9/06/2015

GRABTAXI เทคโนโลยีที่เข้าใจทั้งผู้ขับและผู้ใช้รถแท็กซี่ กรุงเทพ

GRABTAXI เทคโนโลยีที่เข้าใจทั้งผู้ขับและผู้ใช้รถแท็กซี่

1 สิงหาคม 2557 | Creative Entrepreneur
 5677
 

SCB_logo_CT.png 

grabtaxi1.jpg 

แกร็บแท็กซี่ (GRABTAXI) ได้เปิดตัวในประเทศไทยไปเมื่อเก้าเดือนที่ผ่านมา และกลายเป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นยอดนิยมของผู้ใช้ โดยได้พิสูจน์ถึงมาตรฐานการให้บริการอันน่าประทับใจ ด้วยการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก เพียงกดเข้าไปในแอพฯ เลือกต้นทางและปลายทาง แอพฯ จะค้นหาแท็กซี่ที่พร้อมให้บริการซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด คำนวณค่าโดยสารโดยประมาณ หรือในกรณีที่มีเงื่อนไขพิเศษอย่างมีกระเป๋าสัมภาระ ต้องการโดยสารแบบไป-กลับ หรือต้องการจองรถล่วงหน้าก็สามารถระบุได้ เมื่อมีแท็กซี่กดตอบรับ คนขับก็จะโทรเข้ามาหาผู้โดยสารเพื่อแนะนำตัวและยืนยันพิกัดจุดรับ-ส่ง โดยแอพฯ จะแสดงข้อมูลที่จำเป็นอย่างเลขทะเบียนรถ ชื่อพร้อมรูปภาพคนขับ ขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้ ผู้โดยสารก็จะได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย 

วีร์ จารุนันท์ศิริ ผู้จัดการแกร็บแท็กซี่ ประเทศไทย ได้เป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวการใช้บริการที่สะดวกง่ายดายและการพัฒนาความสามารถในให้บริการของแกร็บแท็กซี่ในอนาคต ที่ไม่ใช่แค่เพียงยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านการคมนาคมเท่านั้น แต่ยังได้ช่วยสังคมผู้ประกอบอาชีพเฉพาะทางอย่างคนขับแท็กซี่อีกด้วย 

เพราะปัญหามีให้แก้ไข และ ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ 
ปัญหาการไม่จอดรับผู้โดยสาร เลือกให้บริการแต่ชาวต่างชาติ ไม่คิดราคาตามมิเตอร์ ไปจนถึงการก่ออาชญากรรมของแท็กซี่ในประเทศต่างๆ ทั้งมาเลเซีย เวียดนาม และกรุงเทพฯ ทำให้ผู้โดยสารส่วนใหญ่รู้สึกหวาดระแวงและหวาดกลัว และทำให้แท็กซี่กลายเป็นตัวเลือกอันดับท้ายๆ ในการเดินทางของชาวเมืองในหลายประเทศ การเกิดขึ้นของแกร็บแท็กซี่จึงมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร ผ่านฟังก์ชั่นที่เรียกว่า Track My Ride ซึ่งผู้ใช้จะสามารถแชร์ข้อมูลสำคัญอย่างทะเบียนรถและแผนที่การเดินทางผ่านโซเชียล มีเดียอย่างเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ได้ทันที ขณะที่สติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ของแกร็บแท็กซี่ที่ติดกับตัวรถก็ยังทำหน้าที่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สร้างความมั่นใจ หรือที่คุณวีร์เรียกว่า “Element of Security” ซึ่งจะเป็นเสมือนสัญลักษณ์หนึ่งของความไว้วางใจที่ผู้โดยสารจะมีให้กับแท็กซี่ที่ได้ลงทะเบียนให้บริการผ่านแกร็บแท็กซี่ 

เทคโนโลยีเพื่อสังคมคนขับ 
ไม่ว่าการพัฒนาของเทคโนโลยีจะพาความสามารถในการใช้ชีวิตของผู้คนไปไกลถึงเพียงไหน แต่แกร็บแท็กซี่ก็ไม่ลืมวัตถุประสงค์แรกเริ่มในการเป็นแอพฯ ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนขับแท็กซี่ โดยเชื่อว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ เพราะเมื่อคนขับมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ก็ย่อมลดลง ความมุ่งมั่นที่จะทำเช่นนี้ ทำให้แกร็บแท็กซี่ค่อยๆ เป็นที่รู้จักในหมู่คนขับแท็กซี่ พร้อมๆ กับการขยายจำนวนสมาชิกกลุ่มคนขับให้เพิ่มมากขึ้น “แกร็บแท็กซี่เป็นกิจการเพื่อสังคม บริษัทต้องทำความรู้จักกับพี่แท็กซี่ พูดคุย เป็นปากเสียงให้ เขามีปัญหาอะไร เราจะพยายามฟังและช่วยแก้ไข แกร็บแท็กซี่มีสามวัตถุประสงค์สำคัญคือหนึ่ง เพิ่มรายได้ให้กับคนขับ โดยช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แทนที่จะวนขับหาผู้โดยสารไปเรื่อยๆ แอพฯ มีระบบจัดคิวรถด้วยจีพีเอสในสมาร์ทโฟนที่กำหนดตำแหน่งรับผู้โดยสารได้อย่างชัดเจน สองคือ มีค่าธรรมเนียม 25 บาทให้คนขับแท็กซี่ซึ่งจะได้รับไปทั้งหมด และสามในบางครั้งเรามีแคมเปญพิเศษ เช่น สวัสดิการอย่างประกันภัย สอนภาษาอังกฤษ และการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัว เช่น ค่ารักษาพยาบาล ซึ่งในอนาคตเราอยากเพิ่มเติมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเทอม หรือค่าหนังสือสำหรับลูก ตามหลักของกิจการเพื่อสังคม ที่เป็นได้ทั้งธุรกิจจริง แต่รายได้ก็ต้องแบ่งปันให้ผู้ให้บริการด้วย” 

grabtax2.jpg 

ส่งต่อมาตรฐานสากลสู่คนในพื้นที่ 
การชำระค่าโดยสารเป็นเงินสด มีรหัสส่วนลดและโปรโมชั่นประจำเดือนอย่างต่อเนื่อง นับเป็นอีกวิธีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าให้กับแท็กซี่ที่เป็นสมาชิกนอกเหนือจากค่าธรรมเนียม 25 บาทที่มีการเรียกเก็บเพิ่มเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่มีบริการของแกร็บแท็กซี่ อาทิ ในมาเลเซียคิด 4 ริงกิต (48 บาท) สิงคโปร์ 0.80 ดอลล่าร์สิงคโปร์ (30 บาท) โดยค่าธรรมเนียมนี้จะเป็นของคนขับแท็กซี่ทั้งหมดไม่ว่าจะสังกัดอยู่ภายใต้สหกรณ์หรือไม่ก็ตาม 

ส่วนต้นทุนพื้นฐานในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแกร็บแท็กซี่อย่างสมาร์ทโฟน คุณวีร์ให้ข้อมูลว่า คนขับแท็กซี่ในสิงคโปร์กว่าร้อยละ 90 มีสมาร์ทโฟนเป็นของตนเอง และจำนวนการดาวน์โหลดแอพฯ แกร็บแท็กซี่นั้นเป็นอันดับหนึ่งแซงหน้าทุกเกมฮิต สำหรับในประเทศไทย แม้จะเป็นเมืองที่ยอมรับเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนเป็นอันดับต้นๆ (Smartphone Friendly) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ความสามารถในการเข้าถึงอุปกรณ์สมาร์ทโฟนก็ยังคงเป็นทั้งความท้าทายและอุปสรรคของธุรกิจ “คนขับแท็กซี่ส่วนใหญ่วันนี้มีสมาร์ทโฟนกันหมด และแนวโน้มราคาเครื่องก็ถูกลง แต่สำหรับคนขับที่ไม่มีสมาร์ทโฟนเราก็ไม่เคยละเลยและหาวิธีการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด” โดยแกร็บแท็กซี่เลือกใช้วิธีการรับฟังความคิดเห็นทั้งทางฝั่งออนไลน์อย่างกรุ๊ปแชทในแอพฯ ไลน์ (Line) หรือฝั่งออฟไลน์จากพื้นที่บูธที่ตั้งเพื่อให้คำปรึกษาในบริเวณที่มีแท็กซี่หมุนเวียนเข้าออกมากๆ อย่างสถานีขนส่งสายใต้ใหม่หรือตามปั๊มก๊าซต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในการเป็นแอพฯ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งกับผู้ใช้บริการและเป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อพร้อมช่วยเหลือผู้ให้บริการได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด 

Tips for Entrepreneurs: 
- ขั้นตอนการวิจัยพฤติกรรมผู้ใช้ในแต่ละพื้นที่นั้นสำคัญมาก เพราะจะเป็นปัจจัยในการกำหนดทิศทางของผู้ให้บริการ 
- ในฐานะที่เป็นธุรกิจเพื่อสังคม ต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับผู้มีผลประโยชน์ร่วม (Stakeholder) ซึ่งก็คือคนขับแท็กซี่ เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้ในระยะยาว 
- รับฟังฟีดแบ็กจากผู้ใช้งานในทุกช่องทางอย่างสม่ำเสมอ อาจเป็นแบบสอบถามหรือคอมเมนต์ในโซเชียล มีเดีย เพราะจะเป็นฐานข้อมูลในการปรับปรุงการให้บริการที่ดีมากยิ่งขึ้น 

GRABTAXI 
เว็บไซต์: grabtaxi.com 
Facebook: GrabTaxi Thailand 
App on Google Play: GrabTaxi: Taxi Booking 
App on App Store: GrabTaxi: Book a Taxi 

จุดเริ่มต้นของ GRABTAXI ผลงานของ แอนโธนี ตัน (Anthony Tan) และโฮย หลิง ตัน (Hooi Ling Tan) สองนักศึกษาชาวมาเลเซียจากฮาร์วาร์ด บิสิเนส สกูล ที่คว้ารางวัลการแข่งขันแผนธุรกิจฮาร์วาร์ด บิสิเนส แพลน (Harvard Business Plan) เมื่อปี 2011 เงินรางวัลจากการประกวดในครั้งนั้นได้กลายมาเป็นต้นทุนสำหรับดำเนินธุรกิจ ภายใต้รูปแบบกิจการเพื่อสังคมซึ่งกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตประจำวันของ ผู้คน ทั้งขั้นตอนการใช้งานและช่องทางการใช้บริการแบบออนไลน์ ก่อนจะพัฒนาจนกลายเป็นธุรกิจจริงที่เปิดตัวครั้งแรกที่มาเลเซียในปี 2012 ในแอพฯ ที่ชื่อว่า MyTeksi ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นและขยายออกสู่อีก 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างสิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ จนมาถึงประเทศไทยในปีที่ผ่านมา

เรื่อง: กมลกานต์ โกศลกาญจน์ 

No comments: