9/07/2015

ประสบการณ์การจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง ฉบับคนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ด้วย IE8 and MAC

ประสบการณ์การจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง ฉบับคนไม่รู้เรื่องอะไรเลย

การจดทะเบียนบริษัทจำกัดด้วยตัวเอง
หลังจากทำงานโดยการเป็นฟรีแลนซ์ โดยรับงานออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ มาเป็นเวลากว่า 10 ปี ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเปิดบริษัทเป็นของตัวเองสักที จริงๆแล้วจะเป็นฟรีแลนซ์ต่อไปยังนี้มันก็ได้อยู่แหล่ะ แต่เริ่มรู้สึกว่ามันตันๆ แล้วก็มีประเด็นเรื่อง scale งานที่ไม่สามารถรับงานใหญ่ๆได้ ไปถึงเรื่องความน่าเชื่อถือ และเรื่องภาษี เลยคิดว่าถึงเวลาที่จะเดินไปอีกก้าวนึงซักที
ความคิดที่จะเปิดบริษัทของตัวเอง(จริงๆ) นี่มีมานานแล้ว แต่ก็ติดโน่นติดนี่ เช่น หาพาร์ทเนอร์ไม่ได้บ้าง กลัวว่าจะไม่รอดบ้าง เพื่อนถามบ้างว่าจะจดไปทำไม เรื่องเยอะนะ ไหนจะต้องทำบัญชีอีก ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ ไม่รู้ว่าการจดบริษัทเค้ามีขั้นตอนยังไง ก็เลยไม่ได้จดสักที (ทั้งๆที่มีคนให้บริการรับจดบริษัทเต็มไปหมด) จนในที่สุดก็พูดกับตัวเอง “เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน มาลองดูสักตั้ง” ตัดสินใจจะทำทุกอย่างเองไม่ได้ไปจ้างใคร ไม่ใช่ขี้เหนียวนะ แต่อยากรู้ว่าการจดบริษัทเนี่ยมันมีขั้นตอนยังไง อันนี้ได้แรงบันดาลใจบางส่วนมากจากพี่นู๋เนย ก็เลยอยากจะลองทำทุกอย่างด้วยตัวเองดูบ้าง ว่าแล้วก็ google คำว่า “จดบริษัทด้วยตัวเอง” ทำเป็นเล่นไป มีคนแชร์ไว้เยอะเลยนะ และทุกคนล้วนบอกว่าไม่ยากเลย ง่ายมั่กๆ (ส่วนตัวคิดว่า อะไรที่ไม่เคยทำ แล้วกำลังจะทำครั้งแรก มันก็ดูเหมือนยากทั้งนั้นแหล่ะ แต่ถ้าได้ลองครั้งนึงแล้วทำได้ ต่อไปมันก็ไม่ยากแล้ว) ดูไปดูมา ก็เจอบล็อคที่อ่านแล้วได้รายละเอียดใช้จริงของคุณ Pom การจดบริษัทด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด ซึ่งได้ข้อมูลดีๆ เยอะมาก รวมทั้งสอดแทรกข้อควรระวังต่างๆ สำหรับมือใหม่ไว้เยอะด้วย
เลยเขียนบล็อคนี้เก็บบันทึกไว้ เพราะถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในชีวิตที่สำคัญเหมือนกัน :) อีกส่วนก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ได้จากความพยายามในการจดบริษัท สำหรับคนที่อยากจะลองจดบริษัทด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปจ้างเค้า ประหยัดทั้งเงิน ได้ทั้งประสบการณ์

การจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเองผ่านออนไลน์ มีทั้งหมด 5 ขั้นตอนดังนี้

1. จองชื่อบริษัท (รู้ผลภายใน 30 นาที – 1 ชั่วโมง)
2. เตรียมข้อมูลต่างๆให้พร้อมเพื่อจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์
3. รอให้ทายทะเบียนตรวจสอบ ถ้ามีส่วนที่ต้องแก้ไข นายทะเบียนจะบอกให้ว่าต้องแก้ตรงไหน (รอประมาณ 1-3 วัน)
4. พิมพ์แบบฟอร์มที่ผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยมาให้บุคคลที่ระบุในแต่ละหน้าเซ็น และเตรียมเอกสารเพิ่มเติม
5. นำไปจดทะเบียนที่สำนักพัฒนาธุรกิจการค้าเขตใกล้บ้าน

ขั้นตอนที่ 1: จองชื่อบริษัท

สำหรับใครที่มีชื่อบริษัทในใจแล้ว ให้เข้าไปที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เลย ถ้ายังไม่มี account ก็ต้องสมัครให้เรียบร้อย ซึ่งประชาชนทุกคนสามารถได้ฟรี มีขั้นตอนการสมัครเหมือนเว็บไซต์ทั่วๆไป ดังนั้นขอข้ามขั้นตอนการสมัครสมาชิกไปนะคะ
เมื่อได้ account เรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่ จองชื่อ/จดทะเบียนนิติบุคคล Login เข้าไป แล้วคลิกที่ “จองชื่อห้างหุ้นส่วน/บริษัทจำกัด” ในขั้นตอนนี้เราควรจะลองค้นหาโดยใช้ชื่อที่เราคิดเอาไว้ ว่ามีไปซ้ำหรือใกล้เคียงกับชื่อบริษัทที่เค้าเคยจดกันไปแล้วหรือเปล่า ซึ่งถ้าซ้ำแบบตรงตัว ก็คือไม่ได้แน่นอน แต่ถ้าแค่ใกล้เคียง ก็ลองยื่นดู แนะนำให้คิดเผื่อๆไว้ 2-3 ชื่อเลย เมื่อ submit ไป ก็รอนายทะเบียนตรวจสอบ ปกติจะรู้ผลใน 30 นาทีค่ะ เมื่อนายทะเบียนคอนเฟิร์มมาแล้วว่าชื่อที่ขอไปใช้ได้ ก็ไปขั้นตอนต่อไปเลย
ปล. ชื่อที่จองนี้จะต้องนำไปจดทะเบียนนิติบุคคลภายใน 30 วัน ไม่งั้นต้องจองใหม่

ขั้นตอนที่ 2: เตรียมข้อมูลให้พร้อมเพื่อจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์

การจดบริษัทออนไลน์ผ่านเว็บนั้นสามารถทำได้เอง และรู้ผลใน 1-3 วัน (อยู่ในลิ้งค์ที่ชื่อว่า “จดบริคณห์สนธิและบริษัทในวันเดียว”) แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปกรอกข้อมูลเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งในเรื่องของข้อมูลที่จำเป็นในการกรอก และเรื่องที่ไม่น่าจะต้องมาวุ่นวาย แต่วุ่นวายมาก ก็คือ browser ที่ใช้ในการกรอก เพราะทางเว็บบอกว่าต้องใช้เป็น IE8 เท่านั้น ถึงจะใช้กรอกข้อมูลได้ไม่มีปัญหา ซึ่งตอนแรกไม่เชื่อ ก็กรอกด้วย Chrome ไป สุดท้ายก็พบว่ามันไม่เวิร์คจริงๆ ต้องวิ่งไปยืมเครื่องน้องที่รู้จักกันมาใช้ (เดี๋ยวจะเขียนเพิ่มเติมสำหรับคนที่อยากลง IE8 ไว้ใช้งานบนเครื่อง mac)

สำหรับข้อมูลที่เราต้องเตรียม มีดังนี้

1. ข้อมูลผู้ถือหุ้น
2. ข้อมูลกรรมการบริษัท คนเดียวก็ได้ ไม่มีปัญหา
3. ข้อมูลผู้เริ่มก่อการ อันนี้ต้องมีตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป หากเรามีคนเดียว ที่เค้าแนะนำกันก็คือไปเอาชื่อพี่น้อง พ่อแม่ มาใส่เป็นหุ้นลมไป ให้ถือ 1% ก็ได้
4. ทุนจดทะเบียน นิยมจดกันที่ 1 ล้านบาท (เพราะดูน่าเชื่อถือระดับนึง และถ้าจดเกิน 1 ล้าน ค่าธรรมเนียมก็จะเพิ่มขึ้น) สำหรับทุนจดทะเบียนบริษัท 1 ล้านบาท ไม่ได้แปลว่าเราต้องมีเงินไปแช่ในบัญชี 1 ล้านบาทจริงๆ แต่เป็นการจำกัดความรับผิดชอบความเสียหายที่บริษัทอาจจะไปก่อขึ้น (ฉะนั้นยิ่งทุนเยอะยิ่งน่าเชื่อถือ) ในส่วนของทุนจดทะเบียน จะมีส่วนที่กรอกเพิ่มเรียกว่า เงินชำระค่าหุ้น ตามกฏหมายกำหนดให้ชำระไว้ที่ 25% เป็นอย่างน้อย (ไม่ต้องมีจริงๆอีกเหมือนกัน) เราก็กรอกไปตามสัดส่วนทุนที่เราจด และ % ของผู้ถือหุ้นคนนั้นๆ
5. รายละเอียดที่ตั้งสำนักงานใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่ที่บ้านได้เลย หรือจะใช้เป็นที่คอนโดก็ได้ หากไม่ได้เป็นเจ้าของเอง ต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ ถ้าเป็นเจ้าของเองก็สบายไปอีกนิดนึง ไม่ต้องทำเอกสารไปหนึ่งใบ
6. พยาน 2 คน อันนี้ใครก็ได้ ที่ยอมให้ข้อมูลเรา และเซ็นเอกสารให้เราได้ (ใช้ ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน วันเกิด ที่อยู่ อาชีพ)
7. ข้อมูลผู้สอบบัญชี ใช้เป็นชื่อ-นามสกุล เลขที่สอบบัญชี อันนี้ถ้ามีคนรู้จักก็ดีไป ลองถามๆคนรอบข้างดู เพราะใช้แต่ในนาม ไม่จำเป็นต้องทำบัญชีกับคนนี้ก็ได้ ซึ่งตอนสุดท้ายจะมีให้ใส่ว่าจ้างคนทำบัญชีเป็นเงินเท่าไหร่ด้วย ก็ใส่ไปก่อนเท่าไหร่ ไม่ต้องเป็นตัวเลขจริง และยังไม่ต้องไปทำจ้างคนทำบัญชีจริงๆ
8. อำนาจกรรมการ ระบุว่าต้องกี่คนเซ็น ต้องมีตราประทับหรือไม่ เอกสารถึงจะใช้ได้ (ถ้าเลือกต้องมีตราประทับก็จะต้องทำตรายางด้วย)
9. วัตถุประสงค์เริ่มแรก ส่วนนี้เป็นส่วนที่งงที่สุดและเป็นส่วนที่โดน reject กลับมา เพราะเราดันไป copy วัตถุประสงค์ตัวอย่างมาทั้งดุ้น แล้วใส่ไป 20 กว่าข้อ นายทะเบียนแจ้งกลับมาให้ปรับให้กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ (อ้าวว ก็ลอกของที่ทางกรมเขียนมาเลยนะ 55) สรุปคือต้องมานั่งดูอีกรอบ โดยลองค้นหาวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องจากที่เค้าเขียนมา แล้วสรุปว่าของเราทำอะไรบ้าง โดยเขียนให้กระชับ สั้นลง รู้เรื่องมากขึ้น ส่งกลับไปใหม่ แล้วก็ผ่านไม่มีปัญหา ตรงนี้สุดท้ายจะต้องมีวัตถุประสงค์หลักที่ต้องใส่เลขหมวด อย่างน้อย 1 ข้อ ก็เลือกจากเว็บเค้ามานั่นแหล่ะ
10. โปรแกรม IE8 ข้อนี้สำคัญสุด สำหรับใครที่สงสัยว่า IE8 คืออะไร IE8 คือโปรแกรม browser ที่ใช้เข้าหน้าเว็บ ซึ่งมาพร้อมกับ window XP (คือเก่ามากๆๆๆ 10 กว่าปีแล้วนะ!) ถ้าใครใช้ window ก็ยังมีทางที่จะเลือก version ของ IE ที่มากับเครื่องได้ โดยตั้งให้เป็น IE8 ซึ่งจะไม่ขออธิบายในที่นี้ เพราะของเราใช้ mac อาการหนักมากๆ คือ วินโดร์ก็ไม่มี แล้วจะไป IE จากไหนมาใช้? ตอนแรกแก้ปัญหาโดยเตรียมข้อมูลไว้ แล้วไปยืม Notebook PC ของน้องที่รู้จักเอามากรอก ซึ่งก็พอใช้ได้ แต่สุดท้ายเวลาจะต้องแก้ไขอะไรก็ต้องไปยืมน้องตลอด เกิดความเกรงใจ และด้วยความที่อยากทำอะไรด้วยตัวเอง (อีกละ) ก็เลยไปไปค้นวิธีการเอา IE8 มาลงบนเครื่อง mac ซึ่งมีขั้นตอนประมาณนี้
– ลง app ชื่อว่า VisualBox แล้วลงโปรแกรม IE8 ดูขั้นตอนการลงโปรแกรมจากเว็บนี้ได้เลย
– พอได้ IE8 มาเรียบร้อย ปัญหาที่ตามมาคือ วินโดร์ที่ลงมานั้น ไม่มีภาษาไทย! ก็ต้องไปหาวิธีการลงภาษาไทยบน window อีก แถมอีกลิ้งค์คือ วิธีการทำให้วินโดร์กดเปลี่ยนภาษาด้วย grave (~)
– หากต้องการจะ copy clipboard ไปมาระหว่าง window กับ mac ให้ไปที่ menu บน VisualBox เมนู Devices -> Shared Clipboard -> Bidirectional
– ติดตั้ง driver สำหรับ printer เพราะหน้าที่ของ IE8 ยังไม่จบแค่การกรอกข้อมูล เรายังต้องใช้ IE8 เพื่อทำการปริ้นเอกสารที่ตรวจสอบจากนายทะเบียนเรียบร้อยแล้วอีกด้วย (พยามลองด้วย Safari, Chrome, Firefox แล้ว ไม่สามารถทำได้) ฉะนั้นเราจึงต้องหา driver ของ printer ที่เราใช้มาลงบน window xp อีกด้วย (เสียเวลาอีกเกือบ 30 นาที) เมื่อลงแล้วอย่าลืมตั้งค่าให้ visual box อ่านข้อมูลจาก usb ช่องที่เราเสียบ printer ไว้ โดยไปที่เมนู  Devices -> USB devices -> เลือกชื่อปริ้นเตอร์ของเรา
ข้อนี้เขียนยาวสุด เจอข้อนี้เข้าไปนี่ท้าทายความเนิ๊ดของตัวเองมาก อยากจะเขียนวัตถุประสงค์หลักของบริษัทเป็น “บริการออกแบบและพัฒนาเว็บระบบราชการต่างๆ ให้ทันสมัยและใช้งานได้ง่ายขึ้นสามร้อยเท่า” เพราะมาแก้ปัญหาเรื่อง IE8 อย่างเดียวก็ใช้เวลาไปมากกว่าการกรอกข้อมูลจดบริษัทเสียอีก
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วก็ลุยเข้าไปกรอกข้อมูลได้เลย ในขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรยาก ทำตามสเต็ปไปเรื่อยๆ (ทำผ่าน IE8 นะจ๊ะ อย่าลืม) เมื่อเสร็จแล้วก็คลิก “ส่งให้นายทะเบียนตรวจสอบได้”

Step 3: รอให้ทายทะเบียนตรวจสอบ

ถ้ามีส่วนที่ต้องแก้ไข นายทะเบียนจะบอกให้ว่าต้องแก้ตรงไหน (รอประมาณ 1-3 วัน) ก็ทำการแก้ไขแล้ว submit ไปใหม่ รออีก 1-3 วัน ถ้าผ่านแล้วเราถึงจะทำการพิมพ์เอกสารออกมาใช้งานได้

Step 4: เตรียมเอกสารให้พร้อม

เอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนไปจดจริง มีดังนี้
1. เอกสารแบบฟอร์มการจดทะเบียนบริษัทที่ผ่านการตรวจสอบเรียบร้อย พิมพ์ออกมาทุกหน้าแล้วนำมาให้บุคคลที่มีชื่อในแต่ละหน้าเซ็น ถ้ากำหนดว่าต้องใช้ตราประทับ ก็ต้องเตรียมตราประทับไว้ประทับด้วย ถ้าไม่แน่ใจ คิดว่าน่าจะไปประทับหน้างานได้ การพิมพ์เอกสารนี้ ประเด็นอยู่ที่ต้องใช้ IE 8 พิมพ์ อย่าลืมดูให้ดี เพราะเอกสารบางตัวมี 2 หน้า ต้องพิมพ์ออกมาให้ครบ
2. เอกสารประกอบอื่นๆ ที่ต้องเตรียมเพิ่มเติม ตามนี้
– แบบจองชื่อนิติบุคคล ที่จองไว้ในข้อแรก (สั่งพิมพ์ได้จาก “ค้นหาและจองชื่อนิติบุคคล”)
– สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้ร่วมก่อการและกรรมการทุกคน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (เตรียมไปเผื่อๆคนละ 3 ชุดละกัน)
– หลักฐานการชำระค่าหุ้น ที่ออกให้ผู้ถือหุ้นแต่ละคน ดูตัวอย่างใบชำระค่าหุ้น สำคัญคือต้องลงวันที่เป็นวันเดียวกับวันที่ในใบรายงานการประชุมจัดตั้งบริษัท
– แผนที่แสดงที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่และสถานที่ใกล้เคียงโดยสังเขป ข้อนี้เท่าที่ลองถามพี่ๆมา บอกว่าใช้ google map ไม่น่าได้ ก็เลยทำเตรียมไว้ ทั้งแบบ google map และแบบที่วาดแผนที่เองจากโปรแกรม illustrator
– สำเนาทะเบียนบ้านที่จะใช้เป็นที่ตั้งสำนักงาน สัญญาซื้อขาย สำเนาโฉนด เอาไปเผื่อให้หมด ถ้าไม่ใช่เจ้าของ ต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้ที่อยู่นั้นด้วย (ข้อนี้ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะใช้ที่อยู่ตัวเอง ที่ตัวเองเป็นเจ้าบ้าน ก็เลยง่ายหน่อย)
– รูปถ่ายป้ายบริษัท และรูปถ่ายภายในออฟฟิศ 2-3 รูป ข้อนี้บางคนก็ว่าไม่ต้องใช้ บางคนก็ว่าต้องใช้ เราก็เอาไปเผื่อๆไว้ก่อนดีกว่า สรุปว่าไม่ต้องใช้ ถ้าไม่ได้จด Vat
3. ค่าธรรมเนียม (ทุนจด 1 ล้าน ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 5,600 บาท + ค่าอากรสแตมป์  ค่าธรรมเนียมออกเอกสารอีก 700 บาท รวมเป็น 6,300 บาท) สามารถเตรียมเงินสดไปชำระตอนที่จดทะเบียนได้

Step 5: นำไปจดทะเบียนที่สำนักพัฒนาธุรกิจการค้าเขตใกล้บ้าน

หลังจากเตรียมเอกสารเรียบร้อยเราเลือกไปที่สำนักพัฒนาธุรกิจการค้าเขตบางนาเพราะขับรถไปเองสะดวกสุด เนื่องจากเตรียมตัวมาพร้อม จะมีที่ต้องแก้คือวันที่ในใบชำระค่าหุ้น ซึ่งนายทะเบียนบอกว่าต้องตรงกับวันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท ก็เลยต้องไปแก้วันที่ โดยใช้เครื่องพิมพ์ดีดพิมใหม่ ที่เหลือไม่มีอะไร ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เสียเงินไปทั้งสิ้น 6,300 บาทถ้วน ก็ได้เป็นเจ้าของบริษัทจำกัดเรียบร้อย

แชร์ปัญหาที่พบในการจดบริษัทด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์กรมการค้า

1. ตอนแรกสะกดชื่อบริษัทภาษาไทยตกไป เลยโทรไปถาม call center ว่าจะทำแก้ไขหน้างานได้มั้ย เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่สามารถแก้ไขได้ถ้าทำการจองผ่านอินเตอร์เน็ต ต้องเริ่มใหม่หมด โดยไปยกเลิกชื่อเดิม แล้วจองชื่อใหม่ แล้วกรอกรายละเอียดใหม่หมด
2. วัตถุประสงค์ ไป copy ของเค้ามาทั้งดุ้นไม่ได้ เค้าจะบอกว่าเยิ่นเย้อ อ่านไม่รู้เรื่อง วิธีก็คือให้ลอง search หาคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เราจะทำบนตัวอย่างที่มีอยู่บนเว็บของกรมการค้า อ่านดู แล้วเอาเขียนเองให้กระชับ เข้าใจง่าย (แต่ละข้อไม่ควรจะเกิน 2 บรรทัด) ที่เขียนไป 20 กว่าข้อ ก็ผ่านสบายๆ
3. ปัญหาเรื่อง IE8 นี่ปวดหัวมาก สำหรับ mac user ที่ไม่อยากยุ่งยากและเสียเวลาแนะนำให้ยืม pc พี่ๆน้องๆ มากรอกเอาจะดีกว่า โดยการพิมพ์เตรียมข้อมูลทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อม save ใส่ notpad หรือส่งอีเมลเข้าตัวเอง แล้วแค่ copy / paste เอา จะรวดเร็วมาก อย่าลืมถามว่า pc เครื่องนั้นพิมพ์เอกสารออก printer ได้เลยหรือไม่? เพราะต้องใช้ IE8 gen เอกสารแล้วพิมพ์เลย ไม่สามารถ export เป็น pdf ไปพิมพ์ที่อื่นได้

 ประสบการณ์ที่ได้จากการลงมือทำด้วยตัวเองนั้นหาซื้อไม่ได้

สุดท้าย ต้องขอขอขอบคุณ เพื่อนๆ พี่ๆ หลายคน ที่ให้คำปรึกษา และให้ข้อมูลในแง่มุมต่างๆในการก่อการครั้งนี้ แม้การจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเองจะดูยุ่งยากมากๆในตอนแรก ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะคนที่เป็น designer / developer ซึ่งอาจจะไม่เคยทำธุรกิจเป็นเรื่องเป็นราวมาก่อน เจอคำบางคำเข้าไปถึงกับงง แต่สุดท้ายมันก็ทำให้รู้ว่า ไม่มีอะไรยากไปกว่าความสามารถของเรา ข้อคิดอีกข้อหนึ่งคือ ถ้าเราไม่รู้ ต้องลองหาคำตอบด้วยตัวเองก่อน จะไป google จะไปหาหนังสือ บทความอะไรว่าไป ถ้ายังหาไม่ได้ ให้ถาม ทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือเสมอ แล้วพอเราได้รับการช่วยเหลือที่ดี เราก็อยากจะช่วยคนอื่นๆ ต่อๆ ไป
ขอให้ทุกคนโชคดีกับการเริ่มธุรกิจใหม่ค่ะ :)
 สิ่งที่ยากกว่าการดำเนินการเรื่องเอกสารการจดบริษัท คือการ “สร้าง” บริษัทจริงๆ ต่างหาก

จดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเองไม่ยากอย่างที่คิด

image
ก่อนหน้านี้ตอนคิดจะจดทะเบียนบริษัท สิ่งแรกที่ผมทำก็คือกูเกิ้ลก่อนเลยว่ามีบริษัทบัญชีที่ไหนเขารับทำบ้างด้วยราคาเท่าไหร่ หาไปๆก็ได้ยินคำบอกเล่าจากหลายๆคนว่าจดเองก็ได้ไม่ยากอย่างที่คิด ก็เลยมาลองทำเอง รวมเวลาทำจริงๆนั้นก็ไม่นานแต่ผมมัวแต่โน่นนี่นั่นยุ่งกับเรื่องอื่นอยู่ เลยลากยาวมาเรื่อยๆจนมาได้ฤกษ์ทำจริงๆเมื่อไม่นานนี้เอง
จะขอสรุปตามความเข้าใจของผมเองว่าขั้นตอนในการจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเองมีดังต่อไปนี้
  1. จองชื่อบริษัทออนไลน์ - ตอบกลับใน 20 นาที
  2. ยื่นตรวจเอกสารจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์ - ที่ลองทำตอบกลับใน 1-3 วัน
  3. ทำตรายาง - ร้านทำด่วนทำได้ในไม่กี่ชั่วโมง
  4. เตรียมเอกสาร - พิมพ์ฟอร์มที่ระบบกรอกให้และเตรียมเอกสารเพิ่มเติม
  5. ยื่นเอกสารและชำระค่าธรรมเนียมที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต - ที่ยื่นไปใช้เวลารวม 2.5 ชั่วโมง
จะเห็นว่าถ้าจะทำกันจริงๆไม่กี่วันก็เสร็จแล้ว แต่จริงๆขั้นตอนที่ต้องใช้เวลามากสำหรับมือใหม่หัดจดทะเบียนเลยคือขั้นตอนยื่นตรวจเอกสาร เพราะนอกจากจะต้องทำความเข้าใจศัทพ์แสงต่างๆที่เกิดมาอาจจะไม่เคยรู้จัก ยังต้องมาสู้รบปรบมือกับปัญหาเทคทางเทคนิคของตัวเวบเองด้วย แต่พอทำไปซักพักก็คล่องละ ผมได้ลองกรอกไปหลายรอบ รอบหลังๆนี่ไปเร็วเลย
จองชื่อบริษัทออนไลน์
ขั้นตอนนี้เป็นอะไรที่ง่ายมากๆอยากที่เคยบล๊อกไป แค่ตรวจให้ดีว่าชื่อไม่ซ้ำไม่ผิดระเบียบตามที่เขาระบุไว้ แป๊บเดียวก็รู้ผลแล้ว เข้าไปทำที่ http://www.dbd.go.th/ ตรงเมนูที่เขียนว่า “จองชื่อ/จดทะเบียนนิติบุคคล”
ยื่นตรวจเอกสารจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์
ขั้นตอนนี้ต้องเตรียมข้อมูลเยอะหน่อยอย่างที่เคยบล๊อกไว้ หลักๆก็มี
  1. ทุนจดทะเบียน - เห็นว่านิยมจด 1 ล้าน เหตุผลคือมาจดเพิ่มทีหลังก็เสียอีกหลายพัน ลองอ่านบทความนี้ดู
  2. ข้อมูลผูุ้ถือหุ้น
  3. ข้อมูลกรรมการบริษัท
  4. ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ - เคยได้ยินว่าคอนโดไม่ได้ อันนี้พบว่าไม่จริง
  5. ข้อมูลผู้เริ่มก่อการ - อย่างน้อย 3 คน
  6. ข้อมูลพยาน  -  2 คน
  7. ข้อมูลสอบบัญชี - อันนี้คงต้องถามจากคนที่รับทำงานบัญชีจริงๆ เพื่อขอชื่อและเลขที่ใบอนุญาติ เข้าใจว่าขอไปแต่ในนาม
  8. กำหนดอำนาจกรรมการของบริษัท - ว่าจะต้องมีกี่คนเซ็น พร้อมตาประทับไหม ตรงนี้เป็นจังหวะที่ต้องเลือกว่าจะทำตรายางหรือไม่ ตามกฎหมายไม่ต้องทำก็ได้ แต่มีแต่คนแนะนำว่าทำๆไปเหอะ เพราะไม่ทำแล้วอาจเสียเวลาอธิบายกับคนอื่นว่าเราไม่ได้ทำ จะทำให้เสียน้อยเสียยาก 
  9. วัตถุประสงค์ที่กำหนดเอง - ประเภทของธุรกิจ
ปัญหาทางเทคนิคที่ต้องระวังคือ
  • เวบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับแต่ IE8 เท่านั้น (ถ้า IE สูงกว่าก็จำลองได้)
  • เวบมีปัญหาเรื่องการเพิ่มจำนวนคน (ผู้ถือหุ้น กรรมการ ฯลฯ) ให้เพิ่มจำนวนไปก่อนแล้วลองกด next ไปเรื่อยๆ พอครบทุกหน้าแล้ววนกลับมาใหม่อาจจะหาย
  • เอกสารจะไม่สามารถพิมพ์ได้จนกว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจแล้ว ปุ่มพิมพ์มันจะไม่มีให้กด พิมพ์เป็น PDF ตรวจทานก่อนพิมพ์ก็ได้
  • เอกสารที่เจ้าหน้าที่ตรวจแล้วจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีก ถ้าจะแก้ก็ต้องยกเลิกของเก่า แล้วกรอกฟอร์มใหม่
ทำตรายาง
ทำด่วนไปเลยได้ ลองดูข้อบังคับต่างๆให้ดี
เตรียมเอกสาร
นอกจากเอกสารที่ระบบกรอกฟอร์มมาให้แล้ว ก็มีเอกสารบางส่วนที่ต้องเตรียมเพิ่ม เช่นใบรับเงินชำระค่าหุ้น หรือแผนที่สำนักงานใหญ่ มีเอกสารมากมายและต้องการลายเซ็นหลายที ต้องตรวจทานให้ดี
ยื่นเอกสารและชำระค่าธรรมเนียมที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต
เป็นขั้นตอนที่หลายๆคนไม่ชอบกลัวเสียเวลาต้องแก้หลายรอบ ผมกับกรไปถึงที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 4 แถวสุรวงศ์แต่เช้า กะว่าเตรียมมาเต็มที่ไม่มีผิด ทำการบ้านอ่านบล๊อกของบีมมาแล้ว ก็ยังโดนแก้ไปหลายดอก
  • ด่านแรกก็ไปเจอพี่แว่นตรวจเอกสารเบื้องต้นก่อน พี่แว่นบอกว่าใบรับเงินชำระค่าหุ้นผมดันพิมพ์มาสองใบในกระดาษแผ่นเดียวไม่รู้นายทะเบียนจะรับไหม ผมก็เลยแอบย่องไปถามนายทะเบียนที่อยู่อีกเคาเตอร์หนึ่ง ป้าบอกอย่างนี้พอรับได้
  • พี่แว่นบอกอีกว่ามีบางหน้าที่มันตัวเล็กผิดปกติให้ไปพิมพ์มาใหม่ ก็ถามป้าอีก คุณป้าแกบอกว่าอย่างนี้ใช้ไม่ได้ต้องพิมพ์ใหม่ เอกสารทุกหน้าต้องมีช่องลายเซ็นนายทะเบียนอยู่ในหน้าเดียว ไม่หลุดไปอีกแผ่น ไม่อยู่ที่อื่นนอกจากด้านล่าง นายทะเบียนงงเซ็นไม่ถูก ออกมาไม่เหมือนคนอื่น พอถามแกว่าแถวนี้มีร้านรับพิมพ์ใหม่ แกคงเห็นว่ามือใหม่มาทำเองไม่ได้เป็นตัวแทนรับทำ ป้าเลยบอกว่าให้ไปให้น้องผู้หญิงที่นั่งหน้าประตูว่าพิมพ์ให้ใหม่ได้ไหม
  • โชคดีน้องเขาก็ให้มาใช้เครื่องที่ตั้งอยู่แล้วก็พิมพ์ออกพรินเตอร์ได้เลย หลังจากที่ต้องจัดการปัญหาหลายอย่างที่เครื่องนั้นราวกับไม่เคยมีใครสั่งพิมพ์ที่เครื่องนั้นมาก่อน!
  • ป้ายังตรวจเจออีกว่า สำเนาบัตรประชาชนของผมนั้น เลขด้านหลังบัตรในสำเนาไม่ใช่เลขหลังบัตรของผมจริงๆ เลยตัองวิ่งไปถ่ายมาใหม่ สุดยอดเลยครับป้า
  • แล้วก็มาถึงจุดตาย คือตราปั้มที่ทำมาคำว่า Co., Ltd. นั้นไม่มี comma ป้าเลยบอกว่าให้ทำตรายางมาใหม่หรือแก้ตรายางเดิม เราก็เลยเลือกเอาคัตเตอร์เฉือน  Co. ออกจากตราปั้มกันตรงหน้าป้าเลย
  • อากรแสตมป์มาซื้อที่นี่แล้วแปะได้เลย
  • ผมไม่แน่ใจว่าจะไปเปิดบัญชีต้องขอเอกสารอะไรไปเพิ่มให้บ้าง น้องผู้หญิงเขาก็กรอกให้หมดเลย แล้วป้ามาช่วยตรวจอีกที
หลังจากผ่านเรื่องตื่นเต้นมาหลายเรื่อง ก็มาเข้าแถวจ่ายเงิน ป้าบอกว่าอีก 45 นาทีให้มารับ เราเดินไปกินก๋วยจั๊บกันกลับมาก็ได้เอกสารพอดี เห็นไหมครับ ไม่ยากเลย เหอๆ

จดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเอง ตอน 2 - ยื่นเอกสารให้ตรวจสอบเบื้องต้นทางเนท


หลังจากงมเรื่องข้อมูลต่างๆมากมายที่ต้องใช้กรอกฟอร์ม ขั้นตอน และ IE8 อยู่พักใหญ่ ตอนนี้ก็พอจะเข้าใจภาพรวมของการจดทะเบียนบริษัทด้วยตัวเองเพิ่มขึ้นมากแล้ว สรุปว่าการจดทะเบียนบริษัทจะมีขั้นตอนหลักๆอยู่ดังนี้
  1. จองชื่อบริษัทผ่านเวบ (เขาว่าตรวจใน 20 นาที)
  2. กรอกข้อมูลการจดทะเบียนผ่านเวบ (ช้าเร็วขึ้นกับความซับซ้อนและความเข้าใจ)
  3. ส่งเอกสารให้นายทะเบียนตรวจ (ของผมตรวจเสร็จใน 1 วัน)
  4. พิมพ์เอกสารออกจากเวบ เตรียมเอกสารอื่นๆ เตรียมตราประทับ ชำระค่าธรรมเนียม และนำเอกสารไปยืน
ข้อมูลหลักที่เราจะต้องเตรียมและทำความเข้าใจเพื่อกรอกข้อมูลคือ
  1. ชื่อบริษัท
  2. ทุนจดทะเบียน - เวบนี้อธิบายใช้ได้เลย
  3. กรรมการ ผู้ก่อการ ผู้ถือหุ้น และ พยาน
  4. ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
  5. อำนาจกรรมการ - ต้องใช้ลายเซ็นกี่คน ต้องใช้ตราประทับไหม
  6. ผู้สอบบัญชี - ต้องหามาใส่ให้มี แต่อาจไม่ใช่คนที่จะทำบัญชีให้เราจริงๆก็ได้
  7. วัตถุประสงค์ที่จะดำเนินการเริ่มแรก
  8. จะขอมีเลขที่บัญชีนายจ้างหรือไม่ - ถ้ามีแต่กรรมการยังไม่มีลูกจ้างก็ไม่ต้อง
ข้อมูลส่วนใหญ่ระบบจะแนะนำให้ระหว่างทางค่อนข้างดี ไม่ได้เป็นปัญหามากในการทำความเข้าใจแม้แต่กับคนอย่างผมซึ่งไม่เคยทำเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย จะมีก็เรื่องทุนจดทะเบียนที่ผมต้องไปทำความเข้าใจเพิ่มเล็กน้อย และก็เรื่องผู้สอบบัญชีและบัญชีนายจ้างที่ผมต้องไปปรึกษาคนทำบัญชีที่รู้จักกัน
อีกเรื่องก็คือตราประทับ ตอนแรกก็สองจิตสองใจว่าต้องมีไหม มีทั้งเสียงสะท้อนว่าไม่มีก็สะดวกไม่มีปัญหา กับมีไว้ดีกว่าไม่ต้องเสียเวลาอธิบายว่าทำไมไม่มีเพราะคนส่วนใหญ่ก็มีกัน สุดท้ายผมตกลงกับโค้ชกรว่ามีไว้ก่อนดีกว่า
ตอนกรอกอย่าลืมเปลี่ยน IE Emulation เป็น IE8
ถ้าไม่ทำเวบจะใช้ไม่ได้เลย ถึงแม้จะทำแล้วก็ยังมี bug ให้เห็นโดยเฉพาะพวกจำนวนคนทั้งหลาย แก้จำนวนไม่ได้บ้าง ขาดๆเกินๆบ้างก็อย่าเพิ่งปวดใจ กด Next รัวๆไปก่อนแล้วไป preview ดูตอนท้ายถ้าออกมาใช้ได้ก็โอ
ตอนนี้ผมมาถึงขั้นตอนที่ 3 คือส่งเอกสารให้นายทะเบียนตรวจแล้ว และก็พบว่าข้อมูลที่นายทะเบียนตรวจผ่านแล้วไม่อนุญาติให้แก้ไขอะไรอีก ซึ่งก็สมเหตุสมผล พอดีว่าผมต้องแก้ไขข้อมูลบางอย่าง ก็เลยกะว่าจะขอยกเลิกและส่งคำร้องไปใหม่อีกที คราวนี้กรอกเป็นแล้วไม่น่าจะใช้เวลานาน
ตอนนี้ต้องเตรียมตราประทับแล้ว เอกสารที่ต้องเตรียมประกอบอีกมากมาย ที่ยังไม่แน่ใจคือหลักฐานการซื้อหุ้นนี่มันต้องเป็นอะไร ถ้าจัดการตรงนี้หมดก็นำไปยื่นจดทะเบียนได้แล้ว

No comments: