเปลือกของชาวนามาสร้างเป็นบ้านพัก
ด้วยการออกแบบที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์แห่งวิถีของชาวล้านนาเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาพักใช้บริการ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าที่นี่น่าจะเหมาะกับผู้ที่รักความเงียบสงบต้องการอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ห่างไกลจากสิ่งบันเทิงทั้งปวง
เพราะเห็นผู้ที่เข้ามาพักส่วนใหญ่จะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องพักดื่มด่ำบรรยากาศแห่งทิวทัศน์ขุนเขาโดยรอบ
ถึงเวลาก็ออกมารับทานอาหารแล้วก็กลับเข้าห้องพัก นอนพัก หรืออยู่กับหนังสือดีสักเล่ม
แต่สำหรับผุ้ที่ต้องการความบันเทิงรื่นเริง ที่นี่ดูจะไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง
ภายในบ้านม่อนม่วนมีการตกแต่งด้วยของตกแต่งที่หาได้ในพื้นที่และสั่งมาจากที่แห่งอื่น
เข้าใจว่าสถาปนิกผู้ออกแบบเป็นผู้จัดหามาเพื่อตกแต่งสถานที่
บางสิ่งก็มีการจัดหามาโดยเจ้าของบ้าน
ล้วนแล้วแต่ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับสถานที่ เป็นบรรยากาศบ้านไทยในชนบททางภาคเหนือ
เเมื่อมองไปรอบๆ เห็นสิ่งของที่นำมาวางตกแต่งที่คุ้นหูคุ้นตาให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านอันอบอุ่นท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติ
บริเวณนี้คือที่นั่งรับทานอาหาร มีทั้งชั้นบนและชั้นล่าง แต่ในช่วงกลางวันด้านบนจะแดดร้อน
แต่หากเป็นเวลาช่วงเย็นแล้วด้านบนจะให้บรรยากาศที่ดีมาก สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาได้เป็นอย่างดี
บริเวณนี้เป็นล็อบบี้ ส่วนต้อนรับและร้านอาหารของบ้านพักแห่งนี้ และยังเป็นที่นั่งดูทีวีสำหรับแขกที่เข้าพักเนื่องจากในบ้านพักจะไม่มีทีวีไว้บริการ ที่นั่งรับทานอาหารทั้งชั้นบนและชั้นล่าง
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตก็คือรายการอาหารจะมีอยู่ไม่มากนัก จากการสอบถามได้ความว่าในช่วงเทศกาลรายการอาหารจะถูกจำกัดลงเพื่อความคล่องตัวในเรื่องการบริการ ซึ่งถ้าหากแขกที่มาพักหลายคืนและรับทานอาหารที่นี่ก็จะรู้สึกจำเจได้ โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าที่รวมอยู่ในราคาค่าห้อง รายการอาหารจะซ้ำกันทุกวัน
ในมื้อเช้าและมื้อเย็น ที่รีสอร์ทแห่งนี้จะไม่เปิดรับแขกนอก จะสงวนไว้สำหรับแขกที่เข้าพักกับทางรีสอร์ทเท่านั้น แต่เพื่อรับประกันความผิดหวังควรสำรองโต๊ะและสั่งอาหารล่วงหน้าจะดีกว่า
ในช่วงเทศกาลจะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวม่อนแจ่มแต่ไม่ได้พักค้างแรมที่นี่มาแวะรับทานอาหารเที่ยงจำนวนมากด้วย ทำให้โต๊ะรับทานอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัดมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
จุดนี้ทำให้ความเป็นส่วนตัวของแขกที่มาพักลดน้อยลงไปในช่วงเวลาดังกล่าวเนื่องจากบ้านพักและร้านอาหารจะอยู่ใกล้กันมากทำให้มีเสียงดังเข้ามาในบ้านพักได้
การมาเยือนม่อนแจ่มและพักค้างแรมที่บ้านม่อนม่วน นับว่าเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการพักค้างแรมแบบแค้มปิ้ง
แน่นอนว่าการใกล้ชิดธรรมชาติอาจจะน้อยกว่าการแค้มปิ้ง แต่อย่างน้อยก็ได้สัมผัสกับธรรมชาติรอบด้านในระดับหนึ่ง
และแน่นอนว่าความสะดวกสบายย่อมมีมากกว่าแลกกับราคาที่ต้องจ่าย แต่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่ความต้องการของทุกคน
สำหรับผมการไปพักแรมที่บ้านม่อนแจ่ม โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะเป็นการได้กลับมาเยือนถิ่นล้านนาอีกหนในช่วงเวลาแห่งการก้าวข้ามสู่ศักราชใหม่ เทียบกับการบริการที่ได้รับแล้วก็นับว่าน่าพึงพอใจครับ
แม้ว่าจะมีความไม่ทั่วถึงเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าเราทำใจยอมรับว่านี่คือช่วงเทศกาลที่ทุกคนต่างก็ต้องการมาแสวงหาความสุขจากการท่องเที่ยวและทำใจให้ยอมรับ ทุกอย่างก็จะราบรื่นเป็นทริปท่องเที่ยวที่สมบรูณ์แบบได้ไม่ยาก หากวันหน้าโอกาสอำนวยผมก็อยากจะกลับไปหาความสงบเพื่อการพักผ่อนอย่างจริงจังในช่วงที่ไม่ใช่วันหยุดยาวดูสักครั้งหนึ่ง คงจะได้บรรยากาศที่ดีไปอีกแบบ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ความทรงจำดีๆกลับมาเหมือนเช่นทุกครั้งที่ไปเยือนถิ่นล้านนา
อำลาด้วยภาพสุดท้าย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม ทักทาย และเป็นแรงใจเสมอมา
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทางจากกรุงเทพฯ จึงได้หาข้อมูลที่พักและก็มาพบกับบ้านม่อนม่วนโดยบังเอิญโดยไม่มีข้อมูลใดๆประกอบการตัดสินใจทั้งสิ้น นอกจากข้อมูลจากทางเวปของบ้านม่อนม่วนเท่านั้นเอง
จากนั้นผมจึงได้ทำการสำรองที่พักและโอนเงินค่าที่พักล่วงหน้านานพอสมควรเนื่องจากเป็นการเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุดต่อเนื่องซึ่งคาบเกี่ยวกับเทศกาลปีใหม่ อีกทั้งต้องโอนเงินเต็มจำนวนโดยที่ยังไม่รู้ว่าการเข้าพักจะได้รับบริการที่ดีสมกับที่รอคอยหรือไม่ อีกทั้งเป็นการเดินทางไปพักค้างแรมที่นี่เป็นครั้งแรกจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
ในการเดินทางครั้งนั้น ผมเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่แล้วเช่ารถขับเอง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ราวหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงที่พักที่อยู่ระหว่างทางก่อนถึงดอยม่อนแจ่มประมาณหนึ่งกิโลเมตร
มีที่จอดรถไว้บริการแต่ค่อนข้างจอดรถได้จำนวนจำกัด ต้องจอดขวาง ถ้าแขกเข้าพักเติมอาจจะไม่ค่อยสะดวกมากนัก แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากมายนัก
การเดินทางมาที่นี่เป็นการเดินทางที่ไม่ลำบากอะไรมากนักเพราะเส้นทางลาดยางอย่างดีตลอด อาจมีโค้งและทางลาดชันบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด อีกทั้งสองข้างทางยังมีทิวทัศน์ที่งดงาม ประกอบกับมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่ให้แวะหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสนามขับรถ ATV คุ้มเสือ โรงเรียนฝึกลิง ฟาร์มงู ฟาร์มผีเสื้อและฟาร์มกล้วยไม้ ปางช้างแม่สา น้ำตกแม่สา และสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
ผมมาถึงบ้านม่อนม่วนในช่วงบ่ายของวัน จากนั้นติดต่อลงทะเบียนเข้าพักที่ส่วนต้อนรับซึ่งเป็นส่วนเดียวกันร้านอาหาร
จัดสัมภาระเข้าบ้านพักที่ชื่อ ม่อนตะวัน ราคาที่จองมาราวสามพันกว่าบาทต่อคืนซึ่งก็คิดว่าไม่ถูกนักแต่คิดว่าเป็นการเดินทางไปในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ไหนๆก็คิดราคาสูงกว่าปกติอยู่แล้ว
บ้านหลังนี้สามารถชมทิวทัศน์ของพระอาทิตย์ลับฟ้าได้จากระเบียงบ้าน จึงเป็นที่มาของขื่อบ้านครับ
ระเบียงบ้านสำหรับนั่งเล่น พักผ่อนตามอัธยาศัย แต่มีข้อเสียคืออยู่ติดร้านอาหารมาก ทำให้อาจไม่เป็นส่วนตัวในช่วงที่มีแขกรับทานอาหาร
ภายในแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นห้องนอนที่ตกแต่งด้วยมุ้ง และม่านลูกไม้สีขาวอย่างที่เห็นในภาพ
ห้องน้ำภายในตัวบ้านพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น
หลังจากเก็บสัมภาระเข้าห้องพัก ก็ออกมาเดินสำรวจรอบๆกัน ผมได้ทราบจากคำบอกเล่าว่าที่ดินผืนนี้ในขณะนั้นเป็นที่ดินว่างเปล่าที่เสื่อมโทรมจากการแผ้วถางทำลายของชาวเขาในพื้นที่ ต่อมาก็มีแนวคิดสร้างรีสอร์ทที่พักขนาดเล็ก โดยมีบ้านพักอยู่เพียงแปดหลังเท่านั้น โดยได้จัดวางตัวบ้านแต่ละหลังให้ลดหลั่น ทอดตัวไปตามเนินเขา ทำให้บ้านแต่ละหลังสามารถเห็นวิวทิวเขาในมุมที่แตกต่าง
บ้านทุกหลังมีหน้าต่างเปิดรับลมธรรมชาติได้โดยรอบด้าน พร้อมระเบียงกว้างชมดาวหน้าบ้านพักทุกหลัง ตัวบ้านพักจะตั้งอยู่ด้านซ้ายและด้านขวาของล็อบบี้และร้านอาหาร
โดยทางปีกซ้ายของล็อบบี้เป็นที่ตั้งของบ้านพัก 5 หลัง เรียงไล่ระดับลดหลั่นกันไป เริ่มด้วยบ้านพักชื่อ ม่อนเมฆ ม่อนหมอก ม่อนตะวัน ม่อนจันทร์ และม่อนดาว ส่วนอีก 3 หลัง อยู่ด้านปีกขวาของล็อบบี้ จะเป็นที่ตั้งของบ้านม่อนฟ้า ม่อนรุ้ง และม่อนดอย
สิ่งที่ต้องพึงระวังเมื่อมาพักที่บ้านก็คือเมื่อออกจากห้องพักต้องระวังกลอนประตูจะล็อคแล้วจะกลับเข้าไปในห้องไม่ได้ เนื่องจากที่นี่ใช้กลอนแบบสลักไม้แบบบ้านไทยสมัยก่อน ถ้ายกแล้วค้างไว้เวลาปิดประตูกลอนสลักไม้ดังกล่าวอาจจะตกลงมาจากแรงกระแทกแล้วทำให้ประตูล็อคได้
จากการสอบถามที่มาของชื่อ ได้ความว่า ม่อนหมายถึงดอยสูง ส่วนม่วนแปลว่าความสนุก รวมกันก็เป็นชื่อที่สื่อความหมายได้ดีทีเดียวครับ
ผมทราบว่าบ้านพักแต่ละหลังที่นี่เค้านำเอาวัสดุจำพวกไม้มาจากยุ้งฉางเก่าที่เก็บข้าวเปลือกของชาวนามาสร้างเป็นบ้านพัก
ด้วยการออกแบบที่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์แห่งวิถีของชาวล้านนาเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาพักใช้บริการ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าที่นี่น่าจะเหมาะกับผู้ที่รักความเงียบสงบต้องการอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ห่างไกลจากสิ่งบันเทิงทั้งปวง
เพราะเห็นผู้ที่เข้ามาพักส่วนใหญ่จะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องพักดื่มด่ำบรรยากาศแห่งทิวทัศน์ขุนเขาโดยรอบ
ถึงเวลาก็ออกมารับทานอาหารแล้วก็กลับเข้าห้องพัก นอนพัก หรืออยู่กับหนังสือดีสักเล่ม
แต่สำหรับผุ้ที่ต้องการความบันเทิงรื่นเริง ที่นี่ดูจะไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง
ภายในบ้านม่อนม่วนมีการตกแต่งด้วยของตกแต่งที่หาได้ในพื้นที่และสั่งมาจากที่แห่งอื่น
เข้าใจว่าสถาปนิกผู้ออกแบบเป็นผู้จัดหามาเพื่อตกแต่งสถานที่
บางสิ่งก็มีการจัดหามาโดยเจ้าของบ้าน
ล้วนแล้วแต่ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับสถานที่ เป็นบรรยากาศบ้านไทยในชนบททางภาคเหนือ
เเมื่อมองไปรอบๆ เห็นสิ่งของที่นำมาวางตกแต่งที่คุ้นหูคุ้นตาให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านอันอบอุ่นท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติ
บริเวณนี้คือที่นั่งรับทานอาหาร มีทั้งชั้นบนและชั้นล่าง แต่ในช่วงกลางวันด้านบนจะแดดร้อน
แต่หากเป็นเวลาช่วงเย็นแล้วด้านบนจะให้บรรยากาศที่ดีมาก สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาได้เป็นอย่างดี
บริเวณนี้เป็นล็อบบี้ ส่วนต้อนรับและร้านอาหารของบ้านพักแห่งนี้ และยังเป็นที่นั่งดูทีวีสำหรับแขกที่เข้าพักเนื่องจากในบ้านพักจะไม่มีทีวีไว้บริการ ที่นั่งรับทานอาหารทั้งชั้นบนและชั้นล่าง
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตก็คือรายการอาหารจะมีอยู่ไม่มากนัก จากการสอบถามได้ความว่าในช่วงเทศกาลรายการอาหารจะถูกจำกัดลงเพื่อความคล่องตัวในเรื่องการบริการ ซึ่งถ้าหากแขกที่มาพักหลายคืนและรับทานอาหารที่นี่ก็จะรู้สึกจำเจได้ โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าที่รวมอยู่ในราคาค่าห้อง รายการอาหารจะซ้ำกันทุกวัน
ในมื้อเช้าและมื้อเย็น ที่รีสอร์ทแห่งนี้จะไม่เปิดรับแขกนอก จะสงวนไว้สำหรับแขกที่เข้าพักกับทางรีสอร์ทเท่านั้น แต่เพื่อรับประกันความผิดหวังควรสำรองโต๊ะและสั่งอาหารล่วงหน้าจะดีกว่า
ในช่วงเทศกาลจะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวม่อนแจ่มแต่ไม่ได้พักค้างแรมที่นี่มาแวะรับทานอาหารเที่ยงจำนวนมากด้วย ทำให้โต๊ะรับทานอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัดมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
จุดนี้ทำให้ความเป็นส่วนตัวของแขกที่มาพักลดน้อยลงไปในช่วงเวลาดังกล่าวเนื่องจากบ้านพักและร้านอาหารจะอยู่ใกล้กันมากทำให้มีเสียงดังเข้ามาในบ้านพักได้
การมาเยือนม่อนแจ่มและพักค้างแรมที่บ้านม่อนม่วน นับว่าเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากการพักค้างแรมแบบแค้มปิ้ง
แน่นอนว่าการใกล้ชิดธรรมชาติอาจจะน้อยกว่าการแค้มปิ้ง แต่อย่างน้อยก็ได้สัมผัสกับธรรมชาติรอบด้านในระดับหนึ่ง
และแน่นอนว่าความสะดวกสบายย่อมมีมากกว่าแลกกับราคาที่ต้องจ่าย แต่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่ความต้องการของทุกคน
สำหรับผมการไปพักแรมที่บ้านม่อนแจ่ม โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะเป็นการได้กลับมาเยือนถิ่นล้านนาอีกหนในช่วงเวลาแห่งการก้าวข้ามสู่ศักราชใหม่ เทียบกับการบริการที่ได้รับแล้วก็นับว่าน่าพึงพอใจครับ
แม้ว่าจะมีความไม่ทั่วถึงเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าเราทำใจยอมรับว่านี่คือช่วงเทศกาลที่ทุกคนต่างก็ต้องการมาแสวงหาความสุขจากการท่องเที่ยวและทำใจให้ยอมรับ ทุกอย่างก็จะราบรื่นเป็นทริปท่องเที่ยวที่สมบรูณ์แบบได้ไม่ยาก หากวันหน้าโอกาสอำนวยผมก็อยากจะกลับไปหาความสงบเพื่อการพักผ่อนอย่างจริงจังในช่วงที่ไม่ใช่วันหยุดยาวดูสักครั้งหนึ่ง คงจะได้บรรยากาศที่ดีไปอีกแบบ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ความทรงจำดีๆกลับมาเหมือนเช่นทุกครั้งที่ไปเยือนถิ่นล้านนา
อำลาด้วยภาพสุดท้าย
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม ทักทาย และเป็นแรงใจเสมอมา
| Create Date : 10 พฤษภาคม 2556 Last Update : 17 พฤษภาคม 2556 13:25:21 น. Counter : 1558 Pageviews. | 16 comments | |||||
 | ||||||
ชอบมากเลยค่ะ สงบเงียบดีจริง ๆ แบบนี้ได้อ่านหนังสือ หรือได้เขียนอะไร ๆ ได้เยะเลยทีเดียว เดือน พย. จะพาฝรั่งไปเที่ยวหลายคน จะไปเชียงใหม่ด้วย จองโรงแรมไว้ในตัวเมือง เพราะเดินทางไปไหน ๆ สะดวก แต่หากเป็นไปได้จะไปพักที่นี่บ้างค่ะ
โดย: Maeboon 
วันที่: 10 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:54:46 น.
วันที่: 10 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:54:46 น.
บรรยากาศดี น่าพักมากค่ะ ส่วนตัวแล้วยุเชียงใหม่ เลยไม่ค่อยได้ไปพักที่ไหนกะเขาเลย ส่วนใหญ่จะตามเที่ยวกะเพื่อนในบล๊อกนี้แร่ะ ครั้งหน้าคงได้แวะไปจิบกาแฟที่นีบ้างสวยดีค่ะ บ้านสีอิฐ ขอบคณที่แวะไปเยี่ยมกันค่า
โดย: mariabamboo วันที่: 11 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:10:36 น.
วันที่: 11 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:10:36 น.
ตะก่อนก็อาบน้ำตุ่มมังกรค่ะ เย็นดี
โครเอเชียเคยเป็น 1 ใน 6 แคว้นของยูโกสลาเวียค่ะ
โครเอเชียเคยเป็น 1 ใน 6 แคว้นของยูโกสลาเวียค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:09:47 น.
วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:09:47 น.
ว้าววว น่าพักจังเลยค่ะ
กำลังจะมาบอกเลยว่า ถ้าอัพบล็อกใหม่แล้ว ไม่ตั้งบล็อกเอนทรี่ใหม่เป็นหน้าหลักเหรอคะ เพราะตอนครั้งที่แล้วนั่นยังเป็นเอนทรี่เมื่อนานมาแล้ว แต่นี่ทำแล้วก็โอเคค่ะ อิอิ
ยินดีต้อนรับกลับสู่บล็อกแกงค์นะค้าา
กำลังจะมาบอกเลยว่า ถ้าอัพบล็อกใหม่แล้ว ไม่ตั้งบล็อกเอนทรี่ใหม่เป็นหน้าหลักเหรอคะ เพราะตอนครั้งที่แล้วนั่นยังเป็นเอนทรี่เมื่อนานมาแล้ว แต่นี่ทำแล้วก็โอเคค่ะ อิอิ
ยินดีต้อนรับกลับสู่บล็อกแกงค์นะค้าา
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:48:48 น.
วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:48:48 น.
อ่านแล้วอึ้งไปพักนึงค่ะ
อยู่เชียงใหม่หลายปีแต่ไม่ค่อยออกนอกรัศมีทำการเลย
อยู่แต่ในเมือง
ออกไปนอกเมืองบ้างก็แค่ถากๆ เบาๆ
สงสัยว่าวันหลังต้องไปบ้างแล้วล่ะค่ะ...ได้ยินคนพูดถึงม่อนแจ่มกันเยอะเลย
แต่กลัวอย่างนึง...เจ้าของบล็อคถ่ายรูปออกมาสวยมาก ไปจริงๆ มันสวยแบบนี้ไม๊คะ
อยู่เชียงใหม่หลายปีแต่ไม่ค่อยออกนอกรัศมีทำการเลย
อยู่แต่ในเมืองออกไปนอกเมืองบ้างก็แค่ถากๆ เบาๆ
สงสัยว่าวันหลังต้องไปบ้างแล้วล่ะค่ะ...ได้ยินคนพูดถึงม่อนแจ่มกันเยอะเลย
แต่กลัวอย่างนึง...เจ้าของบล็อคถ่ายรูปออกมาสวยมาก ไปจริงๆ มันสวยแบบนี้ไม๊คะ
โดย: อาเจ้ของน้องๆ วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:50:57 น.
วันที่: 15 พฤษภาคม 2556 เวลา:19:50:57 น.
น่าไปมาก ๆ เลยค่ะ แอบขอตามไปเที่ยวด้วยคน ^^
โดย: Krajeab na ka วันที่: 16 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:22:19 น.
วันที่: 16 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:22:19 น.
ถ้ามีบ้านอยู่ในบรรยากาศแบบนี้คงดีไม่น้อยนะคะ
โดย: Tang_Siri วันที่: 16 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:44:10 น.
วันที่: 16 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:44:10 น.
แวะมาทักทายคุณ3kkkยามเย็นค่ะ
ภาพสวยมากค่ะ มุมสวยทุกมุม
มีความสุขกับการทำงานนะคะ ^_^
ภาพสวยมากค่ะ มุมสวยทุกมุม
มีความสุขกับการทำงานนะคะ ^_^
โดย: andrex09 วันที่: 16 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:25:10 น.
วันที่: 16 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:25:10 น.
No comments:
Post a Comment