1/03/2015

ที่เที่ยวบนดอยอ่างข่าง

สถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง ตั้งขึ้นโดยสืบเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร ที่หมู่บ้านผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบริเวณ ดอยอ่างขางทรงทอดพระเนตรเห็นว่า ชาวเขาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณนทำการปลูกฝิ่น แต่ยัง ยากจน ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่งสำคัญต่อ ระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่น ๆ ของประเทศได้ จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศที่หนาวเย็นมี การปลูกฝิ่นมากไม่มีป่าไม้อยู่ เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนักประกอบกับ พระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จาก การปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาว ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลอง วิธี ติดตาต่ิอกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1500 บาท เพื่อซื้อ ที่ดินและไร่ในบริเวณ ดอยอ่างขาง ส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ. ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้้หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้สนองพระบรมราช โองการในตำแหน่งมูลนิธิโครงการหลวง ใช้เป็น สถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิด ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผักไม้ดอก เมืองหนาวเพื่อเป็นตัวอย่าง แก่เกษตรกรชาวเขาในการ นำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูก ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้ พระราชทานนามว่า สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ดอยอ่างขาง
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อยู่ในเขตหมู่บ้านคุ้มหมู่ที่ 5 ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,400 เมตร คำว่า “อ่างขาง” ในภาษาเหนือหมายถึง อ่างรูปสี่เหลี่ยมตามลักษณะของ ดอยอ่างขางซึ่งเป็นดอยที่มีรูปร่างของหุบเขา ยาวล้อมรอบ ประมาณ 5 กิโลเมตร กว้าง 3 กิโลเมตร ตรงกลางของอ่างขางเดิม เป็นเป็นภูเขาสูง เช่นเดียวกับบริเวณโดยรอบ แต่เนื่องจากเป็นภูเขา หินปูน เมื่อถูกน้ำฝนชะก็จะค่อยๆ ละลายเป็น โพรงแล้วยุบตัวลงกลายเป็นแอ่ง มีพื้นที่ราบ ความกว้างไม่เกิน 200 เมตร

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
 มีพื้นที่ใช้ทำการเกษตรในงานวิจัยประมาณ 1,800 ไร่ มีหมู่บ้านชาวเขาที่ทางสถานีฯให้การส่งเสริมและ พัฒนาอาชีพรวม 6 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านหลวง บ้านคุ้ม บ้านนอแล บ้านปางม้า บ้านป่าคา และบ้านขอบด้ง ซึ่งประกอบไปด้วย ประชากร 4 เผ่าได้แก่ ไทยใหญ่ มูเซอดำ ปะหล่อง และจีนฮ่อ อุณหภูมิเฉลี่ย ตลอดปีประมาณ 17.7 องศาเซล เซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศา ในเดือนเมษายน และอุณหภูมิต่ำสุด–3 องศาเซเซียสในเดือนมกราคม ซึ่งหากมาเที่ยวในช่วงดังกล่าวอาจพบกับ แม่คะนิ้งหรือ น้ำค้างแข็งได้
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
1. สถานีท่องเที่ยวในโครงการเกษตรหลวงดอยอ่างขาง
สวนแปดสิบ
เป็นสวนจัดกลางแจ้งจะอยู่ด้านในสถานีฯ ตรงข้ามบริเวณสโมสร ซึ่งสวนนี้ตั้งชื่อตามอายุขององค์ประธานมูลนิธิ โครงการหลวง หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ในวาระที่ทรงมีอายุครบ 80 ชันษา โดยจะจัดตกแต่งสวนในสไตล์อังกฤษ ด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ เมืองหนาว นานาชนิด เช่น กะหล่ำประดับ เดซี ลินาเลีย ชบาอาบูติลอน ฯลฯ
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
สวนคำดอย
เป็นสวนที่รวบรวมพันธุ์ไม้ดอกตระกูลโรโดเดนดรอน (Rhododendron) หรือ ดอกคำดอย(กุหลาบพันปลี) ซึ่งดอก คำที่ปลูกส่วนใหญ่ จะเป็นพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ ฮอลแลนด์ และ อังกฤษ ซึ่งจะไม่มีปลูกที่ อื่นนอกจากที่สวนแห่งนี่ที่เดียว และลักษณะเด่น ของกุหลาบพันปลีที่นำเข้าจะเป็นกุหลาบพันปลีด่าง คือลักษณะ ต้นใบจะด่างในบ้างพันธุ์ดอกกุหลาบพันปลีจะมีสีเหลืองและสีชมพู ส่วนกุหลาบพันปลีพันธุ์พื้นเมืองนั้น จะมีดอก สีแดง หรือ สีขาว นอกจากนี้ยังมีการปลูกไม้ดอกเมืองหนาวหลายชนิด เช่น อะซาเลีย คาเมเลีย ลาเวนเดอร์ ซึ่งสวนนี้จะอยู่ตรงข้ามกับสวนแปดสิบ
ดอยอ่างขาง
สวนหอม
สวนนี้จะอยู่ติดกับบริเวณสโมสรของสถานีฯ โดยภายในสวนจะรวบรวมพันธุ์ไม้ หอมทุกชนิดทั้งพันธุ์ไม้หอมของ ไทยและพันธุ์ไม้หอม จากต่างประเทศ เช่น หอมหมื่นลี้ เนสเตอเตียมคาร์เนชัน เจอราเนียม หญ้าหอม ลาเวนเดอร์ ลาเวนดริน และ แมกโนเลีย (ไม้ยืนต้นตระกูลจำปีป่า)
สวนบอนไซ
บริเวณด้านในสวนบอนไซจะจัดแสดงบอนไซหลากหลาย รูปแบบ และยังมีบอนไซที่มีอายุยืนที่สุดในโลกให้ได้ ชมอีกด้วย นอกจากนี้โดมรูปทรงหกเหลี่ยมจะจัดแสดงพืชภุเขาเขตร้อนและ ดอกกล้วยไม้จิ๋วที่สุดที่จะ ออกดอก ใน ช่วงเดือน มกราคมของทุกปี และมีสวนหินธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับพันธุ์ไม้ป่าหลากชนิดและจุด ชมวิวที่จะมอง เห็นทัศนีย์ภาพของสถานีฯได้ทั่วบริเวณ
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขาง 
แปลงไม้ผลเมืองหนาว
เป็นแปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาวชนิดต่างๆ ได้แก่ พีช บ๊วย พลับ สาลี่ พลัม กีวีฟรุ๊ต ราสพ์เบอรี่ บูลเบอรี่ สตรอเบอรี่ หยางเมย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง สามารถมองเห็นแปลงไม้ ผลไม้ เมืองหนาว เหล่านี้ได้ตลอดเส้นทางที่ขับรถรอบ บริเวณสถานีฯ แต่เนื่องจากแปลงไม้ผลเมืองหนาวเหล่านี้เป็น แปลงงานทดลอง นักท่องเที่ยวจึึงได้รับอนุญาตให้ชื่นชมความสวยงามและ แปลกตาของไม้ผลเหล่านี้แค่บริเวณ ภายนอกแปลงเท่านั้น
โรงเรือนทดสอบพันธุ์กุหลาบตัดดอก
ภายในโรงเรือนกุหลาบท่านจะได้ชื่นชมกับกุหลาบตัดดอกสายพันธุ์จากประเทศเนเธอร์แลนด์กว่า 7 สายพันธุ์ ซึ่งจะมีสีสันสวยงามและมี กลิ่นหอมพร้อมรอผู้มาเยือน
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
สวนสมเด็จ
เนื่องจากเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนาง เจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จยัง ดอยอ่างขาง และหลังจากเสร็จพระราชภาระกิจการทรงงานแล้วจะทรงประทับพักผ่อนพระอิริยาบถในสวนแห่งนี้ โดยลักษณะของ สวนจะเป็นสวนหินที่เกิดขึ้นเองตาม ธรรมชาติและภายในสวนจะรวบรวมพันธุ์ไม้ประเภทฝิ่น ประดับ ดอกป๊อปปี้ และ ไม้เมืองหนาวชนิดต่างๆ ได้แก่ กระดุมเงินกระดุมทอง ปักษาสวรรค์ เป็นต้น
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
เรือนดอกไม้
เป็นโรงเรือนที่รวบรวมพันธุไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวชนิดต่างๆ มากมาย อาทิเช่น บีโกเนีย รองเท้านารี พืชกิน แมลง มีมุมน้ำตก ในสวนสวย ซึ่งดอกไม้ในสวนเหล่านี้จะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันออกดอกตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงเรือนจะมีจุดจำหน่าย ผลผลิตของสถานีและผลิตภัณฑ์แปรรูป พร้อมมีมุมนั่งพักจิบกาแฟอีกด้วย
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
กุหลาบอังกฤษ
เหตุที่เรียกกุหลาบก็เนื่องมาจากกุหลาบที่ปลูกในสวนแห่งนี้ เป็นกุหลาบที่นำเข้าจากประเทศอังกฤษ โดยหม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งสายพันธุ์ที่นำเข้ามาปลูกนั้นมีมากกว่า 200 กว่าสายพันธุ์ และ กุหลาบเหล่านี้จะผลิดอกสวยที่สุดจะเป็นช่วงเดือนเมษายนของทุกปี
พระตำหนัก
เป็นเรือนที่ประทับแรมและศาลาทรงงานเมื่อพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จยังสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โดยทั่วบริเวณ จะตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ป่า ไม้ดอกเมืองหนาวต่างๆโดยนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมบริเวณด้านนอกของ พระตำหนักได้
โรงเรือนรวบรวมพันธุ์ผัก
เป็นโรงเรือนที่รวบรวมพันธุ์ผักเมืองหนาวชนิดต่างๆ ที่ปลูกในพื้นที่โครงการหลวง ซึ่งมีพื้นที่ที่ใช้ปลูกผักในโรงเรือน 1,165 ตารางเมตร โดยจัดแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าเยี่ยมชม โดยชนิดผักที่ปลูกในโรงเรือนได้แก่ ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำดาว กะหล่ำปลี, ผักตระกูลแตง เช่น ซุกินีเหลือง ฟักประดับ, ผักตระกูลมะเขือ เช่น มะเขือเทศเชอรี่ มะเขือม่วงก้านดำ , ผักตระกูลแครอท เช่น พาร์สเลย์ เซเลอรี่ และ ผักตระกูลถั่ว เช่น ถั่วหวาน ถั่วปากอ้า
จุดชิมชา
จะตั้งอยู่บริเวณใกล้กับสวนบอนไซ โดยขับรถผ่านหน้าสวนบอนไซ แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปตามถนนจะพบจุดชิมชา ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตชาเขียวของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมขั้นตอนการผลิตชา พร้อมการ สาธิตวิธีการชงชาและยังจะได้ชิมชาอีกด้วย
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
เส้นทางเหล่านี้จะอยู่ในแปลงสาธิตการปลูกป่าทดแทน จะเป็นเส้นทางเดินป่าระยะสั้นโดย เป็นเส้นทางที่ทางสถานี
กำหนดขึ้นรอบๆสถานีฯ ซึ่งมีเส้นทางทั้งหมด 9 เส้นทางด้วยกัน และพันธุ์ไม้ที่ปลูกในแปลงสาธิตเหล่านี้จะเป็น พันธุ์ไม้ที่นำเข้ามาปลูกจากประเทศไต้หวัน อาทิเช่น สน การบูร เมเปิล ฯลฯ
จุดชิมชา
จะตั้งอยู่บริเวณใกล้กับสวนบอนไซ โดยขับรถผ่านหน้าสวนบอนไซ แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปตามถนนจะพบจุดชิมชา ซึ่ง เป็นสถานที่ผลิตชาเขียวของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมขั้นตอนการผลิตชาพร้อม การสาธิต วิธีการชงชาและยังจะได้ชิมชาอีกด้วย
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
เส้นทางเหล่านี้จะอยู่ในแปลงสาธิตการปลูกป่าทดแทน จะเป็นเส้นทางเดินป่าระยะสั้นโดย เป็นเส้นทางที่ทางสถานี กำหนดขึ้นรอบๆสถานีฯ ซึ่งมีเส้นทางทั้งหมด 9 เส้นทางด้วยกัน และพันธุ์ไม้ที่ปลูกในแปลงสาธิตเหล่านี้จะเป็น พันธุ์ไม้ ที่นำเข้ามาปลูกจากประเทศไต้หวัน อาทิเช่น สน การบูร เมเปิล ฯลฯ
1.จุดชมพระอาทิตยขึ้น
เป็นจุดที่อยู่ระหว่างเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปบ้านขอบด้งและนอแล จุดนี้จะเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น ได้สวยงามโดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกตอนเช้า ทำให้เป็นจุดท่องเที่ยวที่คึกคักอีกจุดหนึ่ง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
2.จุดชมทะเลหมอก
จะอยู่ก่อนถึงไร่สตอเบอรี่ขั้นบันได เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยแห่งหนึ่งของดอกอ่างขาง โดยจะมีสา หมอก
บางๆ คลอเคลียไปตามไหล่เขาเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
3.ไร่สตอเบอรี่ ขั้นบันได 
ไร่สตอเบอรี่ที่ปลูกตามไหล่ขั้นเป็นขั้นบันไดลดหลั่นกันลงมา หากในยามเช้าจะได้พบกับแสงแดดอุ่นพากผ่าน สายหมอกในยามเช้า ตามไหล่เขาที่อยู่เบื้องหลัง และยังได้เห็นวิถีชีวิตชาวบานที่มาเก็บสตอเบอรี่ในยามเช้าด้วย
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
4.จุดชมวิวชายแดนไทยพม่า
จุดนี้จะตั้งอยู่ ณ ฐานทหารไทยบริเวณเดียวกับหมู่บ้านนอแล ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างชายแดนไทยและชายแดน ของประเทศพม่า ดังนั้นนักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็น
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
5.หมู่บ้านนอแล
เป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผาปะหล่องที่อพยพมาจากประเทศพม่า ซึ่งหมู่บ้านจะตั้งอยู่ห่างจากตัวสถานีฯประมาณ 5 ก.ม.นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชาวปะหล่องได้ นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกจำหน่าย อาทิเช่น กระเป๋า,ผ้าพันคอ,ผ้าถุง ซึ่งถือเป็นฝีมือของชาวเขาเองแถบทั้งสิ้น
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
6หมู่บ้านขอบด้ง
ตั้งอยู่บริเวณสันขอบอ่างระหว่างพื้นที่ดอยอ่างขางและอำเภอฝาง โดยอยู่ห่างจากสถานีฯออกไปประมาณ 4 กิโลเมตรเป็นหมู่บ้านของชาวมูเซอดำที่มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่เรียบง่าย ซึ่งภายในหมู่บ้านจะมีศูนย์หัตถกรรมที่ จำหน่ายสินค้าที่ระลึก เช่น กำไลหญ้าอิบูแค ตะกร้าสาน ฯลฯหมู่บ้านคุ้มบ้านคุ้มจะตั้งอยู่บริเวณ ด้านหน้าสถานีฯ ซึ่งประกอบไปด้วยคนหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวไทยใหญ่,ชาวพม่า และชาวจีนฮ่อ โดยส่วนมากชาวบ้านจะประกอบ อาชีพด้านการค้า เช่น การขายของที่ระลึก,ผลไม้ดอง แช่อิ่ม , เปิดบริการด้านอาหารและที่พักเพื่อรองรับ นักท่องเที่ยว
7.หมู่บ้านหลวง
เป็นหมู่บ้านของชาวจีนยูนานที่อพยพมาจากประเทศจีน ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยอาชีพหลักของ ชาวบ้าน จะเป็นอาชีพด้าน การเกษตร ซึ่งจะปลูกผลไม้ อาทิเช่น พีช,พลัม,สาลี่ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้าน ยังมีี ร้านอาหาร จีนยูนาน จำหน่ายข้าวซอย และ ซาลาเปารสชาดดี สไตล์จีนยูนานให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิมอีกด้วย ทัศนียภาพของฝั่งประเทศพม่าได้ นอกจากนี้ ยังจะได้ชมแบบ บ้านตัวอย่างของทหารว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร 8.เขาหัวโล้น เขาหัวนก
เป็นชื่อของภูเขาสองลูกของไทยและพม่า โดยที่เขาหัวโล้นจะอยู่ในฝั่งไทยส่วนเขาหัวนกจะอยู่ฝั่งพม่า และเราจะ สังเกตที่ตั้งของภูเขาทั้งสองลูกนี้ได้ เพราะจะอยู่ด้านซ้ายมือระหว่างเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปหมู่บ้านนอแล
9.จุดสุงสุดของดอยอ่างขาง
จุดนี้จะเป็นจุดที่สูงที่สุดของดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ด้านนอกสถานีฯ โดยจะเริ่มเส้นทางบริเวณจุดชมนกและเส้ ทาง เดินกุหลาบพันปี ซึ่งจะใช้เวลาเดินเท้าขึ้นไปประมาณชั่วโมงครึ่ง ซึ่งยอดจะมีความสูง 1,928 เมตรจากระดับ น้ำทะเล หากนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวบนยอดในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ของทุกปี ท่านจะได้เห็นกุหลาบ พันปีที่ะออกดอก ตลอดเส้นทางที่เดินขึ้นไปยอดดอยทีเดียว
10.ดอกพญาเสือโคร่งบานดอยอ่างขาง
หากเรามาเที่ยวดอยอ่างขางในช่วงปลายธันวาคม -กลางเดือนมกราคม ของทุกปี จะพบกับเส้นทางสีชมพูของ ดอกพญาเสือโคร่ง ที่บานสะพรั่ง ระหว่างเส้นทางไปยังดอยอ่างขางและตามจุดเที่ยวๆต่าง โดยเฉพาะบริเวณโครง การหลวงซึ่งจะมีให้เห็นมากที่สุด
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
10.ดงเบิ้ลเปลี่ยนสี
บนดยอ่างขางจะมีต้นเมบิ้ลซึ่งเป็นต้นไ้่ม้มืองหนาวปลูกอยู่ระหว่างทางจำนวนมาก และในช่วงหน้าหนาวประมาณ เดือนธันวาคมถึงกลางธันวาคม นอกจากจะได้ชมความงามของดอกพญาเสือโคร่งแล้ว ยังได้ชมความสวยงามของ เมเบิ้ลเปลี่ยนสีทั้งสีแดง สีเหลือง สลับกันไป หากขับรถไประหว่างสองข้างทาง บรรยกาศเหมือนอยู่ในต่่งประเทศ
ดอยอ่างขางดอยอ่างขาง
- ชมแปลงสาธิต ผัก ผลไม้ และไม้ดอกเมืองหนาวภายในศูนย์ฯ สามรถขับรถวนเป็นวงกลม ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท ยานพาหนะคันละ 50 บาท
- เยี่ยมหมู่บ้านหลวง สัมผัสชีวิตชาวจีนฮ่อ
- เยี่ยมหมู่บ้านนอแล สัมผัสวิถีชีวิตชาวปะหล่อง อดีตชนเผ่าดั้งเดิมของพม่า มีผลิตภัณฑ์หัตถกรรมของกลุ่มแม่บ้านจำหน่ายและเยี่ยมฐานปฏิบัติการนอแล ชมชายแดนไทย-พม่า
- เที่ยวบ้านขอบด้ง สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาเผ่ามูเซอมีมัคคุเทศก์น้อยพาเยี่ยมชมภายในหมู่บ้าน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
- เดินป่าระยะสั้น ชมความงามธรรมชาติของผืนป่าปลูกทดแทน
- กิจกรรมดูนก ที่มีทั้งนกประจำถิ่นและนกหายากต่างถิ่นให้ศึกษาหลากสายพันธุ์
- จุดชมวิว-จุดกิ่วลมชนิด เป็นลานชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตกดิน และสัมผัสทัศนียภาพของถนนทางขึ้นดอยอ่างขาง 
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โทร. 0 5345 0107 - 9 
บริการรถสองแถวนำเที่ยวดอยอ่างข่างพร้อมรับส่ง โดยจะรับส่งที่ปากทางขึ้นดอยอ่างขางหลังจากนั้นจะนำเที่ยว ตามจุดต่างๆ ดังนี้ โครงการเกษตรหลวงดอยอ่างขาง จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น จุดชมทะเลหมอก ไร่สตอเบอรี่ขั้นบันได จุดชมวิวชายแดนไทยพม่าหมู่บ้านนอแล ติดต่อคุณนิรุต โทร 087 191 5622 ราคาเหมาประมาณ 1,000-1,500 บาท

No comments: