สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
2/11/2017
คาวตองกับคุณพ่อสุข ร้อยเอ็ด และ ตามรอยเท้าพ่อ ตอนที่ 100 โดย ผอ. ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์
คุณพ่อสุข อายุ 72 ปี บ้านมะหว่า ตำบลบึงงาม อำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด เบอร์โทรฯ 080-1865xxx มีอาชีพทำไร่ ทำนา มีปัญหาด้านสุขภาพ ปวดเอว ปวดหลัง ปวดที่นิ้วเท้านิ้วชี้นิ้วเดียว ปวดหัวข้างเดียว เวลาจะลุกขึ้นก็มีอาการเซ เป็นอาการวิงเวียนบ่อยๆ หน้ามืด ส่วนอาการ ปวดนิ้ว เป็นมาได้สองปีกว่าๆแล้ว เวลามีอาการปวดก็จะรู้สึกว่ามัน ทรมานมาก ปวดตั้งแต่หลังลงไปปลายเท้าเลยมันตึงไปหมด เหมือนมันเป็นตะคริว อาการปวดแบบนี้เป็นมา 3-4 ปีแล้ว กินคาวตองฯครั้งแรกๆมีปวดกระทุ้ง คือ ตรงไหนที่ปวดอยู่มันปวดมากๆกว่าเดิมอีก มีกระตุกบ้าง แต่หัวที่ปวด วิงเวียน อาการเหล่านี้หายไปเลยไม่มีกระทุ้งอะไรเลย อาการปวดหลังเอวหลังกินยาอยู่ประมาณเกือบสองอาทิตย์กว่ามันก็คลายเบาๆลง ถึงปัจจุบันนี้ยังมีอาการปวดอยู่ บ้างก็เหลืออยู่แค่นิดเดียว แต่มันก็ไม่เป็นเรื่องใหญ่ในการใช้ชีวิตเหมือนแต่ก่อนเลย....................... คาวตองฯหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Houttuynia cordata Thunb. ที่ผมอ่านจากฐานข้อมูลที่ทำวิจัยกันมาทั่วโลก ไม่มีที่ไหนแสดงว่าแก้ปวดได้ กรณีคุณพ่อสุขได้กินคาวตองฯไปไม่ใช่ผลของคาวตองเดี่ยวแน่นอน และเป็นสิ่งที่แปลกออกไปอีกก็คือหลังจากที่พ่อสุขกินคาวตองฯไปแล้วกลับปวดตรงที่เคยปวดมากกว่าเดิมนานเกือบสองสัปดาห์จึงค่อยเบาลง ซึ่งเราถือว่าเป็นการกระทุ้งโรค สุดท้ายอาการปวดของพ่อสุขก็เบาลงจนน้อยกว่าเดิมมากๆ ซึ่งในปัจจุบันผมเองได้พัฒนาคาวตองฯที่พ่อสุขกินตั้งแต่ปี 2554 ผลที่ได้คือคาวตองฯทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆครับ ...............................(Disclaimer: บทความทั้งหมดข้างต้นนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวของผม เว้นเสียแต่จะเขียนเป็นอย่างอื่นไว้ ข้อมูลดังกล่าวนี้ ไม่ได้มุ่งหวังให้ใช้แทนที่คำแนะนำแพทย์เจ้าของไข้หรือให้ใช้เป็นคำแนะนำทางการแพทย์ แต่ต้องการแบ่งปันข้อมูลและความรู้ที่ได้จากงานวิจัยและประสบการณ์ของผมและทีมงานเท่านั้น โดย มุ่งหวังอย่างเต็มที่ๆจะให้ท่านได้ตัดสินใจในการดูแลสุขภาพจากการวิเคราะห์และปรึกษาแพทย์ประจำตัวของท่านเอง ......... 10 ก.พ. 2560 อุดม รินคำ ภ.3065)
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
ตามรอยเท้าพ่อ ตอนที่ 100 "พระอัจฉริยภาพด้านสิ่งประดิษฐ์...นายช่างใหญ่แห่งแผ่นดิน"
2/08/2017
คาวตองสร้างภูมิคุ้มกันให้คุณแม่เสงี่ยม จันทบุรี
มีกรณีศึกษาที่ผม (ภ อุดม รินคำ) พบมาอยากเอามาเล่าสู่กันฟัง ส่วนการวิเคราะห์จะลองให้ท่านลองตรองดูก่อน พรุ่งนี้ผมจะอธิบายในแนวทางของผม ดูว่าจะสอดคล้องกันไหมนะครับ.............คุณแม่ เสงี่ยม อายุ 66 ปี บ้านคลองเทรา ตำบลเขาแก้ว อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เบอร์โทร 086-1486xxx มีอาชีพเป็นเกษตรกร มีปัญหาเรื่องสุขภาพความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วน ไขมันอุดตันเส้นเลือด จุกเสียดที่หน้าท้องบริเวณลิ้นปี ปวดหลังปวดขา ขับถ่ายไม่เป็นปกติสามวันถ่ายที แต่ปัญหาเยอะที่สุดคือโรคความดันสูง เพราะทำงานไม่สะดวกก้มหน้าก็ไม่ค่อยได้ เซ วิงเวียน พอได้ฟังทางวิทยุก็จดเบอร์โทรซื้อเลย ซื้อมากิน วันแรกมีอาการขับถ่ายเหมือนคนท้องเสียอยู่สองสามวัน แต่ไม่มีอาการเหนื่อยเพลียเลย แต่วันแรกถ่ายออกมาเยอะมากๆเหม็นมากๆ เหมือนกลิ่นเหม็นเน่า สองสามวันค่อยเป็นปกติ ตอนนี้ถ่ายเป็นปกติแล้ว อาการจุกเสียดไม่มีอีกเลย อาการจุกแน่นที่ลิ้นปีที่เคยเป็นไม่มีอาการอีกเลย ความดันก็ปกติ หมอนัดตรวจทุกอย่างปกติ หัวใจก็ปกติ กินคาวตอง หมดแค่ 15 วัน อาการที่ป่วยหลายๆอย่างเกือบเป็นปกติแล้ว ทำงานก็ทำได้ดีขึ้นมาก ได้ให้คาวตอง กับลูกสาวกินด้วยเพราะเลือดลมไม่ค่อยดี ประจำเดือนมาน้อยมากๆ เป็นผื่นแดงตามตัว ตอนนี้ลูกสาวก็ดีขึ้นแล้ว ตอนนี้กินไปได้สองเดือนแล้ว ดีก็จะกินต่อไปเรื่อยๆ
.....สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
.....สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
คาวตองสร้างภูมิคุ้มกันให้คุณแม่มนทา จันทบุรี
http://2travel4.blogspot.com/2017/02/blog-post_97.html?m=1
มีกรณีศึกษาที่ผม (ภ อุดม รินคำ) พบมาอยากเอามาเล่าสู่กันฟัง
คุณแม่ มนทา อายุ 56 ปี หมู่บ้านยางระโหง ตำบลเขาวิถี อำเภอเขาตระหง่าน จังหวัดจันทบุรี เบอร์โทร 085-4368xxx มีอาชีพค้าขาย มีปัญหาเรื่องสุขภาพคือ ปวดขามายี่สิบกว่าปี ปวดตามตัว มึนชา มีระดูขาว ไปหาหมอบางที่บอกเป็นกระดูกทับเส้น บางที่บอกไขข้อกระดูกเสื่อม หายากินก็เป็นๆหายๆ เวลาปวดมากที่สุดบริเวณขาคือตอนตื่นนอนตอนเช้ามันปวดมากๆต้องหาน้ำมันมานวดก่อน อาการชามือคืองอไม่ได้กำไม่ได้ เจ็บก็ไม่รู้สึก พอได้มาฟังรายการวิทยุเรื่องคาวตอง ก็อยากกินอยากหาย พอมีเงินก็โทรสั่งซื้อเลย กินวันแรกก็มีอาการมึนชาที่หัว เหงื่อออกมาเยอะมากๆเต็มหน้าเลย ก็กินไปเรื่อยๆ มีคนมาบอกให้หยุดกินนะแต่ เราอยากหายก็กินต่อ ตอนกินเดือนที่สองนี่แหละ ยิ่งกระทุ้งออกมาเยอะกว่าเดือนที่หนึ่งคือ กินเดือนที่สองปวดหลังมากๆ ท้องก็อืด ท้องป่องออกมา เหมือนจับไข้ด้วย ปวดหลังจนนอนไม่ได้ ผ่านไปได้สามวันอาการทุกๆอย่างมันเริ่มคลายตัวลง ตัวเบาขึ้น ขับถ่ายก็ดีขึ้น อาการที่ป่วยหลายๆอย่างมันดีขึ้น ตอนนี้กินไปสองเดือนแล้ว
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
มีกรณีศึกษาที่ผม (ภ อุดม รินคำ) พบมาอยากเอามาเล่าสู่กันฟัง
คุณแม่ มนทา อายุ 56 ปี หมู่บ้านยางระโหง ตำบลเขาวิถี อำเภอเขาตระหง่าน จังหวัดจันทบุรี เบอร์โทร 085-4368xxx มีอาชีพค้าขาย มีปัญหาเรื่องสุขภาพคือ ปวดขามายี่สิบกว่าปี ปวดตามตัว มึนชา มีระดูขาว ไปหาหมอบางที่บอกเป็นกระดูกทับเส้น บางที่บอกไขข้อกระดูกเสื่อม หายากินก็เป็นๆหายๆ เวลาปวดมากที่สุดบริเวณขาคือตอนตื่นนอนตอนเช้ามันปวดมากๆต้องหาน้ำมันมานวดก่อน อาการชามือคืองอไม่ได้กำไม่ได้ เจ็บก็ไม่รู้สึก พอได้มาฟังรายการวิทยุเรื่องคาวตอง ก็อยากกินอยากหาย พอมีเงินก็โทรสั่งซื้อเลย กินวันแรกก็มีอาการมึนชาที่หัว เหงื่อออกมาเยอะมากๆเต็มหน้าเลย ก็กินไปเรื่อยๆ มีคนมาบอกให้หยุดกินนะแต่ เราอยากหายก็กินต่อ ตอนกินเดือนที่สองนี่แหละ ยิ่งกระทุ้งออกมาเยอะกว่าเดือนที่หนึ่งคือ กินเดือนที่สองปวดหลังมากๆ ท้องก็อืด ท้องป่องออกมา เหมือนจับไข้ด้วย ปวดหลังจนนอนไม่ได้ ผ่านไปได้สามวันอาการทุกๆอย่างมันเริ่มคลายตัวลง ตัวเบาขึ้น ขับถ่ายก็ดีขึ้น อาการที่ป่วยหลายๆอย่างมันดีขึ้น ตอนนี้กินไปสองเดือนแล้ว
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
คาวตองสร้างภูมิคุ้มกันให้คุณแม่มนทา จันทบุรี
มีกรณีศึกษาที่ผม (ภ อุดม รินคำ) พบมาอยากเอามาเล่าสู่กันฟัง
คุณแม่ มนทา อายุ 56 ปี หมู่บ้านยางระโหง ตำบลเขาวิถี อำเภอเขาตระหง่าน จังหวัดจันทบุรี เบอร์โทร 085-4368xxx มีอาชีพค้าขาย มีปัญหาเรื่องสุขภาพคือ ปวดขามายี่สิบกว่าปี ปวดตามตัว มึนชา มีระดูขาว ไปหาหมอบางที่บอกเป็นกระดูกทับเส้น บางที่บอกไขข้อกระดูกเสื่อม หายากินก็เป็นๆหายๆ เวลาปวดมากที่สุดบริเวณขาคือตอนตื่นนอนตอนเช้ามันปวดมากๆต้องหาน้ำมันมานวดก่อน อาการชามือคืองอไม่ได้กำไม่ได้ เจ็บก็ไม่รู้สึก พอได้มาฟังรายการวิทยุเรื่องคาวตอง ก็อยากกินอยากหาย พอมีเงินก็โทรสั่งซื้อเลย กินวันแรกก็มีอาการมึนชาที่หัว เหงื่อออกมาเยอะมากๆเต็มหน้าเลย ก็กินไปเรื่อยๆ มีคนมาบอกให้หยุดกินนะแต่ เราอยากหายก็กินต่อ ตอนกินเดือนที่สองนี่แหละ ยิ่งกระทุ้งออกมาเยอะกว่าเดือนที่หนึ่งคือ กินเดือนที่สองปวดหลังมากๆ ท้องก็อืด ท้องป่องออกมา เหมือนจับไข้ด้วย ปวดหลังจนนอนไม่ได้ ผ่านไปได้สามวันอาการทุกๆอย่างมันเริ่มคลายตัวลง ตัวเบาขึ้น ขับถ่ายก็ดีขึ้น อาการที่ป่วยหลายๆอย่างมันดีขึ้น ตอนนี้กินไปสองเดือนแล้ว
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
คุณแม่ มนทา อายุ 56 ปี หมู่บ้านยางระโหง ตำบลเขาวิถี อำเภอเขาตระหง่าน จังหวัดจันทบุรี เบอร์โทร 085-4368xxx มีอาชีพค้าขาย มีปัญหาเรื่องสุขภาพคือ ปวดขามายี่สิบกว่าปี ปวดตามตัว มึนชา มีระดูขาว ไปหาหมอบางที่บอกเป็นกระดูกทับเส้น บางที่บอกไขข้อกระดูกเสื่อม หายากินก็เป็นๆหายๆ เวลาปวดมากที่สุดบริเวณขาคือตอนตื่นนอนตอนเช้ามันปวดมากๆต้องหาน้ำมันมานวดก่อน อาการชามือคืองอไม่ได้กำไม่ได้ เจ็บก็ไม่รู้สึก พอได้มาฟังรายการวิทยุเรื่องคาวตอง ก็อยากกินอยากหาย พอมีเงินก็โทรสั่งซื้อเลย กินวันแรกก็มีอาการมึนชาที่หัว เหงื่อออกมาเยอะมากๆเต็มหน้าเลย ก็กินไปเรื่อยๆ มีคนมาบอกให้หยุดกินนะแต่ เราอยากหายก็กินต่อ ตอนกินเดือนที่สองนี่แหละ ยิ่งกระทุ้งออกมาเยอะกว่าเดือนที่หนึ่งคือ กินเดือนที่สองปวดหลังมากๆ ท้องก็อืด ท้องป่องออกมา เหมือนจับไข้ด้วย ปวดหลังจนนอนไม่ได้ ผ่านไปได้สามวันอาการทุกๆอย่างมันเริ่มคลายตัวลง ตัวเบาขึ้น ขับถ่ายก็ดีขึ้น อาการที่ป่วยหลายๆอย่างมันดีขึ้น ตอนนี้กินไปสองเดือนแล้ว
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
คาวตองสร้างภูมิให้คุณแม่ต้อ มหาสารคาม
คุณแม่ต้อ อายุ 77 ปี บ้านมะโม ตำบลหนองซอน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม มีปัญหาสุขภาพคือ มันเจ็บมันปวดไปทั้งร่างกายลุกเดินไม่ได้ ไปหาหมอ เค้าบอกว่าเป็นโรคกระดูกผุ นอนอย่างเดียวกินแล้วก็นอนทรมานมาก ใครมาจับตัวก็ไม่ได้มันเจ็บไปหมด แค่จะขยับตัวเองก็ยังเจ็บ เป็นมาเข้าปีที่ 3 แล้ว ก่อนจะมาเจอ คาวตองฯ เป็นมากๆอยู่ 3 เดือน กระดุกกระดิกตัวไม่ได้ นอนหยอดน้ำเลยทำอะไรไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ และไม่เคยคิดเลยว่าจะหายได้จากโรคนี้ จนกระทั้งลูกสาวได้ยินจากวิทยุ เค้าพูดเรื่อง คาวตองฯ ว่ามันดีลูกสาวก็เลยซื้อให้ ลุกกินยาเองก็ไม่ได้ใครจับร่างกายก็ร้องด้วยความเจ็บปวด ลูกต้องใช้วิธีจับปากของแม่ตะแคงเอาคาวตองฯป้อนทีล่ะนิด ให้กินทุกวันประมาณ 3-4วันมันค่อยๆดีขึ้นสามารถขยับตัวเองได้ และพยุงตัวเองนั่งได้ ผ่านไปเกือบอาทิตย์ที่สามลุกขึ้นเดินได้ ลุกทำงานบ้านได้ ลูกสาวก็โทรสั่งซื้อคาวตองฯให้เอามาให้พี่น้องกันหลายคน ใครป่วยก็ดีขึ้นกันทุกคน เพราะหลายคนที่เอาคาวตองฯ ไปกินเขาป่วยไม่มากอาการเลยดีขึ้นเร็ว ตอนนี้แม่ก็กินคาวตองนไปสองเดือนแล้ว ชาวบ้านเห็นกลับมาเดินได้ต่างพากันตกใจเพราะหลายๆคนเค้าบอกแม่คงไม่รอดแน่ๆ ก็ดีใจมากๆที่ได้กิน คาวตองฯนี้ ชีวิตมันไม่ทรมานอีกต่อไปแล้ว .................................. ผมสนใจเคสแบบคุณแม่ต้อมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีหลายรายที่หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดูกพรุน(Oteoporosis) ผู้หญิงอายุมากขนาดนี้ คงรักษาให้หายไม่ได้ ต้องหาวิธีที่จะอยู่กับโรคที่ทรมานร่างกายจนกว่าจะหมดลมหายใจ คุณแม่ต้ออายุ 77 ปี ผ่านวัยทองหรือวัยหมดระดู(อายุ 40-50 ปี)ไปนานแล้ว ช่วงนั้นมดลูกจะเริ่มฝ่อ ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิง ในร่างกายค่อยๆหมดไป เกิดความผิดปกติในร่างกายคืออาการร้อนวูบวาบตามตัวและใบหน้า ระดูมาไม่ปกติ เครียด อารมณ์แปรปรวน และอาการมากมายที่คิดไม่ถึง สิ่งที่วงการวิทยาศาสตร์ทำเพื่อช่วยคนหมดระดูอย่างหนึ่งคือ การให้ฮอร์โมนทดแทน(Hormone replacement therapy) แต่วิธีการดังกล่าวก็สร้างปัญหาติดตามมาได้ ในเว็บไซด์ของ Dr. Mercola (http://mercola.fileburst.com/PDF/SpecialReports/Menopause%20Special%20Report.pdf)
ซึ่ง Dr. Mercola ที่เป็นเจ้าของเว็บไซด์เกี่ยวกับการรักษาแบบธรรมชาติที่โด่งดังที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ชี้ให้เห็นว่า การป้องกันโดยการเปลี่ยนวิถีการดำรง
ชีวิตและอาหารการกิน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับโรควัยทองที่กำลังจะมาถึง ส่วนวิธีการรักษาที่วงการวิทยาศาสตร์ใช้ปฎิบัติตลอดมาคือ การให้ฮอร์โมนทดแทน กลับได้รับการพิสูจน์ชัดเจนว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นอันตรายและควรหลีกเลี่ยงเช่น
1. Premarin – ยาพรีมารินเป็นฮอร์โมน estrogen ที่สกัดได้จากปัสสาวะของม้าเพศเมีย ตอนนี้เรารู้แล้วว่ายานี้ไปเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
2. การรักษาโดยใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน – ยานี้ใช้ป้องกันอาการที่เกิดจากวัยทองบางอย่างได้ดี แต่ก็มีการพิสูจน์ชัดเจนว่ามีผลเสียที่ทำให้คนกินเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมมากขึ้น และยังทำให้ระดับอินซูลินเพิ่มขึ้นด้วย
3. Provera – ยาตัวนี้เป็น ฮอร์โมนโปเจสตินที่สังเคราะห์มาจากโปรเจสเตอโรน ที่มีพิษร้ายกว่าพรีมารินเสียอีก งานวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วยืนยันว่า ยานี้ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด(blood clotting)ได้
ในระยะยาว การให้ฮอร์โมนทดแทนส่งผลให้เกิดจากไหลของประจำเดือนและมีความดันโลหิตสูง การหยุดการกินฮอร์โมนทดแทนของคนวัยทองหลายล้านคนนาน 1 ปี ทำให้ลดการเกิดมะเร็งได้ 7% จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันผู้หญิงจำนวนมากหลีกเลี่ยงการกินเอสโตรเจนในการจัดการกับภาวะวัยทอง
1. ข้อมูลที่ผมเขียนข้างต้นซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลสรุปที่ผมนำมาจากต่างประเทศ หากท่านสามารถปฏิบัติตามได้ก็เป็นเรื่องดี แต่พวกเราส่วนใหญ่อาจทำตามได้ยากเช่นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำรงชีวิต หรือการเปลี่ยนแปลงการกิน เนื่องจากพฤติกรรมของคนนั้นเป็นผลมาจากการทำซ้ำๆนานๆตลอดชีวิต การฝืนทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคยทำมาก่อนย่อมเป็นเรื่องยาก ส่วนเรื่องอาหารการกินก็เปลี่ยนได้ยากแต่คิดว่า ง่ายกว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมแน่นอน แต่ไม่ว่าท่านสามารถเปลี่ยนทั้งสองประการได้ ในบทความที่ผมนำมาเขียนให้อ่านก็ไม่ได้บอกว่าเปลี่ยนอย่างไรเป็นสูตรตายตัว และใช้เวลานานเท่าใดจึงจะเห็นผล เป็นการนำเสนอในหลักการกว้างๆมากกว่า ซึ่งเราอาจมองได้หลายมุมว่าจริงหรือไม่จริง แต่หากลองย้อนกลับไปอ่านข้อมูล(ดิบ)ที่ผมนำเรื่องของคุณแม่ต้อ มาเสนอให้พิจารณาข้างต้นด้วยใจที่เป็นธรรม หลายท่านคงตัดสินใจได้ว่า หากเรากินอาหารอย่างหนึ่งครั้งละไม่ถึงกรัม(ผักคาวตองถือเป็นอาหารในการจำแนกประเภทของ อย.) ผักคาวตองได้รับการวิจัยจาก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์(สถาบันวิจัยสมุนไพร. (2553). สมุนไพรน่ารู้(1) ผักคาวตอง ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม พ.ศ. 2553. โรงพิมพ์สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ. กรุงเทพฯ : สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข) ว่าในการทดลองกับหนูทดลองก็ไม่มีพิษและปลอดภัยในการรับประทานมาตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศไทยหลายจังหวัด ผักคาวตองกินเป็นผักแกล้มน้ำพริก หรืออาหารประเภทยำแบบสลัดเป็นที่นิยมมาช้านาน โดยไม่เคยมีรายงานความเป็นพิษใดๆ หากินคาวตองวันละ 1 กรัมเพื่อใช้เป็นการแพทย์ทางเสริมกับคนวัยทอง โดยไม่กังวลว่าจะเกิดพิษตามงานวิจัยที่กล่าวมา ถึงเวลาถ่ายอุจจาระ เราก็ขับทิ้งไปพร้อมกับกากอุจจาระ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา หากท่านมีเงินซื้อคาวตองฯในตำรับต่างๆที่ขายกันในรูปสารเสริมอาหารมากมายหลายยี่ห้อ การมีกระแสกล่าวหาว่าคนกินผักคาวตองแล้วท้องเสีย เกิดโรคไตหรือติดเชื้อในกระแสเลือดดังที่เป็นข่าวมาในอดีตน่าจะเป็นการจงใจสร้างข่าวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีหรือเป็นการขัดแย้งในการค้าในระดับประเทศหรือนานาชาติมากกว่า ซึ่งปัจจุบันที่เรื่องของสมุนไพรถูกผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ข่าวดังกล่าวก็ไม่ปรากฎอีกเลยซึ่งหากคาวตองฯมีผลข้างเคียงระดับติดเชื้อในกระแสเลือดจริง คาวตองฯที่ยังคงมีขายในท้องตลาดมาตลอดกว่าสิบปีต้องมีรายงานความเป็นพิษออกมาเป็นระยะแน่นอน เหมือนยา Rofecoxib (ชื่อการค้าว่า Vioox ของบริษัทเมิร์ค แห่งสหรัฐอเมริกา) ที่หลังจกได้รับอนุญาตจาก อย.แห่งสหรัฐอเมริกาทำตลาดได้ ในปี 2542 ก็ถูกถอดทะเบียนยาออกในวันที่ 30 กันยายน ปี 2547 หลังจากมีลูกค้านิยมใช้ยานี้ถึง 80 ล้านคน แล้วส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพของคนจำนวนมาก คนอเมริกันที่กินยานี้ราว 25 ล้านคน มีจำนวนถึง 38,000 คนเสียที่ชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลวมีความเกี่ยวพันกับการกินยาตัวนี้ บริษัทเมิร์ค ถูกฟ้องร้องในข้อหาปลอมแปลงผลการศึกษาวิจัย เพื่อทำให้แพทย์และผู้ป่วยเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของยา ขัดขวางการเปิดเผยข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์จาก อย. และหลีกเลี่ยงกฎหมายควบคุมยา ยา Vioox ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงซึ่งบางคนกล่าวว่า เป็นหายนะร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงแต่เรื่องนี้จะส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตคนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เท่านั้น มันยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อ อย.ของสหรัฐอเมริกาและแคนนาดาอีกด้วย
จากกรณียา Vioox ที่เป็นของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ของโลก แม้จะมีทุนมหาศ่าล มีกำลังภายในทั้งใน อย.แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จะเห็นได้ว่าหากยาไม่มีคุณภาพหรือมีผลข้างเคียงรุนแรงจริง ก็ไม่สามารถทนต่อการตรวจสอบของมหาชนได้ ผักพื้นบ้านไทยๆที่จัดเป็นอาหารโดย อย.ไทยมาตลอด มีประวัติการใช้บริโภคตามท้องถิ่นของภาคเหนือและอีสานมานานนับพันปี ก็ไม่น่าจะเกิดผลข้างเคียงที่น่ากังวลใดๆ และหากมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ก็คงมีการรายงานจากภาคประชาชนในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เหมือนกรณีที่เกิดขึ้นกับ Vioox ที่มีรายงานในเว็บไซด์ drugwatch นี้ (https://www.drugwatch.com/vioxx/recall/)
(Disclaimer: บทความทั้งหมดข้างต้นนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวของผม เว้นเสียแต่จะเขียนเป็นอย่างอื่นไว้ ข้อมูลดังกล่าวนี้ ไม่ได้มุ่งหวังให้ใช้แทนที่คำแนะนำแพทย์เจ้าของไข้หรือให้ใช้เป็นคำแนะนำทางการแพทย์ แต่ต้องการแบ่งปันข้อมูลและความรู้ที่ได้จากงานวิจัยและประสบการณ์ของผมและทีมงานเท่านั้น โดย มุ่งหวังอย่างเต็มที่ๆจะให้ท่านได้ตัดสินใจในการดูแลสุขภาพจากการวิเคราะห์และปรึกษาแพทย์ประจำตัวของท่านเอง
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
ซึ่ง Dr. Mercola ที่เป็นเจ้าของเว็บไซด์เกี่ยวกับการรักษาแบบธรรมชาติที่โด่งดังที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ชี้ให้เห็นว่า การป้องกันโดยการเปลี่ยนวิถีการดำรง
ชีวิตและอาหารการกิน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับโรควัยทองที่กำลังจะมาถึง ส่วนวิธีการรักษาที่วงการวิทยาศาสตร์ใช้ปฎิบัติตลอดมาคือ การให้ฮอร์โมนทดแทน กลับได้รับการพิสูจน์ชัดเจนว่า แท้ที่จริงแล้วเป็นอันตรายและควรหลีกเลี่ยงเช่น
1. Premarin – ยาพรีมารินเป็นฮอร์โมน estrogen ที่สกัดได้จากปัสสาวะของม้าเพศเมีย ตอนนี้เรารู้แล้วว่ายานี้ไปเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
2. การรักษาโดยใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน – ยานี้ใช้ป้องกันอาการที่เกิดจากวัยทองบางอย่างได้ดี แต่ก็มีการพิสูจน์ชัดเจนว่ามีผลเสียที่ทำให้คนกินเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมมากขึ้น และยังทำให้ระดับอินซูลินเพิ่มขึ้นด้วย
3. Provera – ยาตัวนี้เป็น ฮอร์โมนโปเจสตินที่สังเคราะห์มาจากโปรเจสเตอโรน ที่มีพิษร้ายกว่าพรีมารินเสียอีก งานวิจัยที่ตีพิมพ์แล้วยืนยันว่า ยานี้ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด(blood clotting)ได้
ในระยะยาว การให้ฮอร์โมนทดแทนส่งผลให้เกิดจากไหลของประจำเดือนและมีความดันโลหิตสูง การหยุดการกินฮอร์โมนทดแทนของคนวัยทองหลายล้านคนนาน 1 ปี ทำให้ลดการเกิดมะเร็งได้ 7% จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันผู้หญิงจำนวนมากหลีกเลี่ยงการกินเอสโตรเจนในการจัดการกับภาวะวัยทอง
1. ข้อมูลที่ผมเขียนข้างต้นซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลสรุปที่ผมนำมาจากต่างประเทศ หากท่านสามารถปฏิบัติตามได้ก็เป็นเรื่องดี แต่พวกเราส่วนใหญ่อาจทำตามได้ยากเช่นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำรงชีวิต หรือการเปลี่ยนแปลงการกิน เนื่องจากพฤติกรรมของคนนั้นเป็นผลมาจากการทำซ้ำๆนานๆตลอดชีวิต การฝืนทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคยทำมาก่อนย่อมเป็นเรื่องยาก ส่วนเรื่องอาหารการกินก็เปลี่ยนได้ยากแต่คิดว่า ง่ายกว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมแน่นอน แต่ไม่ว่าท่านสามารถเปลี่ยนทั้งสองประการได้ ในบทความที่ผมนำมาเขียนให้อ่านก็ไม่ได้บอกว่าเปลี่ยนอย่างไรเป็นสูตรตายตัว และใช้เวลานานเท่าใดจึงจะเห็นผล เป็นการนำเสนอในหลักการกว้างๆมากกว่า ซึ่งเราอาจมองได้หลายมุมว่าจริงหรือไม่จริง แต่หากลองย้อนกลับไปอ่านข้อมูล(ดิบ)ที่ผมนำเรื่องของคุณแม่ต้อ มาเสนอให้พิจารณาข้างต้นด้วยใจที่เป็นธรรม หลายท่านคงตัดสินใจได้ว่า หากเรากินอาหารอย่างหนึ่งครั้งละไม่ถึงกรัม(ผักคาวตองถือเป็นอาหารในการจำแนกประเภทของ อย.) ผักคาวตองได้รับการวิจัยจาก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์(สถาบันวิจัยสมุนไพร. (2553). สมุนไพรน่ารู้(1) ผักคาวตอง ฉบับปรับปรุงเพิ่มเติม พ.ศ. 2553. โรงพิมพ์สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ. กรุงเทพฯ : สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข) ว่าในการทดลองกับหนูทดลองก็ไม่มีพิษและปลอดภัยในการรับประทานมาตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศไทยหลายจังหวัด ผักคาวตองกินเป็นผักแกล้มน้ำพริก หรืออาหารประเภทยำแบบสลัดเป็นที่นิยมมาช้านาน โดยไม่เคยมีรายงานความเป็นพิษใดๆ หากินคาวตองวันละ 1 กรัมเพื่อใช้เป็นการแพทย์ทางเสริมกับคนวัยทอง โดยไม่กังวลว่าจะเกิดพิษตามงานวิจัยที่กล่าวมา ถึงเวลาถ่ายอุจจาระ เราก็ขับทิ้งไปพร้อมกับกากอุจจาระ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา หากท่านมีเงินซื้อคาวตองฯในตำรับต่างๆที่ขายกันในรูปสารเสริมอาหารมากมายหลายยี่ห้อ การมีกระแสกล่าวหาว่าคนกินผักคาวตองแล้วท้องเสีย เกิดโรคไตหรือติดเชื้อในกระแสเลือดดังที่เป็นข่าวมาในอดีตน่าจะเป็นการจงใจสร้างข่าวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีหรือเป็นการขัดแย้งในการค้าในระดับประเทศหรือนานาชาติมากกว่า ซึ่งปัจจุบันที่เรื่องของสมุนไพรถูกผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ข่าวดังกล่าวก็ไม่ปรากฎอีกเลยซึ่งหากคาวตองฯมีผลข้างเคียงระดับติดเชื้อในกระแสเลือดจริง คาวตองฯที่ยังคงมีขายในท้องตลาดมาตลอดกว่าสิบปีต้องมีรายงานความเป็นพิษออกมาเป็นระยะแน่นอน เหมือนยา Rofecoxib (ชื่อการค้าว่า Vioox ของบริษัทเมิร์ค แห่งสหรัฐอเมริกา) ที่หลังจกได้รับอนุญาตจาก อย.แห่งสหรัฐอเมริกาทำตลาดได้ ในปี 2542 ก็ถูกถอดทะเบียนยาออกในวันที่ 30 กันยายน ปี 2547 หลังจากมีลูกค้านิยมใช้ยานี้ถึง 80 ล้านคน แล้วส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพของคนจำนวนมาก คนอเมริกันที่กินยานี้ราว 25 ล้านคน มีจำนวนถึง 38,000 คนเสียที่ชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลวมีความเกี่ยวพันกับการกินยาตัวนี้ บริษัทเมิร์ค ถูกฟ้องร้องในข้อหาปลอมแปลงผลการศึกษาวิจัย เพื่อทำให้แพทย์และผู้ป่วยเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของยา ขัดขวางการเปิดเผยข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์จาก อย. และหลีกเลี่ยงกฎหมายควบคุมยา ยา Vioox ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงซึ่งบางคนกล่าวว่า เป็นหายนะร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงแต่เรื่องนี้จะส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตคนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เท่านั้น มันยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อ อย.ของสหรัฐอเมริกาและแคนนาดาอีกด้วย
จากกรณียา Vioox ที่เป็นของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ของโลก แม้จะมีทุนมหาศ่าล มีกำลังภายในทั้งใน อย.แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จะเห็นได้ว่าหากยาไม่มีคุณภาพหรือมีผลข้างเคียงรุนแรงจริง ก็ไม่สามารถทนต่อการตรวจสอบของมหาชนได้ ผักพื้นบ้านไทยๆที่จัดเป็นอาหารโดย อย.ไทยมาตลอด มีประวัติการใช้บริโภคตามท้องถิ่นของภาคเหนือและอีสานมานานนับพันปี ก็ไม่น่าจะเกิดผลข้างเคียงที่น่ากังวลใดๆ และหากมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ก็คงมีการรายงานจากภาคประชาชนในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เหมือนกรณีที่เกิดขึ้นกับ Vioox ที่มีรายงานในเว็บไซด์ drugwatch นี้ (https://www.drugwatch.com/vioxx/recall/)
(Disclaimer: บทความทั้งหมดข้างต้นนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวของผม เว้นเสียแต่จะเขียนเป็นอย่างอื่นไว้ ข้อมูลดังกล่าวนี้ ไม่ได้มุ่งหวังให้ใช้แทนที่คำแนะนำแพทย์เจ้าของไข้หรือให้ใช้เป็นคำแนะนำทางการแพทย์ แต่ต้องการแบ่งปันข้อมูลและความรู้ที่ได้จากงานวิจัยและประสบการณ์ของผมและทีมงานเท่านั้น โดย มุ่งหวังอย่างเต็มที่ๆจะให้ท่านได้ตัดสินใจในการดูแลสุขภาพจากการวิเคราะห์และปรึกษาแพทย์ประจำตัวของท่านเอง
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
2/05/2017
คาวตองกับ Dr Roger โดย ภ อุดม รินคำ 3 กพ 60
วันนี้ (3 ก.พ. 60) ผมและทีมแพทย์ ได้นัดผู้ป่วยที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งจากประเทศสหรัฐอเมริกาชื่อ ดร. Roger ท่านเดินทางมาพบพวกเราที่เชียงใหม่ ดร. Roger ป่วยเป็น ALS(amyotrophic lateral sclerosis อะไมโอโทรฟิก แลเทอรัล สเกลอโรซิส หรือ โรคของเซลล์ประสาทสั่งการ) โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่วงการแพทย์ยังไม่มีวิธีรักษา หลังจากที่รักษาตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนมาทั่วแต่อาการกลับทรุดลงเรื่อยๆ สามสัปดาห์ก่อน ดร. Roger ต้องใช้เครื่องออกซิเจนแบบสพายติดไปกับเก้าอี้รถเข็นไป 3 ครั้ง ในระหว่างปรึกษากันครึ่ง ชม. ในที่สุดเขาเปิดใจรับคาวตองฯแคปซูลไปทดลองกินดู เราแนะนำเขากินครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 2 ครั้งก่อนอาหาร สัปดาห์ต่อมาที่เขามาพบทีมแพทย์ของเรา เขาบอกว่าการหายใจดีขึ้น โดยระหว่างการสนทนาราวครึ่ง ชม.เขาใช้เครื่องช่วยหายใจ 1 ครั้ง วันนี้ผมพบเขาเพื่อ สอบถามอาการ เจ็บป่วย และถือโอกาสเล่าให้ฟังถึงกลไกการทำงานของคาวตองฯ ครั้งนี้บอกเขาว่า ในแคปซูลคาวตองฯไม่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิต(No Viable Cell) หากเขาจะกิน Probiotics ก็ไม่ต้องห่วงว่าเชื้อจะต้านกัน ผมและทีมแพทย์นั่งคุยกับ ดร. Roger 45 นาที ปรากฎว่าเขาไม่ได้หยิบครอบจมูกเพื่อใช้ออกซิเจนมาใช้เลย ดร. Roger บอกจากปากเขาว่า ตั้งแต่มารักษากับพวกเราที่เมืองไทย เขาหลับได้ลึกขึ้น(ดร. Roger บอกเรื่องการนอนเป็นเรื่องแรก สงสัยจะประทับใจเรื่องการได้นอนมาก) เขาสามารถหายใจได้ดีขึ้น กำมือได้ดีขึ้น มีกำลังขามากขึ้น ผมจับมือ(Shake hand)เขา ก็พบว่าเขาบีบมือได้เกือบเหมือนคนปกติ ...ดร. Roger บอกผมกับทีมแพทย์ว่า เขาอยากเอาตัวเองทดสอบคาวตองฯผมเพื่อให้เป็นกรณีศึกษา นำเอาประสบการณ์ไปช่วยเหลือกับผู้ป่วยคนอื่นๆต่อไป ก่อนจากกันเขาขอเบอร์ E-mail ผมด้วย ท่าทางเขากระตือรือล้นที่จะรู้เรื่องคาวตองฯมาก เคส ดร. Roger นี้ ผมคิดว่าจะได้มีข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไปอีกหลายครั้งครับ(Disclaimer: บทความทั้งหมดข้างต้นนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวของผม เว้นเสียแต่จะเขียนเป็นอย่างอื่นไว้ ข้อมูลดังกล่าวนี้ ไม่ได้มุ่งหวังให้ใช้แทนที่คำแนะนำแพทย์เจ้าของไข้หรือให้ใช้เป็นคำแนะนำทางการแพทย์ แต่ต้องการแบ่งปันข้อมูลและความรู้ที่ได้จากงานวิจัยและประสบการณ์ของผมและทีมงานเท่านั้น โดย มุ่งหวังอย่างเต็มที่ๆจะให้ท่านได้ตัดสินใจในการดูแลสุขภาพจากการวิเคราะห์และปรึกษาแพทย์ประจำตัวของท่านเอง
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................ 3 ก.พ. 2560 อุดม รินคำ ภ.3065)
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพรคาวตองนี้ ................................ 3 ก.พ. 2560 อุดม รินคำ ภ.3065)
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
คาวตองกับโรคต่างๆ โดย ภ อุดมรินคำ
คาวตองฯกับโรคต่างๆ
ในอดีตสิบกว่าปีก่อน เราเคยใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่มีสรรพคุณโดดเด่นมากเนื่องจากออกฤทธิ์หลายอย่างที่ค่อนข้างครอบคลุมโรคที่คนเป็นกันทั้งแก้ไข้ เจริญอาหาร แก้หวัด แก้เจ็บคอเป็นต้น
แต่ในบรรดาสมุนไพรทั้งหมดในปัจจุบัน คงจะหาสมุนไพรอะไรที่มีสรรพคุณดีเด่นเทียบเท่ากับสมุนไพรคาวตองฯได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อนำสมุนไพรคาวตองฯมาหมักชีวภาพที่ควบคุมสภาวะเฉพาะ จึงทำให้เกิดสารออกฤทธิ์กลุ่มใหม่นอกจากสารพฤกษเคมีเดิม เช่น
1. จุลินทรีย์ที่เป็นแบคทีเรีย ชนิด Lactobacillus casei และ L. plantarum
2. จุลินทรีย์ที่เป็นยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ทำให้ได้การออกฤทธิ์อื่นเพิ่มครอบคลุมกลุ่มโรคสำคัญๆที่เกิดขึ้นทั้งในคนพืชและสัตว์
สำหรับจุลินทรีย์ทั้งสองข้อที่กล่าวข้างต้น ปัจจุบันได้ถูกจัดเป็นสมุนไพร ตามความหมายของ พรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 มาตรา 3 จุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัสทั้งสองสายพันธ์ตามข้อ 1 ที่ผู้เขียนเคยศึกษาวิจัยโดยการนำไปทดสอบการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในคนและสัตว์ทดลองแล้วพบว่า ทั้งเซลล์ตายและ polynucleotides ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสทั้งสองสายพันธุ์ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของหนูทดลองได้ดี โดยทำให้เม็ดเลือดขาวของหนูทดลองทำลายเชื้อก่อโรคร้ายแรงได้หลายชนิด ส่วนจุลินทรีย์ชนิดยีสต์ Saccharomyces cerevisiae จะมีสารเบต้ากลูแคนเป็นโครงสร้างหลักของ Cell wall ซึ่งสารเบต้ากลูแคนมีคุณสมบัติกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตและปลดปล่อยสเต็มเซลล์ให้ออกมาสู่กระแสเลือดมากขึ้น สเต็มเซลล์เป็น เซลล์อ่อนที่ไม่มีหน้าที่ของเซลล์ที่เฉพาะเจาะจง สามารถแบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ได้และพร้อมที่จะเจริญเติบโต เปลี่ยนแปลงเพื่อไปทำหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งที่เฉพาะเจาะจงได้ หรือกลายไปเป็นเซลล์ของเนื้อเยื่อชนิดต่างๆในร่างกายได้ จึงถือได้ว่าสเต็มเซลล์เป็นหน่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมและรักษาตัวเองของร่างกายตลอดเวลา
ในกรณีที่คนกินคาวตองฯหมักชีวภาพ สเต็มเซลล์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากไขกระดูกก็จะรับเอาสาร polynucleotides ที่มีคุณสมบัติในการทำลายเชื้อก่อโรคหลายๆชนิดมาเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของมันด้วย ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สเต็มเซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการกินคาวตองฯ มีคุณสมบัติฟื้นฟู ซ่อมแซม และทำลายเชื้อก่อโรคไปพร้อมๆกัน ร่างกายของคนที่กินคาวตองฯจึง สเต็มเซลล์ที่ผลิตออกสู่กระแสเลือดจึงเป็นดัง “ยามีชีวิต” ที่มีสรรพคุณหลากหลายทั้งฟื้นฟู ซ่อมแซม ปรับสมดุลและทำลายเชื้อก่อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายผลิตออกมาใช้เองตลอดเวลาทันกับความต้องการ ในขนาดที่เหมาะสม และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ การที่ร่างกายผลิต “ยามีชีวิต” ออกมาใช้งานได้อย่างทันท่วงทีทุกสถานการณ์ที่กำลังเกิดความผิดปกติเพียงจุดเล็กๆก่อนที่จะสะสมลุกลามแสดงอาการของโรค จึงนับได้ว่า คาวตองฯ ออกฤทธิ์ป้องกันเหตุก่อโรคหรือป้องกันโรคและยังเป็นการรักษาโรคต่างๆได้ หรือหากพิจารณาในความหมายของการเป็นวัคซีน คาวตองฯก็คือมันเป็นวัคซีนครอบจักรวาล(Universal vaccine)อเป็นทั้งวัคซีนป้องกัน(Preventive vaccine) และวัคซีนรักษา(Therapeutic vaccine)โรคได้นั่นเอง มีหลายคนที่มีประสบการณ์ดีๆหลังจากกินคาวตองฯฯมาเล่าให้เราฟังเพื่อเป็นวิทยาทานดังนี้
1. ลุงกุน อายุ 77 ปี อ.คลองหาด จ.สระแก้ว อาชีพทำนา ปวดหลัง เคยใช้ยาฆ่าแมลง เกิดแพ้รุนแรงจนอาเจียนพุ่ง ต้องหามส่ง รพ. และได้หยุดใช้ไปเลย เป็นโรคไต มีอาการปวดหลังมากจนเดินงอหลัง ปัสสาวะเป็นสีแดงเข้ม คล้ายเลือด หมอที่ รพ.บอกว่าเป็นโรคไต เป็นมาประมาณ 1 ปี จนถึงปัจจุบันป่วยมากจนทำงานไม่ค่อยได้ กินคาวตองฯไปประมาณ 7 วัน ก็รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว หลังจากนั้น 14 วัน อาการก็ดีขึ้น อาการปวดดีขึ้นร้อยละ 80 ปัสสาวะเป็นสีใสดีแล้ว
2. คุณบุญฤทธิ์ อายุ 54 ปี ป่วยโรคไต ป่วยปี 58 เบาหวานเมื่อปี 55ไตเสื่อม 20-30 % เมื่อ มิ.ย 58 นอน รพ.นครพิงค์ 22 วัน ช็อค มีติดเชื้อในกระแสเลือด หมดสติไป ตั้งแต่วันศุกร์ 21.30 น. ฟื้น อาทิตย์เช้า ความดัน 250 เบาหวาน 220-409 จนทำให้สายตาพร่ามัว ปัสสาวะบ่อย แพทย์ใหญ่บอกว่าสิบกว่าปีนี้คนไข้แบบนี้ไม่มีใครรอด หายใจขัด แน่นหน้าอก ต้องป้อนอาหารทางสายยาง แขนสองข้างขยับไม่ได้ มีกระตุกต้องมัดติดเตียง(เนื่องจากขาดสติ) ออก รพ. ก็กินคาวตองไปสิบกว่าวัน ได้กลับไปพบหมอ ได้รับการตรวจพบว่าค่าไตดีขึ้น หมอจึงนัดอีกในเดือนถัดมา ครั้งหลังหมอบอกว่าไตกลับมาเป็นปกติแล้ว ตอนสัมภาษณ์เบาหวานเหลือ 109 ความดัน 130/86 หลับสบาย ถ่ายปกติ
(Disclaimer: บทความทั้งหมดข้างต้นนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวของผม เว้นเสียแต่จะเขียนเป็นอย่างอื่นไว้ ข้อมูลดังกล่าวนี้ ไม่ได้มุ่งหวังให้ใช้แทนที่คำแนะนำแพทย์เจ้าของไข้หรือให้ใช้เป็นคำแนะนำทางการแพทย์ แต่ต้องการแบ่งปันข้อมูลและความรู้ที่ได้จากงานวิชาการ
และสำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพคาวตองนี้)
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป
ในอดีตสิบกว่าปีก่อน เราเคยใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่มีสรรพคุณโดดเด่นมากเนื่องจากออกฤทธิ์หลายอย่างที่ค่อนข้างครอบคลุมโรคที่คนเป็นกันทั้งแก้ไข้ เจริญอาหาร แก้หวัด แก้เจ็บคอเป็นต้น
แต่ในบรรดาสมุนไพรทั้งหมดในปัจจุบัน คงจะหาสมุนไพรอะไรที่มีสรรพคุณดีเด่นเทียบเท่ากับสมุนไพรคาวตองฯได้ยาก โดยเฉพาะเมื่อนำสมุนไพรคาวตองฯมาหมักชีวภาพที่ควบคุมสภาวะเฉพาะ จึงทำให้เกิดสารออกฤทธิ์กลุ่มใหม่นอกจากสารพฤกษเคมีเดิม เช่น
1. จุลินทรีย์ที่เป็นแบคทีเรีย ชนิด Lactobacillus casei และ L. plantarum
2. จุลินทรีย์ที่เป็นยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ทำให้ได้การออกฤทธิ์อื่นเพิ่มครอบคลุมกลุ่มโรคสำคัญๆที่เกิดขึ้นทั้งในคนพืชและสัตว์
สำหรับจุลินทรีย์ทั้งสองข้อที่กล่าวข้างต้น ปัจจุบันได้ถูกจัดเป็นสมุนไพร ตามความหมายของ พรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 มาตรา 3 จุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัสทั้งสองสายพันธ์ตามข้อ 1 ที่ผู้เขียนเคยศึกษาวิจัยโดยการนำไปทดสอบการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในคนและสัตว์ทดลองแล้วพบว่า ทั้งเซลล์ตายและ polynucleotides ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสทั้งสองสายพันธุ์ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของหนูทดลองได้ดี โดยทำให้เม็ดเลือดขาวของหนูทดลองทำลายเชื้อก่อโรคร้ายแรงได้หลายชนิด ส่วนจุลินทรีย์ชนิดยีสต์ Saccharomyces cerevisiae จะมีสารเบต้ากลูแคนเป็นโครงสร้างหลักของ Cell wall ซึ่งสารเบต้ากลูแคนมีคุณสมบัติกระตุ้นไขกระดูกให้ผลิตและปลดปล่อยสเต็มเซลล์ให้ออกมาสู่กระแสเลือดมากขึ้น สเต็มเซลล์เป็น เซลล์อ่อนที่ไม่มีหน้าที่ของเซลล์ที่เฉพาะเจาะจง สามารถแบ่งตัวเองขึ้นมาใหม่ได้และพร้อมที่จะเจริญเติบโต เปลี่ยนแปลงเพื่อไปทำหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งที่เฉพาะเจาะจงได้ หรือกลายไปเป็นเซลล์ของเนื้อเยื่อชนิดต่างๆในร่างกายได้ จึงถือได้ว่าสเต็มเซลล์เป็นหน่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมและรักษาตัวเองของร่างกายตลอดเวลา
ในกรณีที่คนกินคาวตองฯหมักชีวภาพ สเต็มเซลล์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากไขกระดูกก็จะรับเอาสาร polynucleotides ที่มีคุณสมบัติในการทำลายเชื้อก่อโรคหลายๆชนิดมาเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของมันด้วย ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สเต็มเซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการกินคาวตองฯ มีคุณสมบัติฟื้นฟู ซ่อมแซม และทำลายเชื้อก่อโรคไปพร้อมๆกัน ร่างกายของคนที่กินคาวตองฯจึง สเต็มเซลล์ที่ผลิตออกสู่กระแสเลือดจึงเป็นดัง “ยามีชีวิต” ที่มีสรรพคุณหลากหลายทั้งฟื้นฟู ซ่อมแซม ปรับสมดุลและทำลายเชื้อก่อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่ร่างกายผลิตออกมาใช้เองตลอดเวลาทันกับความต้องการ ในขนาดที่เหมาะสม และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ การที่ร่างกายผลิต “ยามีชีวิต” ออกมาใช้งานได้อย่างทันท่วงทีทุกสถานการณ์ที่กำลังเกิดความผิดปกติเพียงจุดเล็กๆก่อนที่จะสะสมลุกลามแสดงอาการของโรค จึงนับได้ว่า คาวตองฯ ออกฤทธิ์ป้องกันเหตุก่อโรคหรือป้องกันโรคและยังเป็นการรักษาโรคต่างๆได้ หรือหากพิจารณาในความหมายของการเป็นวัคซีน คาวตองฯก็คือมันเป็นวัคซีนครอบจักรวาล(Universal vaccine)อเป็นทั้งวัคซีนป้องกัน(Preventive vaccine) และวัคซีนรักษา(Therapeutic vaccine)โรคได้นั่นเอง มีหลายคนที่มีประสบการณ์ดีๆหลังจากกินคาวตองฯฯมาเล่าให้เราฟังเพื่อเป็นวิทยาทานดังนี้
1. ลุงกุน อายุ 77 ปี อ.คลองหาด จ.สระแก้ว อาชีพทำนา ปวดหลัง เคยใช้ยาฆ่าแมลง เกิดแพ้รุนแรงจนอาเจียนพุ่ง ต้องหามส่ง รพ. และได้หยุดใช้ไปเลย เป็นโรคไต มีอาการปวดหลังมากจนเดินงอหลัง ปัสสาวะเป็นสีแดงเข้ม คล้ายเลือด หมอที่ รพ.บอกว่าเป็นโรคไต เป็นมาประมาณ 1 ปี จนถึงปัจจุบันป่วยมากจนทำงานไม่ค่อยได้ กินคาวตองฯไปประมาณ 7 วัน ก็รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว หลังจากนั้น 14 วัน อาการก็ดีขึ้น อาการปวดดีขึ้นร้อยละ 80 ปัสสาวะเป็นสีใสดีแล้ว
2. คุณบุญฤทธิ์ อายุ 54 ปี ป่วยโรคไต ป่วยปี 58 เบาหวานเมื่อปี 55ไตเสื่อม 20-30 % เมื่อ มิ.ย 58 นอน รพ.นครพิงค์ 22 วัน ช็อค มีติดเชื้อในกระแสเลือด หมดสติไป ตั้งแต่วันศุกร์ 21.30 น. ฟื้น อาทิตย์เช้า ความดัน 250 เบาหวาน 220-409 จนทำให้สายตาพร่ามัว ปัสสาวะบ่อย แพทย์ใหญ่บอกว่าสิบกว่าปีนี้คนไข้แบบนี้ไม่มีใครรอด หายใจขัด แน่นหน้าอก ต้องป้อนอาหารทางสายยาง แขนสองข้างขยับไม่ได้ มีกระตุกต้องมัดติดเตียง(เนื่องจากขาดสติ) ออก รพ. ก็กินคาวตองไปสิบกว่าวัน ได้กลับไปพบหมอ ได้รับการตรวจพบว่าค่าไตดีขึ้น หมอจึงนัดอีกในเดือนถัดมา ครั้งหลังหมอบอกว่าไตกลับมาเป็นปกติแล้ว ตอนสัมภาษณ์เบาหวานเหลือ 109 ความดัน 130/86 หลับสบาย ถ่ายปกติ
(Disclaimer: บทความทั้งหมดข้างต้นนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวของผม เว้นเสียแต่จะเขียนเป็นอย่างอื่นไว้ ข้อมูลดังกล่าวนี้ ไม่ได้มุ่งหวังให้ใช้แทนที่คำแนะนำแพทย์เจ้าของไข้หรือให้ใช้เป็นคำแนะนำทางการแพทย์ แต่ต้องการแบ่งปันข้อมูลและความรู้ที่ได้จากงานวิชาการ
และสำหรับท่านที่ต้องการสอบถามเพื่อความมั่นใจในในด้านต่างๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ ไลน์ส่วนตัวของ คุณอุดม หรือ ผอ ศิริลักษณ์ โทร/ไลน์ 081 980 3320 และ fb live ศิริลักษณ์ จันทรมานนท์ ผู้ใช้สมุนไพร คาวตอง เสริมภูมิคุ้มกัน มากว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ในการฝ่าฟันมะเร็งลำไส้ระยะ 3 จนหายเป็นปรกติ จึงได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยที่ซื้อและใช้สมุนไพคาวตองนี้)
หมายเหตุ: บทความข้างต้น ผู้เขียนอนุญาตให้คัดลอกไปเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานได้ โดยไม่ตัดทอนส่วนใดส่วนหนึ่ง อันจะทำให้เนื้อหาของบทความเปลี่ยนไป