12/12/2014

เส้นทางสีเขียวเที่ยวหน้าฝน เขาค้อ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า

เส้นทางสีเขียวเที่ยวหน้าฝน เขาค้อ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า

หากใครตกหลุมรักสีเขียวและสายหมอกในฤดูฝน  บนเส้นทางสีเขียวแห่งสายแห่งสายหมอกในเส้นทางนี้คงเป็นที่ชื่นชอบและน่าเดินทางมาท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว กับเส้นทางเขาค้อ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า ในฤดูฝน เป็นเส้นทางแห่งความสดชื่น และความเขียวขจี  บนเส้นทางสีเขียวสายนี้จะสวยงามแค่ไหน มีอะไรที่แตกต่างไปจากช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงพีคของทั้งสามแห่งบ้างลองมาชมกันค่ะ
cover
ทริปเส้นทางสีเขียวของฉัน ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน เดินทางกลางเดือนสิงหาคม โดยเดินทางออกจากกรุงเทพเวลาเที่ยงคืนครึ่ง เพื่อให้ถึงเขาค้อ ก่อน 6 โมงเช้า เพื่อตั้งใจจะไปชมทะเลหมอกยามเช้าที่ จุดวิวทะเลหมอก หลังไปรษณีย์เขาค้อ จากการหาข้อมูลบอกว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกบนเขาค้อที่มีโอกาสได้เห็นมากและสวยอีกจุดหนึ่ง เส้นทางมาที่นี่ง่ายมากจากแยกแคมป์สนขึ้นตรงไปยังถนนเส้นเขาค้อผ่านพระบรมธาตุเจดีย์ไปไม่ไกล จะเห็นร้านกาแฟ Big coffee ไปรษณีย์เขาค้ออยู่ข้างร้านนี้ค่ะ  มาเที่ยวเขาค้อหลายครั้งแต่ส่วนใหญ่จะมาในฤดูหนาว หายคนอาจเห็นหมอกในฤดูนี้บ้าง แต่ฉันสารภาพเลยไม่เคยเห็นหมอกที่เขาค้อในช่วงหนาวซักที แต่เมื่อมาในฤดูก็สมใจเพราะจะเห็นหมอกได้ง่ายกว่า สายหมอกบางของฝนลอยคลอเคลียไปตามไล่เขาถึงแม้อาจไม่มากมายดั่งตั้งใจไว้เพราะในวันนั้นลมพัดแรง แต่ก็ถือว่าเป็นสายหมอกที่ทำให้ฉันตื่นเต้นมากเลยทีเดียว

DEW_7041

เที่ยวเขาค้อหน้าฝนบรรยากาศดีได้ความเขียวขจีและทะเลหมอก ที่สำคัญเงียบมาก ในจุดนี้คงมีแค่กลุ่มพวกเรา 10 คน ยืนชมวิว ถ่ายรูปเท่านั้น สบายจริงไม่ต้องไปเบียด ไปแย่งเที่ยวกับใครเหมือนตอนหน้าหนาว

DEW_7089
DEW_7460

ชมทะเลหมอกเขาค้อ ตรงจุดชมวิวไปรษณีย์แล้วเดินเล่นมายังร้านกาแฟ big coffee สั่งเครื่องดื่มทานและตั้งใจมาล้างหน้ากันที่นี่ด้วย ในหน้าฝนเวลา  7 โมงเช้า ร้านยังไม่เปิดค่ะ เด็กที่ร้านบอกว่าจะเปิด 8 โมง

DEW_7167

เดินมาหลังร้านซึ่งเป็นระเบียงยื่นออกไป มีที่นั่งให้ชมวิวหลายจุด  วิวนี้จะเป็นวิวเดียวกันกับจุดชมวิวไปรษณีย์เขาค้อ เพียงแต่องศาในการมองจะคนละมุมกันค่ะ

DEW_7161
DEW_7122

ถือว่าเป็นร้านกาแฟที่วิวสวย และเป็นจุดชมวิวและทะเลหมอกที่ดีอีกจุดหนึ่งของเขาค้อเลยทีเดียว

DEW_7148
DEW_7126

วิวเขียวขจีมองจากระเบียงของร้าน  มีคำเปรียบเปรยว่า เขาค้อ คือ สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เมื่อได้เห็นวิวนี้ มันใช่เลยค่ะ

DEW_7135

11 โมงกว่า ย้อนกลับไปทางเส้นหล่มเก่า มุ่งหน้าสู่เส้นทางสีเขียวต่อไปที่ ภูทับเบิก  คืนนี้พวกเราจะค้างกันที่ ณ ไร่ภูทะเลหมอก ซึ่งตั้งอยู่บนยอดสูงสุดชองภูทับเบิก ก่อนมาหาข้อมูลและภาพที่พักภูทับเิบิกมาสมควรว่าที่ไหนวิวสวยสุด  สุดท้ายมาลงเอยที่นี่  บ้านพักที่เห็นไกลๆ ยอยู่ด้านหน้า มีประมาณ 9 หลัง แบบนอนได้ 2 คน ราคา 1000 บาท  3 คน  1200 และ 4 คน ราคา 1500 บาท ที่พักน้ำอุ่น ทีวี และร้านอาหารเล็กๆให้บริการค่ะ เบอร์โทร 091 289 6327  สำหรับฉันเท่าที่เห็น ไร่ภูทะลหมอก คือ ที่พักที่วิวสวยที่สุดในภูทับเบิก สามารเห็นวิวรอบทิศแบบ 360 องศา ไม่มีอะไรบัง และอยู่ไม่ไกลจากจุดวิวสูงสุดของภูทับเบิก เจ้าของใจดีด้วย


เดินจากบ้านพักมาเพียง 10 ก้าว ก็จะเห็นวิวแบบนี้เลย


หลังจากเก็บของพักผ่อนซักพัก ก็ไปรับประทานอาหารกลางวัน ในหน้าฝนที่ภูทับเบิกค่อนข้างเงียบไม่มีร้านอาหารที่เปิดเป็นเรื่องเป็นราวนอกจากที่ร้านโรงเตี้ยม เมนูมีให้เลือกเยอะแต่ราคาแพงค่ะ เช็คบิลมา 11 คน  3400 บาท ราคาสูงไปเมื่อเทียบกับอาหารง่ายๆที่สั่งประมาณ 6อย่าง มีขาหมูที่น่าจะแพงสุด  350 บาท สำหรับร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในสถานที่เราเรียกว่าบ้านๆ ไม่ได้หรูหราอะไร หันไปดูราคาส่วนใหญ่หลักร้อยหมด แม้แต่แกงจืดเต้าหู้หมูสับชามละ 200 บาท   ไข่เีจียวถ้าจำไม่ผิด 120 บาท และน่าแปลกมากที่กะหล่ำปลีแช่น้ำปลาที่ปลูกกันเองราคาหัวละไม่กี่บาท ราคาสูงจานละ 150 บาท มีเพียงเปลือกกะหล่ำไม่กี่ชิ้น รสชาติอาหารที่นี่อร่อยใช้ได้ค่ะ แต่ราคาอาหารค้ากำไรเกินควรไปหน่อย เช้าวันต่อมาเลยทานที่ไร่ภูทะลเลหมอก เพราะเพิงรู้ว่ามีร้านอาหารด้วยอยู่ด้านหน้า เพียงแต่จะเป็นซุ้มร้านเล็กๆ มีเมนูมีไม่กี่อย่างแต่รสชาติก็โอเคเลยค่ะ ที่สำคัญไม่แพงมากด้วย
หน้าตาอาหารแบบง่ายๆ ที่  ร้านโรงเตี้ยม  แต่ราคาไม่ง่าย
Untitled-2

กลับไปที่พักเดินเล่นชมวิว ด้านข้างที่พักจะเป็นวิวยอดฮิตของจุดชมวิวสูงสุดที่ทุกคนต้องมาชมและเก็บภาพภาพ กับเส้นทางภูเขาคดเคี้ยว มาในหน้าฝนก็จะได้เห็นสายหมอยค่อยๆลอยผ่านภูเขาไปตลอดเวลา


ฉันเฝ้ารอและยืนมองสายหมอกในมุมนี้ไปเรื่อยๆ แต่ไม่รู้สึกเบื่อ เหมือนเราได้รอเหตุการณ์สำคัญอะไรซักอย่างที่เราอย่างเจอมานาน หมอกบางที่ลอยผ่านไป รวมถึงหมอกหนา ในเวลานี้บอกสดขื่นและสุขแท้ที่ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ เคยมาตอนหน้าหนาวก็จะเป็น feel อีกแบบที่แสงสวย ฟ้าใส  แต่จะไม่ได้มีโอกาสเห็นสายหมอกแบบนี้ซักที


เมื่อฉันยืนอยู่ตรงจุดนี้ภูเขาเหมือนใกล้กันนิดเดียว


เดินไปอีกนิดจะเป็นจุดชมวิวสูงสุดของภูทับเบิก กับวิวถนนสายเดิมในอีกมุม ในเวลานี้หมอกปกคลุมหนาเลยทีเดียว ฝนตกๆ หยุดๆ เป็นระยะ มาช่วงเดือน ส.ค.- ก.ย. เจ้าของที่พักบอกว่าบางวันลมค่อนข้างแรงอาจทำให้หมอกฝุ่น แรงขนาดสังกะสีปลิวและบ้านสั่น เดินไปตัวแทบปลิวค่ะ

DEW_7395

ระหว่างทางเดินกลับมายังที่พัก เห็นวิวในอีกมุม มองเห็น heaven hill อยู่ไกลๆ  มาช่วงเดือนนี้ไม่มีกะหล่ำปลีให้ชม จะเห็นแต่ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวที่ขึ้นปกคลุมภูเขา  แต่การดูกะหล่ำก็ไม่ใช่จุดประสงค์ของฉันอยู่แล้ว ตั้งใจมาช่วงนี้เพราะอยากได้ไอหมอกมากกว่า กะหล่ำฉันเห็นบ่อยแล้วในหนา้หนาว  หากใครอยากเห็นกะหล่ำปลีเต็มภูเขา ต้องมาช่วงเดือน ก.ค. และ ปลายต.ค- พ.ย.



ยืนถ่ายภาพตรงระเบียงที่พักในเวลานี้ภูทับเบิกมีที่พักขึ้นมาใหม่มากมาย

DEW_7451

บรรยากาศยามเย็นบริเวณจุดชมวิวขณะเดินไปขึ้นรถเพื่อทานอาหารเย็น เป็นเพียงเสี้ยววินาทีสั้นๆ กับแสงสุดท้ายที่ภูทับเบิก จากเมฆครึ้มฟ้าก็ค่อยๆเปิดที่ละนิดรับแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆแทรกผ่านเมฆเข้ามา จากนั้นก็ลอยและพุ่งเข้าหากัน บรรยากาศจริงสุดยอดกว่าในภาพถ่ายเยอะมาก

DEW_7487

เป็นวินาทีที่ทำให้ทุกคนในทริปต้องหยุดมองและถ่ายภาพตรงนี้อยู่นานเลยทีเดียว เพราะไม่คิดว่าในบรรยากาศครึ้มๆ ฝนตก ลมพัดแรง จะได้มีโอกาสเห็นแสงแบบนี้

DEW_7478

เช้าวันต่อมาตั้งใจตื่นมาดูทะเลหมอกในยามเช้าอีกครั้ง แต่ปรากฎว่าลมพัดแรงมาก หมอกฟุ้งกระจาย  เลยออกจากภูทับเบิกเร็วกว่ากำหนดเดิม เพื่อมุ่งหน้าไปยังเส้นทางสีเขียวสุดท้าย อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ออกมากจากปากทางภูทับเบิกเจอด่านเก็บเงินของอุทยานตั้งอยู่ด้านหน้า ใช้เวลาประมาณผ่านเส้นทางที่ขรุขระในบางช่วง 1 ชั่วโมง ก็มาถึง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามขึ้นชื่อ อย่าง ลานหินแตก ลานหินปุ่มปาชูธง น้ำตกหมันแดง น้ำตกร่วมเกล้าภราดร ในส่วนของน้ำตกต้องใช้เวลาเดินสมบุกสมบันพอสมควร  สำหรับคณะเราขอเที่ยวแบบง่ายๆ ตั้งใจมาชมดอกไม้ป่าที่กำลังผลิบานในช่วงฤดูฝน ที่ลานหินปุ่ม ระยะทางเดินชมธรรมชาติ ไปจนถึงลานหินปุ่มประมาณ 700 เมตร  ในฤดูฝนเขียวขจีและถูกปกคลุด้วยไอหมอกฝน

DEW_7619

เส้นทางไปลานหินปุ่ม จะได้พบเห็นดอกไม้และพันธุ์ไม้เขียวขจีบานสะพรั่งบนลานหินและตลอดสองข้างทางเดิน ซึ่งจะมีให้เห็นเฉพาะในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เห็นแล้วสดชื่นค่ะ ดอกไม้ที่เห็นเยอะ คือ ดอกเปราะภู ซึ่งเป็นดอกไม้ไฮไลต์ของที่นี่ บานในช่วงต้นเดือนก.ค. – ส.ค.  ดอกเปราะภูกเป็นพืชตระกูลขิง ข่า มีเหง้าอยู่ใต้ดินเหมือนดอกกระเจียว ซึ่งในยามหน้าฝนจะพบมากบริเวณลานหินแตก และลานหินปุ่ม ดอกเปราะภู ส่วนใหญ่ที่ขึ้นตามอุทยานฯ จะมีแต่สีชมพู แต่ที่ภูหินร่องกล้าไม่เหมือนที่อื่นจะเป็นสีขาว เนื่องจากแต่ละภูมิศาสตร์มีสภาพที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ดอกเปราะภู มีสีขาวสดสวยงาม

DEW_7616

พื้นหินถูกปกคุลมไปด้วยมอส ตะไคร่ และพันธุ์ไม้ต่างๆ


ดอกเอนอ้าสีชมพู เป็นดอกไม้ที่มักจะได้เห็นในที่สูงอากาศเย็นและชุ่มชื่น จะมีให้เห็นเยอะตลอดสองข้างทางที่เราไปลานหินปุ่ม


หากมาในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีจะเป็นเดือนของดอกลิ้นมังกร ซึ่งมีทั้งสีส้มและสีชมพูนับเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ป่าที่มีความสวยงามและพบได้ มากในช่วงฤดูฝน ดอกลิ้นมังกรที่เราพบเห็นที่ลานหินปุ่มจะเป็นสีส้ม ส่วนที่น้ำตกหมันแดงจะเป็นสีชมพู  ตอนแรกนึกว่าเจ้าดอกนี้จะมีให้เห็นเฉพาะน้ำตกหมันแดงเท่านั้น แต่ที่ลานหินปุ่มก็มีให้ดูด้วย เยอะพอสมควรค่ะ


เจ้าดอกนี้ไม่ทราบว่าชื่ออะไร แต่เห็นแล้วแปลกดีกำลังใกล้จะผลิดอกออกมาแล้ว


เจ้าต้นไม้ต้นนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยเห็ดยักษ์สีขาวขึ้นวนไปมารอบลำต้น   มองดูแล้วแปลกสวยดี


เดินชมธรรมชาติมาเรื่อยๆ ยิ่งใกล้ลานหินปุ่มก็จะเห็นก้อนหินลวดลายแปลกตา เคยมาในหน้าหนาวก้อนหินจะเป็นสีดำดูแห้งแล้ว  แต่มาในหน้าฝนหินแต่ละก้อนฉันรู้สึกว่ามันดูมีชีวิตด้วยลวดลายและต้นหญ้าสีเขียวที่ขึ้นแทรกระหว่างหิน

DEW_7768
DEW_7831

ยังคงเห็นดอกเปราะภูตลอดเส้นทาง

DEW_7814

ถึงแล้วลานหินปุ่ม ในเวลานี้หมอกฝนค่อยๆลอยผ่านไปมาตลอด


นั่งพักชมวิวถ่ายภาพก็เดินไปต่อยังจุดสุดท้าย ผาชูธง ระหว่างทางเดิน กันมาเจอเจ้าต้นนี้ขึ้นอยู่ตรงลานหินเยอะมาก เข้ามามองใกล้ๆ สวยจัง  ฉันไม่รู้ว่ามันชื่อดอกอะไร


เดินมาใกล้ถึงผาชูธง เจออีกดอกลักษณะล้ายดอกเข็ม มาเที่ยวภูหินร้องกล้าหน้าฝนสดชื่นแบบนี้นี่เอง


ผาชูธง กับเส้นทางสีเขียวทั้ง เขาค้อ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า เส้นทางสีเขียวในหน้าฝนทั้ง 3 แห่ง  อย่าคิดว่าหน้าฝน ไม่น่าเที่ยว แต่กลับกันหากมองว่ามันเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่เราอาจไม่ได้เห็นบ่อยหนัก แพคกระเป๋าเที่ยวตอนฝนตกก็ได้ความรู้สึกสดชื่น เขียวขจีไปอีกแบบที่บรรยากาศในหน้าหนาวอาจไม่สวยสดชื่นเท่าก็ได้ค่ะ
DEW_7890
- See more at: http://www.paiduaykan.com/travel/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%AD-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%81#sthash.hVFx6Gsn.dpuf

No comments: